- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (3,870)
- By Webmaster
- 15:48:24 | 17 ธ.ค. 2562
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
Brussels Town Hall, Brussels, Belgium
สถาปัตยกรรมของศาลาว่าการเมือง
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) สถาปัตยกรรมทรงคุณค่าที่สุดหลังหนึ่งของเมืองที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 เป็นศาลาว่าการเมืองที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ศิลปะของบรัสเซลส์ผ่านงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม งานศิลป์ของตัวอาคาร ที่ทำให้ผู้ศึกษาเห็นภาพความยิ่งใหญ่ของพัฒนาการด้านศิลปกรรมของเมืองบรัสเซลส์ได้แบบครบถ้วนที่สุด
แผนที่ตั้ง ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประวัติ
บริเวณด้านหน้าของศาลาว่าการเมือง
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) หรือชื่อภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า ออแตล เดอ วีล เดอ บรว์แซล (Hotel de Ville de Bruxelles) นับเป็นอาคารแห่งเดียวในเขตจัตุรัสกร็อง ปลัสที่ยังมีพื้นที่บางส่วนซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิคดั้งเดิม (Gothic Architecture) หลงเหลืออยู่ และเป็นอาคารที่ถูกต่อเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ผ่านกลุ่มคนที่แตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัย ทำให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้านศิลปกรรมในแขนงต่างๆ ของบรัสเซลส์ผ่านรายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ตามอาคาร
ทัศนียภาพหอแขวนระฆังของศาลาว่าการเมืองจากร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงกับจัตุรัส
เริ่มจากสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกเพื่อใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศบาลประจำเมือง ในสไตล์กอธิคดั้งเดิม (Gothic Architecture) ที่ยาวขนานกับจัตุรัสจนสุดถนนชาร์ล บูล (Rue Charles Buls Street) แต่พื้นที่ทั้งหมดจะถูกแบ่งสร้างตามช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของอาคารจะเป็นบริเวณปีกซ้ายกับฐานของหอแขวนระฆังที่เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1401 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1420 เป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปนิกชาวเบลเยียมนาม ยาโกบ ฟัน ตีเนิน (Jacop van Thienen) ต่อมาในปี ค.ศ. 1444 ปีกขวาของอาคารก็ได้รับการสร้างขึ้นมาโดยสถาปนิก กีโยม เดอ วอแกล (Guillaume de Voghel) ผู้ที่กลายมาเป็นสถาปนิกเอกประจำเมืองบรัสเซลส์ในปี ค.ศ. 1452 ส่วนบนของอาคาร และหอแขวนระฆัง ได้รับการสร้างโดยสถาปนิกยัน ฟัน เรยส์บรุก (Jan Van Ruysbroeck) ทำให้อาคารสไตล์กอธิคดั้งเดิมแห่งนี้ ผ่านมือของสถาปนิกแห่งยุคถึง 3 คน จึงมีความแตกต่างทางด้านรายละเอียด ซึ่งทำให้อาคารมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก แต่ก็เหมือนสถาปัตยกรรมหลายหลังในจัตุรัสที่ถูกเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1695 ทำลายจนเสียหายอย่างหนัก จนล่วงมาถึงการบูรณะจัตุรัสครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1706 ศาลาว่าการก็ได้รับการดูแลโดยสถาปนิกกอร์แนย์ วาน แนร์แวน (Corneille Van Nerven) ซึ่งนอกจากการบูรณะแล้ว เขายังได้มีการเพิ่มปีกอาคารอีกสองแห่งทางด้านหลังของศาลาว่าการในแบบสถาปัตยกรรมบาโรก (Baroque Architecture) ที่แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1712 เกิดเป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่างกอธิคกับบาโรกที่แตกต่าง แต่ดูสวยงามจนขึ้นแท่นเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของจัตุรัสกร็อง ปลัสไปโดยปริยาย และได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาโดยตลอดนับตั้งแต่ตอนนั้น ตลอดจนมีการต่อเติมประติมากรรมหลายชิ้นเข้าไปตามจุดต่างๆ ของอาคาร ปรับปรุงพื้นที่ภายในให้เป็นที่จัดเก็บงานศิลป์สำคัญของเมือง ทำให้ศาลาว่าการแห่งนี้ เป็นอาคารที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดหลังหนึ่งของจัตุรัสในปัจจุบัน
โมเดลจำลองศาลาว่าการเมืองขนาดย่อส่วน
โดยสถาปัตยกรรมหลักของตัวอาคารที่มีความงดงาม และโดดเด่นก็มีตั้งแต่ หอแขวนระฆัง (Beffroi) โครงสร้างที่อยู่สูงที่สุดของอาคาร หอจะมีลักษณะเป็นฐานทรงสี่เหลี่ยมที่ติดตั้งซุ้มประตูทรงแหลม ชั้นสองจะเป็นหน้าต่างแบ่งซีกที่มีรูปปั้นเรียงแถวอยู่เหนือบานหน้าต่าง ส่วนชั้นสามจะมียอดหน้าบันทรงแหลมสลักเป็นลายดอกสามใบตามเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมโกธิค ส่วนชั้นสี่กับห้านั้นจะอยู่ในส่วนโครงสร้างทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และภายนอกหอคอยจะตกแต่งด้วยซุ้มหน้าต่างสูงปลายแหลมฉลุเป็นลวดลายสวยงาม มีการประดับงานแกะสลักตามส่วนบนของหน้าต่าง และยอดบนสุดของหอจะมีรูปหล่อนักบุญมีคาเอล (Michael The Archangel) อัครทูตสวรรค์ที่ชาวเมืองบรัสเซลส์ให้ความเคารพนับถือ โดยหอระฆังแห่งนี้ทำให้ศาลาว่าการกลายเป็นอาคารที่มีความสูงถึง 96 เมตร มาที่ส่วนผนังของอาคารจะมีข้อสังเกตเด่นชัดคือขนาดที่ไม่เท่ากันในทั้งสองฝั่งของผนังที่ขนาบหอแขวนระฆังอยู่ โดยผนังทั้งสองจะประกอบด้วยซุ้มทางเดินโค้งสัน (Arcade) ที่ส่วนบนสุดจะมีหินแกะสลักลายใบกะหล่ำเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ปรากฎอยู่ในสถาปัตยกรรมกอธิคเท่านั้น
สถาปัตยกรรมของหอแขวนระฆังและซุ้มทางเดินของศาลาว่าการเมือง
งานประติมากรรมที่ประดับอยู่ในศาลาว่าการเมือง
รายละเอียดทางสถาปัตยกรรมของซุ้มทางเดินของศาลาว่าการเมือง
ส่วนบริเวณฐานของช่องโค้งจะมีรูปปั้นเหล่าอัศวินจากเจ็ดตระกูลขุนนางแห่งบรัสเซลส์ (Lignages de Bruxelles), มีระเบียงยาวที่ติดตั้งหน้าต่างบานใหญ่แบ่งซีกอย่างสวยงาม มาที่รายละเอียดโครงสร้างที่ไม่สมมาตรกันของผนังสองฝั่งจะมีทั้งจำนวนช่วงเสาที่ต่างกัน, ลวดลายของหน้าต่างคนละแบบ, ซุ้มทางเดินที่มีไม่เท่ากัน ฯลฯ โดยเป็นเพราะผนังทั้งสองถูกสร้างขึ้นมาในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และรับผิดชอบโดยสถาปนิกที่แตกต่างกันนั่นเอง แต่จุดที่เป็นข้อผิดพลาดใหญ่หลวงในอดีตนี้ กลับกลายเป็นการสร้างอัตลักษณ์ให้ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ มีความโดดเด่น แตกต่าง จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998 และเป็นสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดในจัตุรัสกร็อง ปลัสไปโดยปริยาย
การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html
- รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์
- เดิน จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์สามารถเดินไปยังศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ได้เลย ระยะทางประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ได้ในวันอาทิตย์กับวันพุธ แบ่งเป็นรอบเวลา และโปรแกรมภาษาของไกด์นำทัวร์ที่แตกต่างกันสามภาษาดังนี้
วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. (ภาษาดัตช์) / 12:00 น. กับ 14:00 น. (ภาษาฝรั่งเศส) / 11:00 น., 15:00 น.และ 16:00 น. (ภาษาอังกฤษ)
วันพุธ เวลา 13:00 น. (ภาษาฝรั่งเศส) / 14:00 น. (ภาษาอังกฤษ) / 15:00 น. (ภาษาดัตช์)
ด้านหน้าของศาลาว่าการเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว
อัตราค่าเข้าชม
นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมในวันที่มีทัวร์นำเที่ยวได้ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ที่ตั้งอยู่ในสำนักงานประจำจัตุรัสกร็อง ปลัส (Grand Place Official) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://visit.brussels/en/
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 5 ยูโร / นักเรียน – นักศึกษา และเด็ก (6-12ปี) 3 ยูโร / อายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
สถาปัตยกรรมของศาลาว่าการเมืองเมื่อมองมาจากด้านหน้า
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ทัศนียภาพของศาลาว่าการเมืองในตอนกลางวันกับตอนเช้าตรู่
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ (ด้านซ้าย) อาคารแมซง ดูว์ รัว (ด้านขวา) สองสถาปัตยกรรมสำคัญของจัตุรัส
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
(Brussels Town Hall, Brussels , Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 5 ยูโร / นักเรียน – นักศึกษา และเด็ก (6-12ปี) 3 ยูโร / อายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมในวันอาทิตย์กับวันพุธ แบ่งเป็นรอบเวลา และโปรแกรมภาษาของไกด์นำทัวร์ที่แตกต่างกันสามภาษา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ