- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (3,944)
- By Webmaster
- 16:19:24 | 17 ธ.ค. 2562
สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
Jubilee Park, Brussels, Belgium
ลานกว้างด้านหน้าประตูชัย
สวนสาธารณะจูบิลี่ (Jubilee Park) พื้นที่สีเขียวขนาด 74 เอเคอร์แห่งนี้ คือสวนสาธารณะที่แวดล้อมไปด้วยพิพิธภัณฑ์ อนุสรณ์สถาน สถาปัตยกรรม อันโดดเด่นในเมืองบรัสเซลส์ มีลานกิจกรรมที่ใช้สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญของเมือง นับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว ที่เหมาะต่อการมาเดินเล่นชมสถานที่น่าสนใจ ท่ามกลางบรรยากาศชวนสบายใจของสวนสาธารณะ
สวนจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประวัติ
สถาปัตยกรรมของประตูชัยเมืองมองจากระยะไกล
สวนสวนสาธารณะจูบิลี่ (Jubilee Park) ประวัติศาสตร์ของสวนจูบิลี่เริ่มขึ้นในปี 1852 จากความต้องการสร้างพื้นที่ออกกำลังกายสำหรับกองทหารรักษาการณ์ ทางการเมืองบรัสเซลส์จึงได้เลือกพื้นที่ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นที่ตั้งของสวนจูบิลี่ เป็นจุดหลักในการสร้าง โดยช่วงปี 1852 – 1856 ได้มีการปรับระดับพื้นดิน ติดตั้งท่อระบายน้ำทิ้ง การปลูกพันธุ์กล้าไม้หลายชนิดตลอดทั่วพื้นที่ โดยหลังจากเบลเยียมได้รับอิสระในการปกครองเมืองของตัวเองจากเหตุการณ์ปฎิวัติเบลเยียมในปี 1830 พระมหากษัตริย์เลออปอลที่ 2 (King Leopold 2) ก็ได้สั่งให้สร้างสวนสาธารณะจูบิลี่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การประกาศอิสรภาพของประเทศเบลเยียม และใช้เป็นสถานที่จัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปปี 1888 กับ ปี 1897
ซุ้มประตูทั้ง 3 ช่องของประตูชัย
โดยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดของสวนคงหนีไม่พ้น ประตูชัย (Parc du Cinquantenaire) ที่ดูแลการสร้างโดยสถาปนิกโจเซฟ บอร์โดซ์ (Joseph Bordian) ซึ่งตอนแรกนั้นประตูชัยมีเพียงอาคารสองหลังที่เป็นเหมือนปีกสมมาตรซึ่งคั่นด้วยเสากลมคู่ที่มีซุ้มประตูเดี่ยวอยู่ตรงกลาง ก่อนที่จะต้องใช้เวลาอีกกว่า 25 ปี ประตูชัยฉบับสมบูรณ์แบบที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันจะเสร็จเรียบร้อย ซึ่งประตูชัยแห่งนี้คือตัวแทนของการคะคานอำนาจระหว่างพระมหากษัตริย์กับรัฐบาล โดยหลังจากเสร็จไม่ทันวันครบรอบ 50 ปี ที่ประเทศได้อิสรภาพ พระมหากษัตริย์เลออปอลที่ 2 ก็ต้องการให้เสร็จภายในวาระครบรอบ 75 ปี แต่รัฐบาลรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องใช้เงินทุนของประเทศจำนวนมหาศาลหมดไปกับการสร้างประตูชัย และกว่าปัญหาคาราคาซังนี้จะได้รับการแก้ไข ด้วยการที่พระมหากษัตริย์เลออปอลที่ 2ได้ออกเงินส่วนพระองค์ รวมกับเงินคงคลังในทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นทุนเพื่อให้โครงการนี้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้ สถาปนิกโจเซฟ บอร์โดซ์ ก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว งานนี้จึงไปตกอยู่ที่ สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชาร์ลส์หลุยส์ (Charles Girault) ที่เปลี่ยนการออกแบบจากซุ้มประตูเดี่ยว มาเป็นประตูชัยที่แบ่งออกเป็นสามส่วนที่มีสัดส่วนเท่ากันทั้งหมด โดยใช้เวลาในการสร้าง 8 เดือน กับคนงานทั้งหมด 450 คนที่ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน ประตูชัยเวอร์ชั่นล่าสุดก็ได้รับการเปิดใช้งานในวันที่ 24 กันยายน 1905 ปีวาระครบรอบ 75 ปีการได้รับอิสรภาพของประเทศเบลเยียมพอดี เป็นประตูชัยทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่ล้อมด้วยปีกอาคารทรงสี่เหลี่ยมสำริด ความยาวรวม 30 เมตร สูง 45 เมตร ด้านบนของซุ้มประตูตรงกลางจะติดตั้งประติมากรรมรถม้าลากที่มีคนยืนถือธงประจำชาติ ทำจากทองสำริดอย่างดี และประติมากรรมที่เป็นตัวแทนของจังหวัดต่างๆ บริเวณเชิงโค้งของประตูชัย ส่วนปีกอาคารสองข้างจะแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นพิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง
ประติมากรรมรถม้าลากพร้อมผู้โบกธงประจำชาติที่ติดตั้งอยู่ด้านบนสุดของประตูชัย
ประติมากรรมที่ใช้เป็นตัวแทนจังหวัดต่างๆ ในประเทศเบลเยียม
โดยห้องโถงฝั่งเหนือสุดจะเป็นพิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหาร (Royal Museum of the Armed Forces and Military History) พิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากงานแสดงประวัติศาสตร์ทางทหารในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ปี 1910 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมอย่างสูง จึงมีการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ถาวรที่วัดคาทอลิกซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากสวนมากนัก ก่อนที่จะถูกย้ายมาไว้ตรงห้องโถงของประตูชัยในปี 1923 ไฮไลท์ของที่นี่คือส่วนจัดแสดงวัตถุทางการทหารกว่า 900 ชิ้น ทั้งชุดเครื่องแบบทางทหาร ยานพาหนะ อุปกรณ์ที่เคยถูกนำไปใช้ในการทำสงครามจริง มีหอการบิน (Aviation Hall) ซึ่งมีคอลเลกชั่นเครื่องบินทางการทหาร และพลเรือนย้อนหลังไปจนถึงต้นศตวรรษที่ 20
มาที่ทิศใต้ของประตูชัยจะเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ (Royal Museum of Art and History) ที่มีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์จากยุคดึกดำบรรพ์, โบราณวัตถุจากทวีปเอเชีย, คอลเลกชั่นศิลปะการตกแต่งในยุโรปตั้งแต่ยุคกลางถึงศตวรรษที่ 20 และบริเวณใกล้เคียงยังมีพิพิธภัณฑ์รถโบราณ (Autoworld) ซึ่งมีรถยนต์แบรนด์ยุโรปและอเมริกากว่า 250 คันที่ผลิตขึ้นมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงปี 1990 มาที่ด้านหัวมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสวนสาธารณะจะมีมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงบรัสเซลส์ซึ่งนอกจากเป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของผู้นับถืออิสลามในเมืองบรัสเซลส์แล้ว ยังใช้เป็นที่ทำการของศูนย์วัฒนธรรมแห่งเบลเยียมและศูนย์วิจัยอิสลามที่คอยให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิมที่อพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองบรัสเซลส์อีกด้วย และด้านหน้าของประตูชัยจะมีน้ำพุที่มีรูปแบบการปล่อยสายน้ำอย่างสวยงาม ทั้งลานกว้างของที่นี่ยังถูกใช้เป็นพื้นที่จัดงานอีเว้นท์สำคัญของเมืองหลายงาน
ทางเดินในสวนสาธารณะที่ขนาบด้วยต้นไม้สูงใหญ่
ม้านั่งในสวนสาธารณะ
โดยส่วนพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะก็ดีงามไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ภายในสวน เพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ หลากสายพันธุ์ ผ่านการออกแบบภูมิสถาปัตย์สไตล์ฝรั่งเศส (French Formal Garden) ซึ่งเป็นการออกแบบพื้นที่สีเขียวโดยตั้งอยู่บนฐานของความสมมาตร มีพื้นที่นั่งพักผ่อน หย่อนใจ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวในทุกช่วงของระยะเดินพอเหนื่อย ท่ามกลางพื้นที่ทั้งหมด 74 เอเคอร์ ที่ชวนสบายใจจากทัศนียภาพสบายตา บรรยากาศที่ร่มรื่น และเปี่ยมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้เยี่ยมชมกันตลอดทั้งวัน
รอแบร์ ชูมานรัฐบุรุษผู้มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งสหภาพยุโรป
ประติมากรรมน่าสนใจในสวนสาธารณะ
ประติมากรรมน่าสนใจในสวนสาธารณะ
ทางรถวิ่งใต้สวนสาธารณะ
สนามหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะ
การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html
- รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังสวนจูบิลี่
- รถยนต์ จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังสวนจูบิลี่ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที
- รถไฟ จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ ให้ขึ้นรถไฟสาย 1 หรือ สาย 5 ไปลงที่สถานี Schuman Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 250 เมตร ก็จะถึงสวนจูบิลี่ รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
บรรยากาศอันร่มรื่นในสวนสาธารณะ
สวนสาธารณะจูบิลี่ เปิดตลอดเวลา
พิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหาร เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09:00 น. – 17:00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.klm-mra.be/D7t/
พิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ วันอังคาร-วันศุกร์ เปิดเวลา 09:30 น. 17:00 น. / วันเสาร์-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10:00 น. – 17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.artandhistory.museum/
พิพิธภัณฑ์รถโบราณ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 10:00 น. – 18:00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.autoworld.be/onthaal
อัตราค่าเข้าชม
โซนนั่งพักผ่อนหย่อนใจบริเวณประตูชัย
สวนสาธารณะจูบิลี่ เข้าชมฟรี
พิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหาร ผู้ใหญ่ 10 ยูโร (19 ปีขึ้นไป) / นักเรียน-นักศึกษา-ข้าราชการ 8 ยูโร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.klm-mra.be/D7t/
พิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ ค่าเข้าชมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ยูโร – 20 ยูโร ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวต้องการเข้าชม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.artandhistory.museum/
พิพิธภัณฑ์รถโบราณ ผู้ใหญ่ 12 ยูโร / ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 10 ยูโร / นักเรียน นักศึกษา และผู้พิการ 9 ยูโร / เด็ก (6-11ปีเข้าชมฟรี) / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.autoworld.be/onthaal
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ทางเดินที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะ
ต้นไม้เก่าแก่ในสวนสาธารณะ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว สวนสาธารณะจูบิลี่ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
(Jubilee Park, Brussels , Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : สวนสาธารณะจูบิลี่ เข้าชมฟรี ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวภายในสวนจะมีค่าเข้าชมที่แตกต่างกันไป
เวลาเปิด-ปิด : สวนสาธารณะจูบิลี่ เปิดให้เข้าชมตลอดเวลา ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวภายในสวนจะมีช่วงเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างกันไป
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ