- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ทเวลฟ์ อโพสเซิล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ทเวลฟ์ อโพสเซิล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
- อ่าน (6,722)
- By Webmaster
- 17:21:23 | 30 ส.ค. 2562
ทเวลฟ์ อโพสเซิล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
12 Apostles, Melbourne, Australia
ทเวลฟ์ อโพสเซิล (12 Apostles / Twelve Apostles) เสาหินปูนธรรมชาติอายุนับสิบล้านปีที่มีชื่อเสียงแห่งชายฝั่งเมลเบิร์น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ใครมาถึงเมลเบิร์นแล้วต้องหาโอกาสไปชม
ประวัติ
ทเวลฟ์ อโพสเซิล เป็นกลุ่มเสาหินปูนขนาดมหึมา ที่เรียงรายกันอยู่นอกชายฝั่งเมืองเมลเบิร์น โดยอยู่ในเขต Twelve Apostles Marine National Park ริมถนนสาย Great Ocean Rd. เลียบฝั่งทะเลไปทางตะวันตกของเมืองเมลเบิร์น ห่างจากตัวเมืองเมลเบิร์นราวๆ 200 กิโลเมตร สันนิษฐานว่า กลุ่มเสาหินที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ในทะเลเหล่านี้ เกิดจากการกัดกร่อนของลมและน้ำนับร้อยนับพันปีจนเขาหินปูนชายฝั่งกลายเป็นโพรง เกิดเป็นถ้ำ ในเวลาต่อมาเมื่อถ้ำยุบตัวลงก็เหลือแต่โครงเสาหิน
หากมองลงมาจากมุมสูงจะเห็นว่ามีเสาหินน้อยใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่ในทะเลบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก แต่หินต้นต่างๆ ที่เห็นเหล่านั้นไม่ใช่ Twelve Apostles ทั้งหมด โดยกลุ่มเสาหิน Twelve Apostles จะนับเพียง 9 ต้นเท่านั้น (ซึ่งก็ไม่ใช่ 12 ต้นตามชื่อ) โดยเดิมทีบริเวณนี้มีเสาหินอยู่ 9 ต้นที่เรียกว่าเป็นกลุ่มเสาหิน Twelve Apostles แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 8 ต้น เนื่องจากบางส่วนได้พังทลายไปแล้ว
ตำแหน่งของเสาหิน Twelve Apostles เดิมทั้ง 9 ต้น ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 8 ต้น เนื่องจากเสาหินตามตำแหน่งหมายเลข 6 ได้พังทลายไปเมื่อปี ค.ศ. 2005
เมื่อมองจากจุดชมวิว Viewpoint A โดยหันหน้าออกสู่ทะเล เสาหิน 7 ต้น (หมายเลข 1 – 7) ทางด้านขวามือจะเป็นสิ่งแรกที่มองเห็น ในขณะที่เสาหินที่เหลืออีก 2 ต้น (หมายเลข 8 – 9) ทางซ้ายมือซึ่งมีชื่อเรียกว่า Gog และ Magog จะถูกบดบังโดยจุดชมวิว Viewpoint B ซึ่งมีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกมา เสาหินทั้งหมดรวม 9 ต้นในบริเวณนี้คือกลุ่มเสาหินที่เรียกว่า Twelve Apostles
ผาหินที่ยื่นออกมาในทะเลคือหนึ่งในจุดชมวิวหลัก และเป็นส่วนที่บดบังเสาหินอีกสองต้นอยู่
แต่เดิมกลุ่มเสาหินอายุ 10 – 15 ล้านปีเหล่านี้เคยถูกเรียกขานโดยคนท้องถิ่นเมื่อราวๆ ร้อยปีก่อนด้วยชื่อที่มีความหมายว่าแม่หมูกับลูกหมู (Sow and Piglets) ซึ่งแม่หมู (Sow) เป็นชื่อเรียกเกาะ Mutton Bird Island ซึ่งสามารถมองเห็นได้จาก Loch Ard Gorge ที่อยู่ใกล้กัน ส่วนลูกหมู (Piglets) เป็นชื่อเรียกกลุ่มเสาหินเล็กๆ ที่อยู่ถัดออกไป ภายหลังเพื่อสร้างความน่าสนใจในเชิงการท่องเที่ยวจึงได้มีการตั้งชื่อกลุ่มเสาหินขนาดใหญ่ 9 ต้นเหล่านี้ใหม่ว่า “12 Apostles” หมายถึงอัครสาวกทั้ง 12 คนที่ร่วมโต๊ะเสวยมื้อสุดท้ายหรือ The Last Supper กับพระเยซู ซึ่งแม้ว่ากลุ่มเสาหินทั้ง 9 ต้นจะถูกเรียกรวมกันว่า '12 อัครสาวก' แต่เสาหินแต่ละต้นก็ไม่ได้มีความเกี่ยวพันหรือตั้งชื่อตามอัครสาวกแต่ละคนในพระคัมภีร์ไบเบิลแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากสังเกตจะเห็นว่าช่วงกลางของเสาเหล่านี้มีลักษณะคอด โดยเสาหินเหล่านี้มีอัตราการกัดกร่อนที่สูงถึงราวๆ 2 ซม. ต่อปี ทำให้ในแต่ละปีนั้นเสาหินจึงคอดลงเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อปี ค.ศ. 2005 ก็เพิ่งมีเสาหินความสูง 50 เมตรต้นหนึ่งหักโค่นลง ปัจจุบันกลุ่มเสาหิน 12 Apostles จาก 9 ต้นจึงเหลืออยู่เพียง 8 ต้นเท่านั้น
บริเวณนี้เป็นกลุ่มเสาหินจำนวน 5 ต้น โดยมุมมองที่ปรากฏชัดเจนในภาพนี้มีอยู่ 4 ต้นเท่านั้น เนื่องจากอีกต้นหนึ่งได้ทลายลงแล้ว (คือหินเดี่ยวส่วนที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเล็กน้อยและโดนฟองคลื่นซัดจนเกือบมิด)
เสาหินขนาดใหญ่ถัดมาอีก 1 ต้นในกลุ่มเสาหิน 12 Apostles
เสาหิน 2 ต้นที่อยู่ทางด้านซ้ายมือเมื่อมองจากจุดชมวิวมีชื่อเรียกว่า Gog และ Magog
การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง
ท่าอากาศยานเมลเบิร์น หรือ “ท่าอากาศยานทัลลามารีน” (Tullamarine Airport) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สนามบินเมลเบิร์น” หรือที่คนท้องถิ่นนิยมเรียกว่า “สนามบินทัลลามารีน” เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเพราะเมลเบิร์นมีมากกว่าหนึ่งสนามบิน โดยสนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินหลักของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย
การเดินทางจากสนามบินไปยัง Flinders Street Railway Station ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมรวมทั้งยังเป็นจุดนัดพบสำคัญที่อยู่ใจกลางตัวเมืองเมลเบิร์น มีระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและรูปแบบการเดินทางที่นักท่องเที่ยวเลือก โดยสนามบินเมลเบิร์นยังไม่มีเส้นทางรถไฟที่รวดเร็วให้บริการ การใช้รถชัตเทิลบัสสนามบิน หรือแท็กซี่ จึงยังเป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วที่สุด
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินเมลเบิร์นไปยัง Flinders Street Railway Station โดยใช้ทางหลายหมายเลข M2 มีระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- รถประจำทาง (Bus) มีบริการรถประจำทาง SkyBus รับส่งระหว่างสนามบินเมลเบิร์นกับตัวเมือง โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่ง SkyBus จากสนามบินมาลงที่ Skybus Coach Terminal ที่อยู่ใกล้ๆ กับ Flinders Street Railway Station เพียงเดินราวๆ 8 นาที
- แท็กซี่ (Taxi) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ มีบริการรถแท็กซี่บริเวณหน้าอาคารผู้โดยสาร จากสนามบินเมลเบิร์นไปยัง Flinders Street Railway Station มีค่าบริการประมาณ 60 AUD
- รถไฟ (Train) ไม่มีรถไฟให้บริการจากสนามบินเมลเบิร์นโดยตรง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟนักท่องเที่ยวจะต้องนั่ง SkyBus หรือรถประจำทางสาย 901 จากสนามบินมาลงที่ Broadmeadows Station เพื่อขึ้นรถไฟสาย Craigieburn City ไปยัง Flinders Street Railway Station ใช้เวลาในการเดินทางโดยรวมประมาณ 40 - 50 นาที
การเดินทางไป 12 Apostles
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากเมลเบิร์นไป 12 Apostles ได้โดยรถยนต์ส่วนตัว หรือ การซื้อทัวร์ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากเมลเบิร์นไป 12 Apostles โดยผ่านทางหลวงสาย M1 และ Princes Hwy/A1 หรือเส้นทางที่เรียกกันว่า Great Ocean Road มีระยะทาง 227 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที
ถนน Great Ocean Road เลียบมหาสมุทรมีทัศนียภาพที่สวยงาม การเดินทางโดยรถยนต์และได้ชมวิวเลียบมหาสมุทรไปด้วยนั้น จึงได้รับความนิยมและเป็นความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Great Ocean Road เพิ่มเติมได้ที่ Link
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมทัศนียภาพมุมสูงอันน่าตื่นตาตื่นใจของ 12 Apostles และบริเวณรอบๆ ก็มีบริการ 12 Apostles Helicopters ที่น่าสนใจ โดยค่าใช้จ่ายนั้นเริ่มต้นที่ $145 ต่อคน ระยะทางบิน 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.12apostleshelicopters.com.au/online-bookings.php
เวลาทำการเปิด – ปิด
ไม่มีเวลาเปิดและปิดสำหรับการชม 12 Apostles นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมเสาหินได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีเวลาเปิดทำการระหว่าง 10.00 น. – 17.00 น. โดยประมาณขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล
ป้ายชื่อ Twelve Apostles ในรูปแบบเรียบง่ายสวยงามและสอดคล้องกับลักษณะของเสาหิน
นักท่องเที่ยวบริเวณทางเดินเพื่อไปจุดชมวิว
สันนิษฐานว่าเสาหินบริเวณ Port Campbell เหล่านี้มีอายุระหว่าง 15 – 20 ล้านปี
ทางเดินสะพานไม้รอบๆ จุดชมวิว ซึ่งมีอยู่ 2 จุดใหญ่ด้วยกัน
ทางเดินสะพานไม้ทอดยาวรอบๆ จุดชมวิว
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
ป้ายอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับเสาหินแต่ละต้นในบริเวณนี้ทั้งที่ยังคงอยู่และพังทลายไปแล้ว
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว
นอกจาก 12 Apostles แล้ว เลียบไปตามถนนสาย Great Ocean Road ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่เป็นกลุ่มเสาหินปูนและโตรกผาที่เกิดจากการกัดเซาะในลักษณะคล้ายกันที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อาทิ
London Bridge ที่มีลักษณะเป็นเนินลาดและมีซุ้มโค้ง คล้ายสะพาน London Bridge ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ London Bridge เพิ่มเติมได้ที่ Link
Loch Ard Gorge โตรกผาที่ถูกกัดเซาะจนแยกออกจากกันเป็นสองส่วน มีช่องให้น้ำทะเลไหลเข้ามา เกิดเป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงาม อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Loch Ard Gorge เพิ่มเติมได้ที่ Link
The Grotto ผาหินที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ลักษณะคล้ายเกือกม้าคว่ำหัว มีช่องโหว่ตรงกลาง และมีแอ่งน้ำ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Grotto ได้ที่ Link
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่เป็นกลุ่มเสาหินและโตรกผาที่มีลักษณะคล้ายกันกับ 12 Apostles
London Bridge เคยเป็นซุ้มหินโค้งธรรมชาติกลางทะเล ซึ่งมีบางส่วนได้ทลายลงเมื่อปี ค.ศ. 1990
บริเวณที่เป็นผืนดินฝั่งขวามือคือส่วนหนึ่งของ Port Campbell National Park
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยว 12 Apostles ได้ตลอดทั้งปี
เสาหินเหล่านี้มีอัตราการกัดกร่อนสูงถึงราวๆ 2 ซม. ต่อปี
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 12 Apostles
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเก็บภาพความสวยงามของ 12 Apostles โดยเฉพาะ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวันสำหรับการเก็บภาพคือตอนเช้าหรือค่ำ เนื่องจากแสงแดดที่ส่องผ่านจะทำให้แสงสีส้มสดใสส่องลงมากระทบเสาหินเหล่านี้อย่างงดงาม
ทั้งนี้ แม้ว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ 12 Apostles นั้นจะสามารถทำได้อย่างสะดวกและไม่มีอะไรน่ากังวล อย่างไรก็ตามเงื่อนไขการท่องเที่ยวในเขตอุทยานก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ สภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมหรือเกิดไฟป่า ดังนั้น ก่อนไปนักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกครั้งบนเว็บไซต์ของ Parks Victoria ที่ https://www.parks.vic.gov.au/
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม 12 Apostles สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ทเวลฟ์ อโพสเซิล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
(12 Apostles, Melbourne, Australia)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ตั้งอยู่ที่ : Great Ocean Rd & Booringa Rd, Princetown VIC
โทรศัพท์ : (+61) 1300 137 255
เว็บไซต์ : https://www.visit12apostles.com.au/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองเมลเบิร์น https://www.visitmelbourne.com
การท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย https://www.australia.com
ระบบขนส่งสาธารณะรัฐวิคตอเรีย https://www.ptv.vic.gov.au
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
13 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ซิดนีย์ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบคลาสสิก บรรยากาศชายหาดอันผ่อนคลายๆ แบบออสซี่ ย่านช้อปปิ้ง ห้างหรู ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวริมอ่าว และตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกก็รวมกันอยู่ ณ มหานครแห่งนี้อย่างกลมกล่อมและครบทุกมิติ Palanla จะพาไปชม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกติดอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) ประจำปี 2023
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
บริสเบน (Brisbane) นอกจากจะเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองชายทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของแดนจิงโจ้โดยเป็นเมืองตากอากาศที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla จะพาออกเดินทางไปค้นหา 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบริสเบนที่คุณจะต้องชื่นชอบ
อ่านต่อสะพานสตอรี่ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
สะพานสตอรี่ (Story Bridge) สะพานเหล็กอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองบริสเบน ที่ทอดข้ามแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ประเทศออสเตรเลีย สตอรี่บริดจ์ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางคมนาคมเท่านั้น ทว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบริสเบนอีกด้วย
อ่านต่ออาสนวิหารแองกลิกันเซนต์จอห์น เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
อาสนวิหารแองกลิกันเซนต์จอห์น (Saint John’s Anglican Cathedral) เป็นอาสนวิหารงามสง่าในรูปแบบฟื้นฟูกอธิคในเมืองบริสเบนที่สร้างมานานกว่า 122 ปี
อ่านต่ออนุสรณ์สถานจัตุรัสแอนแซค เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
อนุสรณ์สถานจัตุรัสแอนแซค (Anzac Square Memorial) เป็นสถานที่สำคัญในเมืองบริสเบนและเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพต่อผู้ที่เสียสละชีวิตรับใช้ประเทศออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
อ่านต่อตลาดเซาธ์ แบงค์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
ตลาดเซาธ์ แบงค์ (South Bank Market) เป็นตลาดที่คึกคัก มีชีวิตชีวา ละลานตาไปด้วยร้านค้าต่างๆ รวมถึงอาหารอร่อยๆ กับบรรยากาศแสนผ่อนคลายและทัศนียภาพที่สวยงามริมแม่น้ำบริสเบน
อ่านต่อเซาธ์ แบงค์ พาร์คแลนด์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
เซาธ์ แบงค์ พาร์คแลนด์ (South Bank Parklands) 1 ใน 7 สวนสาธารณะของออสเตรเลียที่ได้รับรางวัล Green Flag Award (ปี ค.ศ.2016) ซึ่งเป็นรางวัลด้านความเป็นเลิศในเรื่องพื้นที่สีเขียว มีเส้นทางเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และท่าเรือเลียบไปกับแม่น้ำบริสเบนที่ไหลผ่านกลางเมือง
อ่านต่อ10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์
ประเทศนิวซีแลนด์นั้นขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศทั้งบนเกาะเหนือและเกาะใต้ โดยจุดเด่นของเกาะเหนือคืออุทยานความร้อนใต้พิภพ ส่วนจุดเด่นของเกาะใต้คือเทือกเขาและทะเลสาบ ในบทความนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวที่เกาะใต้ ซึ่งสามารถเดินทางมาด้วยการต่อเครื่องบินจากสนามบินโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศนิวซีแลนด์ที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ มาลงยังสนามบิน ควีนส์แลนด์หรือสนามบินไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ เพื่อไปชม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะใต้ที่ไม่ควรพลาดดังต่อไปนี้
อ่านต่อสวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช เกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์
สวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณอันหลากหลายที่สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล เพราะจะมีต้นไม้และดอกไม้เติบโตและผลิบานแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกกุหลาบที่บานในช่วงฤดูร้อน ดอกแดฟโฟดิลที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และในฤดูหนาวก็สามารถชมพรรณไม้นานาพันธุ์ได้ในเรือนกระจกบรรยากาศสบายๆ ที่เปิดให้เที่ยวชมตลอดช่วงฤดูหนาว ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์
อ่านต่อสกายไลน์ควีนส์ทาวน์ เกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์
สกายไลน์ควีนส์ทาวน์ (Skyline Queenstown) เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจะต้องขึ้นลงด้วยกระเช้ากอนโดล่าเท่านั้น ซึ่งกระเช้ากอนโดล่านี้เป็นกระเช้าที่มีความชันที่สุดในซีกโลกใต้เลยทีเดียวจึงทำให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมไฮไลท์ของเมืองควีนส์ทาวน์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยด้านบนจะมองเห็นเมืองควีนส์ทาวน์ ทะเลสาบวาคาตีปู และเทือกเขาสูงต่างๆ ที่โอบล้อมเมืองและทะเลสาบอยู่ ซึ่งเป็นทัศนียภาพในแบบพาโนรามาที่สวยงามเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ