- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (3,970)
- By Webmaster
- 10:07:01 | 16 ธ.ค. 2562
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
St. Michael and St. Gudula Cathedral, Brussesl, Belgium
บริเวณด้านหน้าของมหาวิหาร
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา (St. Michael and St. Gudula Cathedral) ศาสนสถานหลักประจำนิกายโรมันคาทอลิกแห่งนี้ คือมหาวิหารในสถาปัตยกรรมกอธิคที่อยู่คู่กับเมืองบรัสเซลส์มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของเหล่าเชื้อพระวงศ์ และบุคคลสำคัญของประเทศในหลากหลายวาระ ทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ฯลฯ ภายในมหาวิหารได้ด้วย
แผนที่ตั้ง มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประวัติ
สถาปัตยกรรมด้านหน้าของมหาวิหาร
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา (St. Michael and St. Gudula Cathedral) ต้นกำเนิดของมหาวิหารหลักแห่งเมืองบรัสเซลส์นี้ต้องย้อนกลับไปถึงช่วงศตวรรษที่ 9 แรกเริ่มเป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศให้กับ อัครทูตสวรรค์มีคาเอล (Michael The Archangel) แต่มาในศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นโบสถ์ตามสถาปัตยกรรมโรมัน (Architecture of ancient Rome) และในปี 1047 ก็มีการส่งพระธาตุเซนต์กูดูลา (Saint Gudula) ที่ตั้งอยู่ในโบสถ์เกเจอริคัส (St.Gaugericus) บนเกาะแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส มาไว้ยังมหาวิหาร และทำให้เซนต์กูดูลากลายเป็นนักบุญอุปถัมภ์แห่งเมืองบรัสเซลส์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้มหาวิหารประกอบไปด้วยชื่อนักบุญอุปถัมภ์ถึงสองคนด้วยกัน ต่อมาในศตวรรษที่ 13 เฮนรีที่ 1 (Henry I) ก็ได้ทำการปรับปรุงมหาวิหารครั้งใหญ่ โดยมีการเพิ่มหอคอยสมมาตรสองหลังขนาบไปกับซุ้มหลักของมหาวิหาร และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมในอยู่ในรูปแบบโกธิค (Gothic Architecture) ซึ่งขั้นตอนการบูรณะในครั้งนี้กินระยะเวลาถึง 300 ปี ก่อนจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 1519 ล่วงมาในปี 1980 ก็มีการค้นพบซากโบสถ์ในสมัยศตวรรษที่ 11 ซึ่งอยู่บริเวณใต้มหาวิหาร และได้รับการอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบัน โดย มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา ถูกกำหนดให้เป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ในวันที่ 5 มีนาคม 1936 และได้รับการขึ้นสถานะให้เป็นมหาวิหารจากคริสตจักร ในปี 1962
โครงสร้างภายนอกของมหาวิหารถูกสร้างด้วยหินที่นำมาจากเหมืองซึ่งอยู่ห่างออกไป 45 กิโลเมตร มีบันไดทางขึ้นโบสถ์ขนาดใหญ่ และหอคอยสมมาตรในสถาปัตยกรรมกอธิคที่ขนาบซุ้มประตูหลักขนาดใหญ่ โดยด้านบนจะมีหน้าต่างกระจกใบโตติดตั้งเอาไว้อย่างประณีต และหลายบานยังเป็นกระจกสีอันวิจิตรที่บอกเล่าเรื่องราวสำคัญทางศาสนาคริสต์ พื้นที่ส่วนกลางจะประดับด้วยเสาหินที่ติดประติมากรรมอัครสาวกทั้ง 12 ของพระเยซู ยาวไปจนถึงแท่นประกอบพิธีหลัก และบนหอคอยด้านทิศใต้จะมีระฆังจำนวน 49 ใบ ที่รวมกันเป็น คาริล (Carillon) หรือเครื่องดนตรีประจำโบสถ์ ซึ่งจะมีการบรรเลงเพลงอันไพเราะให้ผู้คนในละแวกได้รับฟังกันเป็นประจำ นอกจากนั้น ภายในมหาวิหารยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดเก็บประติมากรรม ภาพเขียน ฯลฯ และชั้นใต้ดินยังมีการจัดแสดงซากโบสถ์เก่าในสมัยศตวรรษที่ 11 ด้วย
ความที่เป็นมหาวิหารหลักของเมือง ทำให้เป็นสถานประกอบพิธีหลักของบรรดาราชวงศ์ และบุคคลสำคัญของประเทศ ในหลากวาระ มีพื้นที่จัดเก็บศพของผู้มีคุณูปการต่อประเทศหลายคน โดยปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ นับเป็นจุดแวะอีกแห่ง ในการมาตามเก็บสถานที่สำคัญที่อยู่ภายในเมืองบรัสเซลส์ด้วย ยิ่งวันไหนมีการแสดงดนตรี หรือมาในช่วงที่แดดส่องกระจกสีผ่านเข้ามายังพื้นที่ภายในโบสถ์ด้วยละก็ รับรองว่าผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับมนต์ขลังอันน่าอัศจรรย์ใจ ที่สะท้อนออกมาผ่านความคลาสสิกอันชวนหลงใหล แบบยากจะลืมเลือน จากมหาวิหารคู่บุญแห่งเมืองบรัสเซลส์
โถงทางเดินบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของมหาวิหาร
สถาปัตยกรรมที่จัดแสดงอยู่ภายในมหาวิหาร
ส่วนสักการะประติมากรรมรูปเคารพภายในมหาวิหาร
ประติมากรรมภายในมหาวิหาร
หน้าต่างกระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาคริสต์
สถาปัตยกรรมที่จัดแสดงอยู่ภายในมหาวิหาร
พื้นที่ส่วนกลางของมหาวิหาร
นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมมหาวิหาร
การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html
- รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังมหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา
- เดิน จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ สามารถเดินไปยัง มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา ได้เลย ระยะทางประมาณ 350 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 4 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดเวลา 07:00 น. – 18:00 น. / วันเสาร์-วันอาทิตย์ เปิดเวลา 08:00 น. – 18:00 น.
บรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณด้านหน้ามหาวิหาร
อัตราค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี
ทางเดินปูหินที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้บริเวณด้านหน้ามหาวิหาร
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
งานประติมากรรมและออร์แกนภายในมหาวิหาร
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
(St. Michael and St. Gudula Cathedral, Brussels, Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดเวลา 07:00 น. – 18:00 น. / วันเสาร์-วันอาทิตย์ เปิดเวลา 08:00 น. – 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : (+32) 2-219-75-30
เว็บไซต์ : https://cathedralisbruxellensis.be/en/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อหมู่บ้านไรเนอร์ หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านไรเนอร์ (Reine) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ที่ซ่อนความงดงามและเสน่ห์อันไม่เหมือนใคร จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน และสวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์
อ่านต่อล่องเรือชมฟยอร์ดไกแรงเกอร์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาสูงชัน น้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ด ทำให้ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนอร์เวย์
อ่านต่อ