- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- มหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
- อ่าน (3,850)
- By Webmaster
- 13:54:11 | 24 พ.ย. 2563
มหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
Basilica di Santa Croce, Florence, Italy
สถาปัตยกรรมที่สวยงามของมหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์
มหาวิหารซันตา โกรเช (Basilica di Santa Croce) เป็นมหาวิหารที่สร้างขึ้นโดยนักบุญฟรานซิสและเป็นโบสถ์ฟรานซิสกัน (โบสถ์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักบวชคาทอลิกของนักบุญฟรานซิส) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบโดยสถาปนิกอาร์นอลโฟ ดิ แคมบิโอ (Arnolfo di Cambio) โดดเด่นด้วย 16 Chapels หรือโบสถ์น้อยสำหรับฝังศพบุคคลที่มีชื่อเสียงของเมืองฟลอเรนซ์ โดยแต่ละ Chapel มีสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และภาพจิตรกรรมศิลปะปูนเปียก (Fresco) โดยศิลปินเอกแห่งยุค ที่นี่จึงเป็นเหมือนที่รวมงานศิลปะอันทรงคุณค่าให้นักท่องเที่ยวได้มาชมอยู่มากมาย
แผนที่ตั้งมหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
ประวัติ
มหาวิหารซันตา โกรเช (Basilica di Santa Croce) ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสซานตา โครเช สร้างโดยนักบุญฟรานซิส (St. Francis) ราวศตวรรษที่ 13 จากโครงสร้างโบสถ์เดิม ออกแบบโดยสถาปนิกอาร์นอลโฟ ดิ แคมบิโอ (Arnolfo di Cambio) วางผังเป็นรูปตัว T ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักบุญฟรานซิส ที่หน้าวิหารจะมี Façade ที่สวยงามศิลปะนีโอโกธิก ต่อเติมในราวปี ค.ศ. 1863 มหาวิหารแห่งนี้ได้ฉายาว่าเป็น “มหาวิหารเวสมินสเตอร์แห่งฟลอเรนซ์” (มหาวิหารเวสมินสเตอร์ในกรุงลอนดอนใช้เป็นที่ฝังศพบุคคลสำคัญ) เป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญของเมืองฟลอเรนซ์ ได้แก่ มิเคลันเจโล, กาลิเลโอ, มาคิเวลลี, ดันเต้ (จำลอง), รอสสินี ด้านข้างวิหารมีรูปปั้นของดันเต้ อาลีกีเอรี (Dante Alighieri) กวีเอกและนักคิดแห่งยุคเรอนาสซองส์ นอกจากนี้ยังมีหอระฆังหินอ่อนศิลปะโกธิกอายุกว่า 100 ปี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1842 ผลงานนิโคโล มาทาส แล้วสร้างต่อโดยฟิลิปโป บรูเนลเลสกี บริเวณระเบียงคดมีอนุสรณ์สถานของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองอยู่ด้วย ส่วนลานหน้าวิหารใช้เป็นสนามฟุตบอลโบราณ Calcio Storico เริ่มในศตวรรษที่ 16 และยังคงจัดเป็นประจำทุกปีในราวเดือนมิถุนายน โดยนักฟุตบอลจะแต่งกายสมัยเรอนาสซองส์
ภายในมหาวิหารมีแท่นบูชาหลักพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน (Altar crucifix) ผลงานของเชนนี ดิ เป็บโป (จิโอวานนี) ชิมาบูเย (Cenni di Pepo (Giovanni) Cimabue) ข้างหลังแท่นบูชามีภาพวาดปูนเปียก The Legend of the True Cross เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานไม้ที่นำมาใช้ตรึงพระเยซู และอีก 16 Chapels ของ 16 ตระกูล ได้แก่ Castellani Chapel, The Baroncelli Chapel, Medici Chapel, Bardi Chapel จะมี Crucifix ผลงานของ Donatello, Peruzzi Chapel จะมีภาพศิลปะปูนเปียกของจ๊อตโตที่วาดอุทิศให้นักบุญฟรานซิสและเซนต์จอห์น, Pazzi Chapel มีผลงานชิ้นเอกของ Filippo Brunelleschi นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังและประติมากรรมนูนต่ำของศิลปินอื่นๆ เช่น Matteo Rosseli, J. Do San Giovanni, Fra Bartolomeo, J. Lee Bondone อีกด้วย
ดังเต้ อัลลิเกียรี (Dante Alighieri) กวีนักคิดแห่งยุค และสิงโต Marzocco สัญลักษณ์แห่งอิสรภาพของเมืองฟลอเรนซ์
Crucifix เหนือแท่นบูชา ผลงานของ Giotto
จิตรกรรมแผงภาพ Madonna and Child กับนักบุญต่างๆ
รูปปั้นนักบุญฟรานซิส / Sisters in Liberty ที่มาของเทพีเสรีภาพ / ที่ฝังศพของกาลิเลโอ
ภาพเฟรสโกผลงานของTaddeo Gaddi ภายใน Baroncelli Chapel / ภาพ Descent of Christ into Limbo ผลงานของ Angelo Bronzino
การเดินทางจากสนามบินฟลอเรนซ์ เปเรโตลา ไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินฟลอเรนซ์ เมือง Peretola ไปยังบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.ระยะทางประมาณ 8.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถชัตเติลบัส (Shuttle Bus) จอดบริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออกไปส่งยังสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ให้บริการตั้งแต่เวลา 5.30 น. จนถึงเวลา 00.30 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารราคา 6 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่ขายตั๋วภายในสนามบิน และทุกที่ขายตั๋วผู้โดยสารบริษัท ATAF หรือที่คนขับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เงินสด)
- รถไฟ (Train) ขึ้นรถรางสาย T2 ที่สถานี Peretola Aeroporto ไปลงที่สถานีรถราง Unita ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
- รถแท็กซี่ (Taxi) สามารถขึ้นได้ที่จุดจอดรถแท็กซี่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ราคาประมาณ 22 ยูโร / วันอาทิตย์ราคา 24 ยูโร / วันหยุดพิเศษและตั้งแต่เวลา 22.00 น. – 06.00 น. ราคา 25 ยูโร และมีค่าภาษีสนามบิน 2.70 ยูโร หากมีสัมภาระจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มใบละ 1 ยูโร สูงสุด 7 ใบ ใช้เวลาเดินทางไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 15 นาที โทร. (+39) 055-4242 / 055- 4390 / 055-4798
การเดินทางไปมหาวิหารซันตา โกรเช
เมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองขนาดเล็ก สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอยู่ไม่ห่างกันมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกกว่าการใช้รถ เพราะภายในเขตเมืองเก่าอนุญาตให้คนในพื้นที่เข้าจอดเท่านั้น รถอื่นให้จอดบริเวณจุดจอดรอบนอกและอาจมีค่าผ่านทาง
- การเดิน (Footpath) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.ไปยังมหาวิหารซันตา โกรเช ระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 14 ที่ป้าย Stazione Piazza Adua ไปลงที่ป้าย Colonna Liceo Michelangelo ซึ่งอยู่ห่างจากมหาวิหารซันตา โกรเช พียง 140 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที (ต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถโดยซื้อได้ที่ร้านขายบุหรี่ (Tabacchi), ร้านกาแฟที่ติดป้าย ATAF, บริษัททัวร์ หรือจากคนขับ ราคา 1.20 ยูโร หลังจากประทับตรา (validate) บนรถแล้วสามารถขึ้นกี่เที่ยวก็ได้ ใช้ได้ 90 นาที)
- รถยนต์ (Car) จากบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ไปยังมหาวิหารซันตา โกรเช ระยะทางประมาณ 6.2 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที (มีค่าผ่านทาง)
เวลาทำการเปิด – ปิด
วันจันทร์ และวันพุธ – วันเสาร์ เปิดเวลา 11.00 – 17.00 น.
วันอาทิตย์ เปิดเวลา 13.00 -17.00 น.
ปิดทำการวันอังคาร
จิตรกรรมฝาผนัง The Life’s Tree ผลงานของ Taddeo Gaddi
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ ราคา 8 ยูโร เด็กอายุ 11 – 17 ปี ราคา 6 ยูโรเด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม นอกจากเที่ยวชมภายในมหาวิหารแล้วสามารถชม the Pazzi Chapel, the Museum of the Opera, the Refectory, three cloisters และกิจกรรมอื่นๆ ภายในตั๋ว
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปมหาวิหารซันตา โกรเช
ชมความงามของ Façade หน้าวิหารและภาพจิตรกรรมและประติมากรรมที่งดงามตาม Chapel ที่ฝังศพของคนในตระกูลสำคัญของเมืองฟลอเรนซ์และบุคคลสำคัญทางศิลปะ อาทิ มิเคลันเจโล, กาลิเลโอ, ดันเต้
ข้อมูลที่ควรรู้
การซื้อตั๋วล่วงหน้าสามารถทำได้ก่อนเป็นสัปดาห์ตามพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ในเมืองฟลอเรนซ์ที่เป็นของรัฐ โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 3 ยูโร หรือโทรติดต่อที่ฟิเรนเซ่มูเซย์ (Firenze Musei) โทร. (+39) 055-294-883 หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ www.weekendafirenze.com เสียค่าธรรมเนียมใบละ 6.80 ยูโร จองได้ครั้งละไม่เกิน 3 ใบ ล่วงหน้าได้ 3 วัน แล้วนำสำเนาอีเมลไปยื่นเจ้าหน้าที่
ภายในเมืองฟลอเรนซ์มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จะต้องเสียค่าเข้าชม จึงได้มีการออกบัตร Firenze Card ที่สามารถเข้าชมได้หลายพิพิธภัณฑ์ในราคาที่ถูกกว่าปกติ คือ บัตรราคา 85 ยูโร สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ได้ 72 ชั่วโมง ได้แก่ Galleria Palatina, Appartamenti Monomentali, Pallazzo Piti, Museo Nazionale del Bargello, Museo delle Cappelle Medicee รวมถึงหอศิลป์ Uffizi Gallery และพิพิธภัณฑ์ Galleria dell' Accademia ที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก ต้องเข้าคิวเป็นเวลานานด้วย เหมาะสำหรับผู้ต้องการเที่ยวภายในเมืองฟลอเรนซ์ 3 วันขึ้นไป สนใจประวัติศาสตร์ศิลปะและไม่ต้องการต่อคิว สามารถซื้อได้ที่จุดขายในเมืองฟลอเรนซ์หรือทางออนไลน์ที่ http://www.firenzecard.it/ แล้วโหลดแอพพลิเคชั่น Firenzecard เพื่อเป็นบัตรผ่านดิจิตอลหรือปริ้นท์ออกมาเพื่อไปรับบัตรจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์แรกที่เข้าชม แล้วลงทะเบียนยืนยันวันเดือนปีที่เริ่มใช้บัตรก่อนโดยแต่ละพิพิธภัณฑ์อาจมีจุดออกใบเสร็จอยู่ที่ประตูทางเข้า, ร้านหนังสือ หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วปกติ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เดือนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน, กันยายนและตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายไม่หนาวหรือร้อนเกินไป นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่วนเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมจะมีอากาศร้อนและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพราะเป็นช่วงหยุดซัมเมอร์ของทางยุโรป และที่พักราคาสูงกว่าปกติ ที่นั่งในรถไฟอาจเต็ม จึงควรจองตั๋วหรือซื้อบัตรล่วงหน้าทางเว็บไซต์มาก่อน
ข้อแนะนำในการเข้าชม
ในการเข้าชมศาสนสถานในเมืองฟลอเรนซ์นั้นนักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่สวมรองเท้าแตะ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยวหรือเปลือยไหล่เพื่อเป็นการเคารพสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม มหาวิหารซันตา โกรเช สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
มหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
(Basilica di Santa Croce, Florence, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 8 ยูโร เด็กอายุ 11 – 17 ปี ราคา 6 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ และวันพุธ – วันเสาร์ เปิดเวลา 11.00 – 17.00 น. วันอาทิตย์ เปิดเวลา 13.00 -17.00 น. ปิดทำการวันอังคาร
ตั้งอยู่ที่ : Piazza di Santa Croce, เมืองฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี
โทรศัพท์ : (+39) 055-246-6105
เว็บไซต์ : http://www.santacroceopera.it/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองฟลอเรนซ์ https://www.florence-carhire.net/th/ , https://www.florence.net
พิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ http://www.museumsinflorence.com
การท่องเที่ยวในแคว้นทัศคานี https://www.visittuscany.com/en/
การท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html
ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/useful-info/how-to-arrive.html
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ