เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียส จังหวัดอัยดึน ประเทศตุรกี

  • อ่าน (2,479)
  • By Webmaster
  • 15:42:03 | 14 ต.ค. 2562

เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียส จังหวัดอัยดึน ประเทศตุรกี

Aphrodisias, Aydin, Turkey

             แอฟโฟรดีเซียส (Aphrodisias) เป็นเมืองโบราณของโรมันอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ปรัชญา และการแกะสลักหินอ่อน แม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปีแต่ซากของเมืองและโบราณวัตถุหลายส่วนยังอยู่ในสภาพดี โดยเมืองโบราณแห่งนี้ยังได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองโบราณที่ซากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุดในประเทศตุรกี


ประวัติ

             แอฟโฟรดีเซียส เป็นเมืองโบราณของโรมันที่มีอาณาบริเวณครอบคลุม 1,522,510 ตารางเมตร เมืองโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่สูงของหุบเขาซึ่งมีแม่น้ำมอร์ซีนุส (Morsynus River) ไหลผ่าน ในเขตอนาโตเลีย ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียสสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว โดยชื่อของเมืองตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่แอฟโฟรไดท์ (Aphrodite) ซึ่งเป็นเทพีแห่งความรักของชาวกรีก หรือที่ชาวโรมันเรียกว่าวีนัส (Venus) นั่นเอง

           ในสมัยโบราณเมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ปรัชญา และการแกะสลักหินอ่อน ซากของเมืองและโบราณวัตถุหลายส่วนยังอยู่ในสภาพที่ดีแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายพันปีแล้วก็ตาม ล่าสุดองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองแอฟโฟรดีเซียสเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2017

           นอกจากซากปรักหักพังและสิ่งก่อสร้างรอบๆ บริเวณเมืองโบราณแล้ว ที่แอฟโฟรดีเซียสยังมีพิพิธภัณฑ์ (Aphrodisias Museum) ที่จัดแสดงภาพแกะสลักหินอ่อนที่งดงามและเรียกได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งจากยุคโบราณ โดยภาพแกะสลักหินอ่อนเหล่านี้เป็นภาพที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานเทพเจ้าและเทพีต่างๆ ของชาวกรีกและโรมันรวมถึงเทพีแอฟโฟรไดท์ด้วย


บริเวณทางเข้าคือสุสานของเหล่าบุคคลสำคัญ


สุสานของบุคคลสำคัญ แกะสลักด้วยลวดลายสวยงามแบบโรมัน


ประตูเททราไพลอนทางเข้าเมือง (Tetrapylon Gateway)


ประตูเททราไพลอนด้านหน้า


สเตเดียมของเมืองแอฟโฟรดีเซียส (Stadium of Aphrodisias)


ภูมิปัญญาด้านสถาปัตยกรรมการก่อสร้างอัฒจันทร์ของคนในสมัยโบราณ


ซุ้มหินโค้งด้านบนคือประตูเข้าสู่สเตเดียม


มองขึ้นไปจากด้านล่างของสเตเดียม


ห้องอาบน้ำ Bath of Hadrianสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 2


ห้องอาบน้ำ Bath of Hadrian


แม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปีแต่ซากของเมืองโบราณของแอฟโฟรดีเซียสยังอยู่ในสภาพดีกว่าแห่งอื่นๆ


อโกราหรือจตุรัสของเมืองแอฟโฟรดีเซียส (Agora of Aphrodisias)


ระเบียงทางใต้ของ Agora เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Portico of Tiberius”


“Sebasteio” เป็นหนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้


การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Aydin

           แม้ว่า Aphrodisias จะตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัด Aydin แต่เนื่องจากจังหวัด Aydin ไม่มีสนามบิน นักท่องเที่ยวจึงต้องนั่งเครื่องบินมาลงที่ Denizli Airport ที่จังหวัด Denizli ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ใกล้เคียง โดยจากสนามบินเดนิซลีจะมีทัวร์ให้บริการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของ Denizli รวมถึง Aydin โดยตรง

             - เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเดินิซลีมีระยะทางประมาณ 580 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Denizli Airport ของอิซเมียร์ให้บริการ 4 – 7 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m.DNZ.2019-10-09*DNZ./m/09949m.2019-10-13;c:THB;e:1;sd:1;t:f

             - รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เดนิซลี นั้นจะเริ่มต้นที่ประมาณ 120 – 143 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 - 765 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารก่อนซื้อตั๋วเพราะราคาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรอบเวลาเดินทาง โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถนั้นมีอยู่หลายบริษัทด้วยกัน ได้แก่ Nilüfer Turizm, Efe Tur, Alaşehir Sarıkız Turizm, Metro Turizm, Pamukkale Turizm นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/swswvu?outbound_date=2019-10-03&adults=1

             - รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/


การเดินทางจากสนามบิน Denizli Airport ไป Aphrodisias

           จากสนามบิน Denizli Airport ไป Aphrodisias มีระยะทาง 124 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 53 นาที

           จากสนามบิน Denizli Airport จะมีทัวร์ให้บริการจากสนามบินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยตรง ทั้งนี้ทัวร์ส่วนใหญ่จะเริ่มเดินทางออกจากสนามบินตั้งแต่ช่วงเช้า ดังนั้น เที่ยวบินที่นักท่องเที่ยวนั่งมาลงที่เดนิซลีควรมาถึงระหว่างเวลา 07.00 – 08.00 น.


เวลาทำการเปิด – ปิด

           เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียสเปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00 – 19.00 น. ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ปิดเวลา 17.00 น.


ส่วนหนึ่งของซาก “Agora” เมื่อมองจากบนเนินเขา


นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมรอบๆ เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียส


อัตราค่าเข้าชม

           ค่าบัตรเข้าชม 24 ลีราตุรกี


โรงละครเล็กของเมืองแอฟโฟรดีเซียส (Aphrodisias Odeon)


โรงละครเล็กของเมืองแอฟโฟรดีเซียส (Aphrodisias Odeon)


โรงละครเล็กของเมืองแอฟโฟรดีเซียส (Aphrodisias Odeon)


โรงละครเล็กของเมืองแอฟโฟรดีเซียส (Aphrodisias Odeon) 

           ทั้งนี้ “โรงละคร” ในตุรกีมี 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ 1. แบบกรีก (มีลักษณะเป็นโรงละครที่มีภูเขาอยู่ด้านหลัง คือสร้างตรงทางลาดเขา) 2. แบบโรมัน (สร้างบนที่ราบหรือทางลาดเขาก็ได้ แต่ลักษณะของโรงละครแบบโรมันคือจะมีกำแพงสร้างขึ้นมาค้ำที่นั่งเอาไว้ เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) ที่โรม ประเทศอิตาลี 3. แบบกรีกโรมัน (ลักษณะผสมผสานกันระหว่างกรีกและโรมัน) ซึ่งโรงละครที่แอฟโฟรดีเซียสจะเป็นแบบโรมัน


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Aphrodisias

           นอกจากชมซากของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่น่าทึ่งของเมืองโบราณแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียส คือ พิพิธภัณฑ์ (Aphrodisias Museum) ซึ่งเป็นสถานที่รวมรวมและจัดแสดงภาพแกะสลักหินอ่อนที่งดงาม และดีที่สุดแห่งหนึ่งจากยุคโบราณ


บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์แอฟโฟรดีเซียส (Aphrodisias Museum)


“Blue Horse” รูปแกะสลักม้าควบหินอ่อนสีเทาน้ำเงิน ถูกขุดพบในปี ค.ศ.2017


รูปแกะสลักหินอ่อนเทพี “Melpomene” เป็นหนึ่งในบรรดาเทพีแห่งศิลปะและวิทยาการ


รูปแกะสลักหินอ่อนในส่วนของ “Sebasteion reliefs”


รูปปั้นแกะสลักหินอ่อนในส่วนของ “Sebasteion reliefs”


รูปแกะสลักหินอ่อนจักรพรรดิองค์ต่างๆ ในส่วน “Hall of Emperors” ภายในพิพิธภัณฑ์แอฟโฟรดีเซียส


บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ที่แบ่งเป็นสัดส่วนต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม


ข้าวของเครื่องใช้โบราณที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แอฟโฟรดีเซียส 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยว Aphrodisias ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           การเดินเที่ยวชมรอบๆ Aphrodisias ใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง ภายในเมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียส ไม่มีร้านค้า ดังนั้นหากต้องการใช้เวลาอยู่ที่นี่นานนักท่องเที่ยวควรเตรียมน้ำหรืออาหารมาด้วยเพื่อความสะดวก


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Aphrodisias สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียส จังหวัดอัยดึน ประเทศตุรกี

                       (Aphrodisias, Aydin, Turkey)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ค่าบัตรเข้าชม 24 ลีราตุรกี    

                       เวลาเปิด – ปิด : เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียสเปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00 – 19.00 น. ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ปิดเวลา 17.00 น.

                       ตั้งอยู่ที่ : Geyre, Karacasu, Aydın, Turkey

                       โทรศัพท์ : (+90) 256 448 80 86 

                       เว็บไซต์ : https://www.aphrodisias.com

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเดนิซลี http://www.pamukkale.gov.tr/en

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

21 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ปารีส คือเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสและเป็นเมืองแห่งมนตร์ขลังที่อ้าแขนรับ รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับเสน่ห์เมืองเก่าของยุโรปผสานไปกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคปฏิวัติ และความสะดวกสบาย ความทันสมัย รวมไปถึงแฟชั่นใหม่ๆ ที่มีต้อนรับผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้อย่างครบครัน

อ่านต่อ

อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ (Dutch Holocaust Memorial of Names) ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่โดดเด่นด้วยเขาวงกตกำแพงอิฐและกระจกแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีเหยื่อชาวดัตช์ผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 102,000 คนถูกขับไล่ออกจากประเทศและถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในค่ายกักกันนาซีเยอรมัน

อ่านต่อ

หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) หรือฉายา "ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี" (The Pearl Of The Zuiderzee) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันมีเสน่ห์โวเลนดัมได้ดึงดูดบรรดาจิตรกรเอกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่างเรอนัวร์และปีกัสโซให้เดินทางมาที่นี่ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผลงานของพวกเขามาแล้ว

อ่านต่อ

กังหันลมแอเดรียน (1779) เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

กังหันลมแอเดรียน (1779) (Windmill De Adriaan (1779)) เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ริมแม่น้ำสปาร์เนอร์ และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย กังหันลมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1779 ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมีการบูรณะซ่อมแซมให้ใช้งานได้จริงอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน ภายในอาคารด้านล่างของกังหันลมเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการกังหันลมที่น่าสนใจ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวความสวยงามริมแม่น้ำจากระเบียงอาคารด้านบนได้อีกด้วย

อ่านต่อ

ศาลากลางเมืองฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ศาลากลางเมืองฮาร์เลม (Town Hall Haarlem) เป็นอีกหนึ่งอาคารเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณจัตุรัสตลาดกลางของเมืองฮาร์เลม อาคารแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีและยังใช้เป็นที่ทำการปกครองเมืองฮาร์เลมอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพสวยๆ ของเมือง และหากมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่อีกด้วย

อ่านต่อ

มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม (St. Bavo Haarlem) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างวิจิตรงดงาม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาร์เล็มใกล้กับจตุรัสตลาดกลาง และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ภายในประดับด้วยกระจกสี ภาพเขียน และโบราณวัตถุต่างๆ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองฮาร์เลม

อ่านต่อ

จัตุรัสตลาดกลาง เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

จัตุรัสตลาดกลาง (Grote Markt) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับมหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลมและศาลากลางเมืองฮาร์เลม บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเพราะรายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินถึงกันได้ บริเวณจัตุรัสตลาดกลางจะเปิดเป็นตลาดนัดในวันเสาร์โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น อาหาร ขนม ผักผลไม้ ดอกไม้ และของใช้ทั่วไป นอกจากการเดินชมตลาดแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย

อ่านต่อ

บ้านลูกบาศก์ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับศิลปะการออกแบบภายในที่น่าสนใจ มีลักษณะเป็นบ้านทรงลูกบาศก์ที่ตั้งเอียงอยู่บนเสาทรงหกเหลี่ยม ด้านในแสดงให้เห็นถึงการออกแบบห้องต่างๆ และการจัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าและลงตัวเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมืองตามแนวคิดของ Piet Blom ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบ้านลูกบาศก์เหล่านี้

อ่านต่อ

โบสถ์เซนต์ลอว์เรน เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

โบสถ์เซนต์ลอว์เรน (Grote of Sint-Laurenskerk) เป็นโบสถ์ประจำเมืองรอตเตอร์ดัม สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคที่ผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าห้าร้อยปี โดดเด่นด้วยหอคอยสูงที่ด้านบนประดับด้วยนาฬิกา บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยสนามหญ้าและสวนอันร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยทางโบสถ์จะเปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนหอคอยได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี

อ่านต่อ

สะพานอีรามัส เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

สะพานอีรามัส (Erasmus Bridge) หรือสะพานหงส์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองรอตเตอร์ดัม สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ด้านบนขึงด้วยสายเคเบิลทอดข้ามแม่น้ำ Nieuwe Maas เพื่อเชื่อมพื้นที่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของเมืองรอตเตอร์ดัมเข้าไว้ด้วยกัน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถชมวิวสะพานและแม่น้ำได้แบบพาโนรามา เป็นจุดแวะเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ