- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ผิงเหยา เมืองโบราณมรดกโลก มณฑลซานซี ประเทศจีน
ผิงเหยา เมืองโบราณมรดกโลก มณฑลซานซี ประเทศจีน
- อ่าน (6,521)
- By Webmaster
- 18:01:09 | 25 ก.ค. 2561
ผิงเหยา เมืองโบราณมรดกโลก มณฑลซานซี ประเทศจีน
平遥古城 , Ancient City of Ping Yao, Shanxi, China
เมืองโบราณผิงเหยา (平遥古城/ Ancient City of Ping Yao) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดัง ปัจจุบันมีฐานะเป็นเขตหนึ่งของเมืองจิ้นจง มณฑลซานซี ประเทศจีน
ในอดีต เมืองผิงเหยาเคยเป็นเมืองสำคัญที่โด่งดังแห่งหนึ่งของจีนโบราณ ในฐานะ ศูนย์กลางตลาดเงินตรา และที่ตั้งของ ร้านแลกเงินแห่งแรก ซึ่งเชื่อกันว่าในช่วงที่เมืองผิงเหยาในอดีตเฟื่องฟูสุดๆนั้น เคยมีร้านค้าภายในเมืองถึงพันร้าน
และถึงแม้จะไม่ได้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเช่นอดีต ทว่าความสำคัญของเมืองโบราณผิงเหยาก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปแต่อย่างใด เนื่องมาจากภายในเมืองโบราณผิงเหยายังคงเต็มไปด้วยร่องรอยของความรุ่งเรืองจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมบ้านเรือนร้านค้าตามแบบของชาวฮั่น ที่มีให้เห็นอยู่ตลอดทั้งเมือง รวมไปถึงที่ว่าการอำเภอ, กำแพงเมือง หรือสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง ซึ่งล้วนเป็นตัวแทนสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวจีนโบราณที่มีเสน่ห์อย่างยิ่ง ทำให้ปัจจุบันเมืองโบราณผิงเหยา ได้รับ การยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก และได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลจีนให้เป็น เมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประจำชาติ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนประเทศจีน
ถนนหมิงชิงภายในเมืองโบราณผิงเหยากับรถลากและตึกสองฟากข้างที่ดูเป็นของจากอดีตนับร้อยปีก่อนเช่นกัน
มุมหนึ่งของถนนกับอาคารชั้นเดียวก่ออิฐตามแบบโบราณที่แทบไม่มีการก่อสร้างอีกแล้วในปัจจุบัน
ภายในตึก บางแห่งก็เป็นร้านจำหน่ายสุราซึ่งมีทั้งแบบจีนโบราณและจากตะวันตกสมัยใหม่
นอกจากบนถนนหมิงชิง กำแพงเมืองโบราณก็สำคัญไม่แพ้กัน
มองจากกำแพงเมือง จะมองเห็นเมืองโบราณผิงเหยาอันงดงามได้
และสิ่งที่จะขาดไม่ได้ภายในเมืองโบราณอย่างที่ว่าการอำเภอซึ่งยังได้รับการดูแลอย่างดีเช่นกัน
ภายในที่ว่าการก็มีสิ่งจัดแสดงจากอดีต
นอกจากนี้ยังมีร้านแลกเงิน หรือต้นแบบธนาคารแห่งแรกของจีนโบราณก็ตั้งอยู่ที่นี่
ทั้งร้านแลกเงินและที่ว่าการอำเภอ ต่างสามารถเดินทะลุมายังถนนหมิงชิงและดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างต่อเนื่อง
ย้อนอดีตผิงเหยา เมืองโบราณสู่มรดกโลก
แม้หลักฐานทางโบราณคดีจะทำให้สามารถเชื่อได้ว่าบริเวณอันเป็นที่ตั้งของเมืองผิงเหยานั้น น่าจะเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมานานนับแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก แต่หลักฐานที่ชัดเจนที่สุด ปรากฏให้เห็นช่วงเวลาประมาณสมัยศตวรรษที่ 14 ซึ่งพบว่ามีการวางแผนการก่อสร้างอย่างเป็นระเบียบ มีถนนช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงมีร้านค้าหลายสิบร้านตั้งอยู่ภายใน และที่สำคัญที่สุดคือมีกำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่สวยงามที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
บนกำแพงของเมืองโบราณผิงเหยาซึ่งเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นครั้งแรกกว่าพันปีมาแล้ว
ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 16 เมืองผิงเหยาค่อยๆได้รับความสำคัญจากขบวนพ่อค้าและร้านค้าต่างๆมากมาย ถือเป็นหนึ่งในเมืองหลักด้านเศรษฐกิจของจีนโบราณ ก่อนที่จะกลายเป็น ศูนย์กลางแห่งตลาดเงินตรา ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าที่เพิ่มจำนวนขึ้นและธุรกิจหลายต่อหลายอย่าง ซึ่งได้กลายมาเป็นรากฐานของการเปิด ร้านแลกเงินแห่งแรกของจีน ขึ้นที่นี่ในศตวรรษที่ 19 ก่อนที่ธุรกิจนี้จะได้รับความนิยมและแพร่หลายออกไป
ภายในร้านรื่อเซิงชาน ร้านแลกเงินแห่งแรกของจีนโบราณซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
จากบทบาทความสำคัญเหล่านี้เอง ทำให้สภาพของเมืองผิงเหยาได้รับการดูแลรักษาสืบเนื่องต่อมาเป็นเวลายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือนแบบของชาวฮั่นที่มีพื้นฐานมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม จนได้รับการปรับปรุงบำรุงรักษาอีกครั้งในช่วงสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง รวมไปถึงแนวกำแพงเมืองโบราณซึ่งแม้จะพังทลายมาด้านหนึ่งในสมัยราชวงศ์หมิง ก็ได้ได้รับการซ่อมแซมจนมีสภาพสมบูรณ์สวยงาม ทำให้ในปี 1986 เมืองโบราณผิงเหยาได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลจีนให้มีฐานะเป็น เมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประจำชาติ ก่อนที่ UNESCO จะยกย่องให้เมืองผิงเหยามีฐานะเป็น มรดกโลก ในปี 1997 และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศจีนตราบจนทุกวันนี้ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://whc.unesco.org/en/list/812)
ถนนเส้นสำคัญภายในเมืองโบราณผิงเหยาอายุนับร้อยปี ซึ่งได้รับการดูแลรักษาอย่างดีจนกลายมาเป็นมรดกโลกในวันนี้
การเดินทางไปเมืองโบราณผิงเหยา มณฑลซานซี
เมืองโบราณผิงเหยา ปัจจุบันเป็นเขตหนึ่งของเมืองจิ้นจง มณฑลซานซี ประเทศจีน ซึ่งเป็นเมืองที่ ไม่มีสนามบินไว้บริการ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวชมเมืองโบราณผิงเหยา จึงสามารถเลือกเดินทางได้โดย
- รถไฟจากเมืองปักกิ่ง เนื่องจากเมืองปักกิ่งมี ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง (PEK) ซึ่งถือเป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นประตูสู่ประเทศจีนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงเมืองปักกิ่งแล้ว สามารถเลือกใช้บริการรถไฟความเร็วสูงที่ สถานีรถไฟปักกิ่งตะวันตก (北京西站) เดินทางต่อไปยัง สถานีเมืองโบราณผิงเหยา (平遥古城站) โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดรอบการเดินทางและราคา รวมไปถึงจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://exservice.12306.cn/excater/index.html (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)
- รถไฟจากเมืองไท่หยวน เมืองไท่หยวน เป็นเมืองหลวงของมณฑลซานซี และยังเป็นเมืองที่มี ท่าอากาศยานนานาชาติไท่หยวนอู่ซู่ (TYN) ไว้คอยให้บริการ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางต่อได้โดยการใช้บริการรถไฟที่ สถานีรถไฟไท่หยวนใต้ (太原南站) ไปลงยัง สถานีเมืองโบราณผิงเหยา (平遥古城站) ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง 40 นาที และยังมีรอบเวลาให้เลือกใช้บริการหลายรอบ โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดรอบการเดินทาง เวลา และค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่ https://exservice.12306.cn/excater/index.html (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)
- รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ เป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากความสะดวกสบายของการเดินทางและตารางเวลาที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ โดยมีรายละเอียดคือ
จากเมืองไท่หยวน – เมืองโบราณผิงเหยา (太原市 -平遥古城站) มีระยะห่างเพียง 96 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
จากเมืองปักกิ่ง – เมืองโบราณผิงเหยา (北京市 -平遥古城站) มีระยะห่างประมาณ 575 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกดูเส้นทางที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้ที่ https://map.baidu.com/
และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางโดยรถไฟมาถึงสถานีรถไฟเมืองโบราณผิงเหยา ซึ่งอยู่ห่างจากเขตเมืองโบราณผิงเหยาไปประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถเลือกเดินทางต่อได้โดย
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถโดยสารสาธารณะหมายเลข 108 เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองโบราณผิงเหยาที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตรได้ โดยมีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 1 หยวน/คน หรือใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะซึ่งมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 6-9 หยวน ก็ได้เช่นกัน (สามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทางและรอบเวลาการให้บริการเพิ่มเติมของรถโดยสารสาธารณะได้ที่ http://pingyao.8684.cn/x_dbc15cef และ http://pingyao.8684.cn/x_b184a41c)
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
เมืองโบราณผิงเหยา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน โดยมีเวลาเปิด-ปิดต่างกันไปตามฤดูกาล คือ
ฤดูกาลท่องเที่ยว (เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม) เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 18.30 น.
ฤดูกาลอื่นๆ (เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม) เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 18.00 น.
นอกจากนี้ วันเวลาในการให้บริการ อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพอากาศ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดล่วงหน้าได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ (+86)0354-5682909
อัตราค่าเข้าชม
บัตรผ่านสำหรับเที่ยวชมเมืองโบราณผิงเหยามีราคา 135 หยวน/คน โดยนักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตรผ่านนี้สามารถเดินชมความงาม รอบๆตัวเมือง ร้านค้าโบราณบางแห่ง รวมไปถึงกำแพงเมืองโบราณอันโด่งดังได้ เว้นบางสถานที่ที่อาจต้องเสียค่าเข้าชมเพิ่มเติม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://bit.ly/2IPvwiT
ลานจอดรถก่อนเข้าชมเมืองโบราณผิงเหยา ไม่ห่างจากที่จำหน่ายบัตรผ่านเข้าชมนัก
การเที่ยวชม และสิ่งที่พลาดไม่ได้ในเมืองโบราณผิงเหยา
เมืองโบราณผิงเหยามีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ประกอบกับประตูเมืองสำหรับเข้าออกอีก 6 แห่ง (ด้านตะวันตกและตะวันออก ด้านละ 2 แห่ง และด้านเหนือใต้อีกด้านละแห่ง) ทำให้มีผู้กล่าวว่าเมืองผิงเหยานนี้มีรูปร่างเหมือนเต่า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัตว์มงคลที่สำคัญของจีนโบราณ
แผนผังของเมืองโบราณผิงเหยา
ซึ่งจากรูปทรงดังกล่าวนี้เอง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่จะเข้าชมเมืองผิงเหยาจากด้านใดก็ได้ และเนื่องจาก ภายในเมืองโบราณผิงเหยาไม่อนุญาตให้รถยนต์และรถบัสเข้าไปวิ่ง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกวิธีการเก็บบรรยากาศภายในเมืองได้โดย
- การเดินเท้า หนึ่งในวิธีการเที่ยวชมเมืองโบราณผิงเหยาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถเก็บภาพความสวยงามของอาคารสถาปัตยกรรม และสัมผัสกับบรรยากาศจากถนนหนทางและอาคารบ้านเรือนซึ่งยังคงมีเค้าลางของอดีตหลายร้อยปีก่อนได้อย่างใกล้ชิด
- จักรยาน อีกหนึ่งการเที่ยวชมที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวต่างประเทศ เนื่องจากสามารถเดินทางได้รวดเร็วกว่าการเดิน และยังสามารถแวะลงชมสถานที่ที่น่าสนใจได้อย่างง่ายๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถหาเช่าจักรยานได้ที่จุดต่างๆรอบเมือง โดยมีค่าบริการเริ่มต้นตั้งแต่ 5 หยวน สำหรับ 4 ชั่วโมง หรือสามารถติดต่อกับโรงแรมที่พักภายในเมืองซึ่งอาจมีการให้บริการจักรยานสำหรับท่องเที่ยวรวมกับค่าที่พักอยู่แล้ว
- รถไฟฟ้า เป็นวิธีการเที่ยวชมที่มักได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากความสะดวกสบายในการเที่ยวชมจุดสำคัญต่างๆภายในเมืองโบราณ โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 75 หยวน/คน/รอบ หรือนักท่องเที่ยวสามารถจ้างเหมาทั้งคันได้ในราคา 120 หยวน สำหรับ 8 ชั่วโมง
รถไฟฟ้าที่รอให้บริการนักท่องเที่ยวที่แถวประตูทางเข้า
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกเที่ยวชมด้วยวิธีใด นักท่องเที่ยวก็สามารถสัมผัสถึงความสวยงามและมนตร์เสน่ห์ของเมืองผิงเหยาได้ โดยมีจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนคือ
กำแพงเมืองโบราณผิงเหยา
ถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองโบราณผิงเหยา เนื่องจากข้อสันนิฐานว่ากำแพงเมืองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก ก่อนจะได้รับการสร้างทับครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงต้นของสมัยราชวงศ์หมิง โดยกำแพงมีความยาวรวมกว่า 6 กิโลเมตร และมีหอสังเกตการณ์ทุกๆ 50 – 100 เมตร รวมทั้งหมด 72 หอ ซึ่งถือเป็นความน่ามหัศจรรย์อย่างหนึ่งเนื่องจากตรงกับหลักฮวงจุ้ยศาสตร์ของจีนพอดี
นอกจากความสวยงามของการก่อสร้างที่ตรงกับหลักความเชื่อแล้ว กำแพงเมืองโบราณผิงเหยายังเป็นสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่าที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือของสถาปนิกจีนโบราณ ที่สร้างให้ผู้ที่ขึ้นไปยืนอยู่บนกำแพงเมือง สามารถมองเห็นเมืองผิงเหยาในมุมมองแบบพาโนราม่าได้อีกด้วย
มองจากด้านล่างขึ้นไปยังกำแพงเมืองโบราณผิงเหยาที่ยิ่งใหญ่
ทิวทัศน์ของตัวเมืองที่มองเห็นได้จากบนกำแพงเมืองโบราณ
บรรยากาศบนกำแพงเมืองกับหอสังเกตการณ์ใหญ่
ร้านแลกเงินรื่อเซิงชาง
ร้านแลกเงินแห่งแรกของจีนโบราณ และยังถือเป็นต้นแบบของธนาคารในเวลาต่อมา โดยร้านแลกเงินรื่อเซิงซางแรกเริ่มคือการรับฝากเงินของกลุ่มพ่อค้า ที่ฝากเงินไว้กับร้านหนึ่งและเมื่อไปที่ต่างอำเภอหรือต่างเมือง สามารถนำใบรับรองที่ออกให้เพื่อไปรับเงินจริงได้ ต่อมาธุรกิจนี้ได้รับความนิยมและเผยแพร่ออกไป จนทำให้เมืองผิงเหยาโด่งดังในฐานะตลาดเงินตราแห่งสำคัญของจีนโบราณ ซึ่งในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด ร้านแลกเงินรื่อเซิงชางมีสาขามากกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ
ด้านในของร้านมีการจำลองการแลกเงินในสมัยโบราณ
ห้องโถงกลางของร้านที่ด้านหน้ามีประติมารกรรมรูปร่างคล้ายก้อนเงินจีนโบราณวางไว้ กับห้องโถงใต้ที่ไว้รับรองลูกค้ารายใหญ่
ที่ว่าการอำเภอเมืองโบราณผิงเหยา
ศูนย์กลางของเมืองผิงเหยาในอดีต และหนึ่งในสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ความสวยงามมาจนปัจจุบัน โดยนอกจากคุณค่าในด้านความงามของสิ่งก่อสร้างแล้ว ที่ว่าการอำเภอเมืองผิงเหยายังเป็นภาพสะท้อนของวิถีชีวิตจากอดีต ทั้งด้านของความเชื่อ และการจัดวางผังห้องต่างๆในอาคารบ้านเรือนที่ถือเป็นแบบอย่างสำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์ที่ยากจะหาชมได้จากที่ไหน
หนึ่งในประตูทางเข้าหลากหลายประตูของที่ว่าการอำเภอ
แผงผังที่ว่าการอำเภอเมืองผิงเหยาในอดีตซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวจีนในอดีตพร้อมสิ่งจัดแสดง
หนึ่งในอาคารสำคัญภายในที่ว่าการอำเภอเมืองผิงเหยา ซึ่งมีทั้งการจัดแบ่งชั้นตามความเชื่อ รวมถึงการออกแบบห้องครัว ห้องทานอาหารให้อยู่ตามด้านต่างๆตามความสะดวกของคนในอดีต
และนอกจากสถานที่สำคัญดังกล่าว นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนเมืองผิงเหยา ไม่ควรพลาดที่จะเดินผ่าน ถนนหมิง-ชิง ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของที่ว่าการอำเภอเมืองโบราณ โดยถนนแห่งนี้ถูกตั้งชื่อตามยุคสมัยสำคัญของจีนโบราณอย่างสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง อันเป็นยุคที่เมืองผิงเหยามีความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและร้านค้าที่ตั้งอยู่สองฟากด้านของถนนได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และกลายเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศย้อนอดีตที่ขาดไม่ได้ของเมืองโบราณผิงเหยา
ถนนหมิง-ชิงภายในเมืองโบราณผิงเหยากับรถลากย้อนยุค
ด้านข้างของถนนไม่เพียงมีร้านค้า แต่หน้าร้านยังมีของขายซึ่งวางรวมกันคละยุคคละสมัยอย่างมีเสน่ห์
ของกินเล่นและเครื่องดื่ม ก็มีขายบนถนนเส้นนี้เช่นกัน
ใจกลางถนนที่มีอาคารจีนอันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ กับของตกแต่งแบบตะวันตกที่ช่วยสร้างสีสันให้ท้องถนน
ร้านอาหารและโรงแรมที่พักภายในเมืองโบราณผิงเหยา
ถึงแม้เมืองโบราณผิงเหยาจะได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก แต่ด้านในของเมืองโบราณ ตามอาคารอายุหลายร้อยปีหลายแห่ง นอกจากจะได้รับการอนุรักษ์ไว้แล้ว ยังได้รับการปรับปรุงให้เป็นโรงแรมที่พักเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อีกด้วย รวมถึงร้านอาหารภายในเมืองโบราณหลายแห่ง ก็มีทั้งร้านอาหารจีนรวมถึงร้านอาหารตะวันตกให้เลือกชิม
เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวเมืองโบราณผิงเหยาได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด คือ ช่วง เดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อุณหภูมิระหว่างวันจะอยู่ที่ 18 – 22 องศาเซสเซียส ถือเป็นช่วงเวลาที่สามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองโบราณผิงเหยาได้อย่างสบายๆ ไม่หนาวและไม่ร้อนจนเกินไป กับช่วง ช่วง เดือนสิงหาคม – เดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงที่แม้อุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างวันจะอยู่ที่ 11 – 22 องศาเซสเซียส แต่เป็นช่วงฤดูกาลแห่งใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์น่าไปเยี่ยมชมอีกช่วงเวลาหนึ่ง
ทั้งนี้ นอกจากช่วงเวลาดังกล่าว นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเมืองโบราณผิงเหยาอาจต้องระวังอุปสรรคจากสภาพอากาศ อาทิ อากาศที่หนาวเย็นและหิมะที่อาจตกลงมาหลายวันในช่วงฤดูหนาว เป็นต้น
เมืองโบราณผิงเหยาในช่วงต้นฤดูหนาวปลายฤดูใบไม้ร่วงก็มีบรรยากาศที่น่าไปชื่นชมเช่นกัน
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวควร หลีกเลี่ยง การมาเที่ยวชมเมืองโบราณผิงเหยาในช่วงวันหยุดยาว อาทิ วันชาติจีน หรือวันตรุษจีน ซึ่งอาจมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเป็นพิเศษทำให้ไม่สะดวกนักในการเข้าชม
บรรยากาศในเมืองโบราณผิงเหยาในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ยังคงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนจำนวนไม่น้อย
โดยหากมีเวลา นักท่องเที่ยวสามารถเลือก พักค้างคืน ที่โรงแรมภายในเมืองโบราณผิงเหยา เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและเสน่ห์จากอดีตของเมือง หรือหากไม่สะดวก ควรใช้เวลา ไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน ในการเที่ยวชมและเก็บบรรยากาศภายในเมืองโบราณ และควรตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเที่ยวชมได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวเมืองโบราณผิงเหยา มณฑลซานซี
เมืองโบราณผิงเหยาเป็นมรดกโลกซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ดังนั้น การเข้าชมบางส่วน อาทิ บริเวณกำแพงเมืองโบราณ นักท่องเที่ยวต้องใช้ความระมัดระวัง และเดินตามเส้นทางที่มีป้ายกำหนด บอกเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและเป็นการอนุรักษ์โบราณสถานเหล่านี้ไปด้วย
ป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้เดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้บริเวณกำแพงเมืองโบราณ
และถึงแม้เมืองโบราณผิงเหยาจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรพกหนังสือรวมคำศัพท์, รวมบทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือแอพพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษา อาทิ Google Translate เผื่อไว้ด้วย เนื่องจากมีเพียงในจุดสำคัญๆ, สนามบิน, สถานีรถไฟ และโรงแรมแห่งใหญ่ๆเท่านั้น ที่มีป้ายภาษาอังกฤษคอยให้บริการ แต่สถานที่อื่นๆ อาทิ ร้านอาหาร, ป้ายสัญญาณจราจร หรือป้ายรถโดยสารสาธารณะบางแห่ง มีแต่ป้ายภาษาจีนเท่านั้น
บรรยากาศด้านนอกกำแพงเขตเมืองโบราณผิงเหยา
และมีข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ ประเทศจีนในปัจจุบันมีการ บล็อกการเข้าถึงเว็บไซค์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate หรือการแปลภาษา), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวต้องการใช้งาน ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดระบบบริการโรมมิ่งข้ามประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ อินเตอร์เน็ตจากประเทศจีน หากต้องการสนทนาผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ต สามารถ ใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวจีน และสามารถ ค้นหาข้อมูล จากเว็บไซต์ Baidu.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์หาข้อมูลของประเทศจีน แทน Google
บนกำแพงเมืองโบราณผิงเหยาที่รอให้นักท่องเที่ยวมาผัส
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชมบรรยากาศที่สวยงามเปี่ยมมนตร์ขลังของ เมืองโบราณผิงเหยา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ผิงเหยา เมืองโบราณมรดกโลก มณฑลซานซี ประเทศจีน
(平遥古城 , Ancient City of Ping Yao, Shanxi, China)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 125 หยวน/คน สำหรับฤดูท่องเที่ยว (เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม) และ 80 หยวน/คน สำหรับช่วงอื่นๆ
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 17.30 น. สำหรับฤดูท่องเที่ยว และ 8.30 น. – 17.00 น. สำหรับช่วงอื่นๆ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน ช่วงฤดูใบไม้ผลิได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่สุด
เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม อันเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย
หลีกเลี่ยงช่วงที่มีหิมะและฝนตกเนื่องจากการเที่ยวชมต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ตั้งอยู่ที่ : เขตผิงเหยา เมืองจิ้นจง มณฑลซานซี ประเทศจีน
โทร : (+86)0354-5682909
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/
บริการข้อมูลท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง http://en.bcia.com.cn/
บริการการข้อมูลท่องเที่ยวมณฑลซานซี http://www.shanxichina.gov.cn/en/index.shtml
ศูนย์บริการยื่นขอวีซ่าประเทศจีน http://www.visaforchina.org/BKK_TH/
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย http://www.chinaembassy.or.th/th/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ