พระราชวังโทพคาปิ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

  • อ่าน (4,537)
  • By Webmaster
  • 16:29:44 | 8 ต.ค. 2562

พระราชวังโทพคาปิ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

Topkapi Palace, Istanbul, Turkey

             พระราชวังโทพคาปิ (Topkapi Palace) พระราชวังอายุหลายร้อยปีริมแม่น้ำใจกลางเมืองอิสตันบูล ที่ยังคงความงดงามอลังการไม่เสื่อมคลาย สถานที่ที่เคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันมานานหลายพระองค์ หลายศตวรรษ ซึ่งปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นที่เก็บโบราณวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์และทรงคุณค่าของตุรกีและเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของตุรกี


ประวัติ

           พระราชวัง Topkapi เป็นหนึ่งในพระราชวังออตโตมันที่คงสภาพเดิมที่สุด พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำในเขตเมืองเก่าของอิสตันบูลซึ่งเป็นบริเวณที่เริ่มมีการตั้งรกรากในอดีต พระราชวังโทพคาปิสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1459 ในสมัยของสุลต่านเมห์เหมดที่ 2 (Sultan Mehmed II) แห่งจักรวรรดิตโตมัน ซึ่งสามารถเข้ายึดครองกรุงสแตนติโนเปิลได้ องค์สุลต่านเมห์เหมดที่ 2 ทรงมองเห็นว่าพระราชวังแห่งคอนสแตนติโนเปิล (Great Palace of Constantinople) ซึ่งเป็นพระราชวังหลักในเวลานั้นอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม จึงทรงโปรดให้สร้างพระราชวังแห่งใหม่ขึ้นที่บริเวณแหลม Seraglio (Sarayburnu) ซึ่งเป็นชัยภูมิที่ดีสามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) บรรจบกับทะเลมาร์มะรา (Marmara Sea) ได้ชัดเจน ภายหลังพระราชวังแต่เดิมแห่งนี้ก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในสมัยประธานาธิบดีอตาเติร์ก (Anıtkabir) ผู้ซึ่งสถาปนาตุรกีเป็นสาธารณรัฐในปี ค.ศ. 1924

           แม้ว่าพระราชวังแห่งนี้จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นจุดชมวิว เนื่องจากสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของอ่าวโกลเด้นฮอร์น (Golden Horn / Haliç) ซึ่งเป็นอ่าวธรรมชาติของอิสตันบูลได้อย่างชัดเจนรอบด้าน รวมถึงมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสและทะเลมาร์มะรา แต่มากไปกว่าการเป็นจุดวิวแล้ว พระราชวังโทฟคาปิยังเป็นสถานที่ที่ผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์ต้องชื่นชอบอีกแห่งหนึ่ง

           พระราชวังโทฟคาปิครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 438 ไร่ ล้อมรอบด้วยกำแพงรั้วสูง ความยาวกว่า 5 กิโลเมตร บริเวณรอบๆ พระรางวังเป็นสวนที่เรียงรายด้วยแนวต้นไม้ตัดแต่งสวยงาม และอาคารในรูปแบบสถาปัตยกรรมตุรกีดั้งเดิมซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของสุลต่านออตโตมันและผู้ติดตาม พระราชวังแห่งนี้ได้มีการต่อเติมและเปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายครั้งในแต่ละยุคสมัยการปกครอง โดยภายในพระราชวังจะมีอนุสรณ์ของสุลต่านแต่ละพระองค์ที่ได้ทรงโปรดให้สร้างเอาไว้

           ฮาเร็มบางส่วนซึ่งพื้นที่ส่วนตัวในพระราชวังที่องค์สุลต่านจะอาศัยอยู่ร่วมกับเหล่าภรรยาเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมพื้นที่กว่า 40 ห้องที่เป็นห้องสำหรับมารดาของสุลต่าน รวมถึงห้องอาบน้ำ และห้องโถงทรงโดมขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่สำหรับใช้พักผ่อนของสุลต่านด้วย ความน่าสนใจในส่วนของห้องครัวคือมีเครื่องกระเบื้องของจีนกับญี่ปุ่นเป็นจำนวนร่วม 12,000 ชิ้น บริเวณสวนด้านนอกประดับตกแต่งด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบตุรกีที่สวยงาม ซึ่งหากมองจากบริเวณรอบนอกของสวน จะสามารถมองเห็นฮาเกีย ไอรีน (Hagia Irene) โบสถ์ออร์โธดอกซ์ที่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และมักถูกใช้เป็นที่จัดแสดงงานดนตรีด้วย


ลวดลายอันสวยงามและประณีตของพระราชวัง Topkapi


บรรยากาศอันโอ่โถงภายในพระราชวัง


พระราชวัง Topkapi ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 438 ไร่ ล้อมรอบด้วยกำแพงรั้วสูง ความยาวกว่า 5 กิโลเมตร


ระเบียงหินอ่อนและสระน้ำ (Marble Terrace and Pool)


การเดินทางจากสนามบิน Istanbul Airport สู่ตัวเมืองบริเวณสถานี Taksim

           เนื่องจากปัจจุบันสถานีรถไฟเชื่อมต่อสถานีสนามบิน Istanbul Airport อยู่ในระหว่างกำลังก่อสร้าง จะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2020 ดังนั้น จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

             - รถชัตเทิลบัส (Havaist Airport Shuttle) การเดินทางเข้าเมืองโดยรถชัตเทิลบัสเป็นวิธีที่สะดวกในราคาที่ประหยัด จากสนามบิน Istanbul Airport นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยัง Taksim โดยใช้บริการ Havaist สาย IST 19 ที่ให้บริการระหว่างสนามบินอิสตันบูล (Istanbul Airport) – เบซิคทา (Besiktas) – ทักซิม (Taksim) ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชม.

           นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถได้ที่บริเวณหน้าทางออกผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งรถจะจอดส่งผู้โดยสารที่ Zincirlikuyu และ 4. Levent Metro ให้นักท่องเที่ยวลงที่ป้ายสุดท้ายหน้าโรงแรม Point ใกล้กับจัตุรัสทักซิม ซึ่งจากบริเวณนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน Taksim Station เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือที่พักได้อย่างสะดวก ค่าโดยสาร Havabus อยู่ที่ประมาณ 18 ลีราตุรกีหรือประมาณ 95 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://hava.ist/en/

             - รถโดยสารประจำทาง (IETT Public Bus) แม้จากสนามบิน Istanbul Airport จะมีบริการรถโดยสารสาธารณะประจำทางโดย IETT ระหว่างสนามบินกับตัวเมืองและราคาอาจถูกกว่าการเดินทางประเภทอื่นๆ แต่เป็นการเดินทางที่ไม่แนะนำโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระใบใหญ่ ซึ่งนอกจากจะใช้เวลาเดินทางนานและต้องเปลี่ยนรถหลายสายแล้ว คนใช้บริการก็ค่อนข้างหนาแน่นโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน

             - แท็กซี่ (Taxi) แท็กซี่จากสนามบิน Istanbul Airport ไปยัง Taksim ค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 140 ลีราตุรกี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 745 บาท แม้ว่าการเดินทางเข้าเมืองโดยรถแท็กซี่จะเป็นวิธีที่ราคาค่อนข้างสูงกว่าวิธีอื่นๆ แต่ก็เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกที่สุดเช่นกันโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระ ทั้งนี้ หากเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วถือว่าแท็กซี่ที่ประเทศตุรกีนั้นมียังราคาที่ถูกอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบค่าบริการแท็กซี่จากสนามบินอิสตันบูลไปยังจุดอื่นๆ ในตัวเมืองได้ที่ https://isturkeysafe.com/New-Istanbul-Airport-Taxi-Fare-Calculator

             - บริษัทรถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีให้บริการรถเช่าให้เลือกหลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ชั้นผู้โดยสารขาเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/airport/tr/IST/

           แผนที่ขนส่งสาธารณะในอิสตันบูล ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีเส้นทางเชื่อมต่อถึงสนามบิน Istanbul Airport จะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2020 ดังนั้น หากต้องการใช้บริการรถไฟไปยังสถานที่ต่างๆ นักท่องเที่ยวจึงต้องเดินทางออกจากสนามบินโดยวิธีต่างๆ ข้างต้นก่อนแล้วค่อยมาต่อรถไฟในตัวเมือง ขอบคุณภาพจาก https://www.tooistanbul.com/en/public-transportation-istanbul/


การเดินทางไป Topkapi Palace

           จากสถานี Taksim นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยัง Topkapi Palace ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของอิสตันบูลได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

             - รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 จากสถานี Laleli – Üniversite ไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 650 เมตร ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที

             - รถราง (Funicular) ขึ้นรถราง Funicular สายสีเทา F1 (Kabatas) ไปลงที่สถานี Kabatas Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ที่สถานี Kabatas Tramvay istasyonu นั่งไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 650 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 36 นาที

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Taksim ไปยัง Topkapi Palace โดยใช้เส้น Meclis-i Mebusan Cd. มีระยะทาง 4.3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 17 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

           พระราชวัง Topkapi เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 09.00 น. – 18.00 น. ปิดทุกวันอังคาร


อัตราค่าเข้าชม

           ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (Topkapı Palace Museum) 72 รีลาตุรกี

           ค่าเข้าชมฮาเร็ม (Harem) 42 รีลาตุรกี

           ค่าเข้าชมอนุสรณ์ฮาเกียไอรีน (Hagia Irene Monument) 36 รีลาตุรกี


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Topkapi Palace

           สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Topkapi Palace นอกจากการชมทัศนียภาพที่สวยงามของอ่าวโกลเด้นฮอร์นซึ่งเป็นอ่าวธรรมชาติของอิสตันบูล ช่องแคบบอสฟอรัสและทะเลมาร์มะราแล้ว สมบัติอันล้ำค่าของสุลต่านองค์ต่างๆ ที่จัดแสดงไม่ว่าจะเป็น โบราณวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์ อาวุธในสมัยออตโตมันน์ และเครื่องราชบรรณาการจากทั่วโลกก็เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด รวมไปถึงการเข้าไปเยี่ยมชมฮาเร็ม สถานที่ลับส่วนตัวของสุลต่านและบรรดาสนมภายในพระราชวังแห่งนี้


สีสันและลวดลายอันสวยงามของกระเบื้องที่ตกแต่งภายในอาคาร


ข้าวของที่จัดแสดงอยู่ภายในส่วนที่เรียกว่า Sacred Relics House

 
สมบัติล้ำค่าของจักรพรรดิ (ภาพซ้าย) และ เตาผิง Gilded Fireplace Baghdad Kiosk ภายในฮาเร็ม (ภาพขวา)


ส่วนที่เป็นห้องสมุด The Library of Ahmet III 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวที่พระราชวังโทฟคาปีได้ตลอดทั้งปี


สถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญบางส่วนรอบๆ พระราชวัง


ระเบียงหินอ่อนและสระน้ำ (Marble Terrace and Pool)


นักท่องเที่ยวเก็บภาพบรรยากาศอันสวยงามด้านนอก


นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชมพระราชวัง Topkapi อย่างต่อเนื่อง


บรรยากาศโดยรอบพระราชวัง


สวนดอกไม้สวยงามบริเวณรอบๆ ตัวพระราชวัง


จากที่ตั้งของพระราชวัง Topkapi สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) บรรจบกับทะเลมาร์มะรา (Marmara Sea)


บริเวณที่เป็นคาเฟ่


ทางเดินร่มรื่นๆ รอบๆ พระราชวัง


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           ที่พระราชวังโทฟคาปิไม่มีบริการไกด์นำเที่ยว แต่หากต้องการไกด์นักท่องเที่ยวก็สามารถหาไกด์เอกชนได้บริเวณหน้าช่องขายตั๋วซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก

 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Topkapi Palace สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       พระราชวังโทพคาปิ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

                       (Topkapi Palace, Istanbul, Turkey)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (Topkapı Palace Museum) 72 รีลาตุรกี

                                    ค่าเข้าชมฮาเร็ม (Harem) 42 รีลาตุรกี

                                    ค่าเข้าชมอนุสรณ์ฮาเกียไอรีน (Hagia Irene Monument) 36 รีลาตุรกี    

                       เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 09.00 น. – 18.00 น. ปิดทุกวันอังคาร

                       ตั้งอยู่ที่ : Cankurtaran, 34122 Fatih, Istanbul, Turkey

                       โทรศัพท์ : (+90) 12 512 04 80   

                       เว็บไซต์ : https://topkapisarayi.gov.tr/en

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองอิสตันบูล https://visit.istanbul/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/

                                       เว็บไซต์ขนส่งสาธารณะเมืองอิสตันบูล https://www.iett.istanbul/en

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ