- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ปราสาทนอยชวานสไตน์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ปราสาทนอยชวานสไตน์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
- อ่าน (8,345)
- By Webmaster
- 17:08:16 | 24 เม.ย. 2563
ปราสาทนอยชวานสไตน์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
Neuschwanstein Castle, Munich, Germany
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.neuschwanstein.de
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ตั้งอยู่บนหน้าผาความสูง 200 เมตรเหนือพื้นหุบเขาบนเทือกเขาแอลป์ที่อยู่บริเวณตอนใต้ของประเทศเยอรมนีใกล้กับเมืองมิวนิค เป็นพระราชวังของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) ตัวปราสาทสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ (Romanesque Revival architecture) ซึ่งมีความสวยงามโอ่อ่าอลังการในแบบสถาปัตยกรรมในยุคกลาง และถอดแบบความงดงามที่บรรยายไว้ในบทประพันธ์จากอุปรากรเรื่องอัศวินหงส์ (The Swan Knight) ของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) คีตกวีเอกชาวเยอรมันในยุคนั้น และยังเป็นคีตกวีเอกคนโปรดของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 อีกด้วย ความสวยงามของปราสาทแห่งนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) นำไปเป็นต้นแบบปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่ดิสนีย์แลนด์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ปราสาทนอยชวานสไตน์จึงถูกขนานนามว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยายนับแต่นั้นมา ที่นี่จึงจัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่มีชื่อเสียงอันโด่งดัง ซึ่งนักท่องเที่ยวแทบทุกคนที่มาเยือนเมืองมิวนิคมักจะต้องแวะมาเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้
แผนที่ตั้ง ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) รัฐบาวาเรีย ใกล้กับเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
ปราสาทนอยชวานสไตน์เริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1869 ตามพระประสงค์ของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่าอยากให้ปราสาทแห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ในยุคกลาง เนื่องด้วยตอนที่พระองค์ทรงพระเยาว์นั้น พระองค์ประทับอยู่ที่ปราสาทโฮเอนชวานเกา (Hohenschwangau Castle) ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกันกับพื้นที่ที่มีพระประสงค์จะสร้างปราสาทนอยชวานสไตน์ โดยปราสาทโฮเอนชวานเกานั้นเป็นปราสาทของกษัตริย์แม็กซิมิเลียนที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Maximilian II of Bavaria) พระราชบิดาของพระองค์นั่นเอง ซึ่งปราสาทโฮเอนชวานเกาก่อนที่จะถูกปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิก แต่เดิมนั้นสร้างและตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมในยุคกลาง ทำให้พระองค์ทรงมีโอกาสใกล้ชิดและสัมผัสศิลปะในยุคกลางจึงทรงประทับใจและหลงใหลในศิลปะและสถาปัตยกรรมยุคกลางเป็นอย่างมาก ประกอบกับการที่ทรงประทับใจในอุปรากรของริชาร์ด วาร์กเนอร์ จึงได้นำผลงานของเขามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปราสาทนอยชวานสไตน์แห่งนี้ โดยชื่อ Neuschwanstein นั้นหมายถึง “New Swan Castle (ปราสาทหงส์หลังใหม่)” ซึ่งมีที่มาจาก "the Swan Knight (อัศวินแห่งหงส์)" หนึ่งในตัวละครจากบทประพันธ์ของวากเนอร์
แม้ปราสาทนอยชวานสไตน์จะถูกสร้างและตกแต่งในแบบยุคกลาง แต่ได้ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น นอกจากนี้ภายในปราสาทยังได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและวิจิตรบรรจง ปราสาทนี้จึงมีชื่อเสียงและทรงคุณค่าอย่างมากในเชิงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม
ทางด้านกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 หลังจากขึ้นครองราชย์ในปีค.ศ. 1864 ได้เพียงสองปี พระองค์ก็ทรงถูกยึดอำนาจโดยปรัสเซีย พระองค์จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับยังพระราชวังบนเทือกเขาแห่งนี้ และทรงมีรับสั่งให้สร้างปราสาทและตกแต่งตามพระประสงค์ต่อไปแม้ว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลเพียงใดก็ตาม ซึ่งทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันของขุนนางและระบบการปกครองภายใน
การก่อสร้างกินระยะเวลาต่อเนื่องยาวนานนับสิบปี สร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ. 1891 แต่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ไปก่อนในวันที่ 13 มิถุนายน ปีค.ศ. 1886 หลงเหลือไว้เพียงปราสาทนอยชวานสไตน์ที่มีชื่อเสียงอันเลื่องลือ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1886 หลังจากการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 เพียงหนึ่งเดือน
ปัจจุบันนี้ปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และได้ชื่อว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยายเนื่องด้วยความสวยงามยิ่งใหญ่ของตัวปราสาทและทัศนียภาพบนเทือกเขาจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับวอลท์ ดิสนีย์ นำไปเป็นต้นแบบของปราสาทดิสนีย์แลนด์ ในทุกๆ ปีจะมีผู้คนราว 1.4 ล้านคนมาเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนราวหนึ่งหมื่นคนต่อวัน โดยจุดถ่ายภาพปราสาทที่สวยที่สุดจะอยู่บริเวณสะพานมาเรียนบรูค (Marienbrücke) ที่อยู่บริเวณกลางหุบเขา Pöllatschlucht แต่ในช่วงฤดูหนาวจะปิดทำการเพื่อความปลอดภัย
ตัวปราสาทตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่อยู่บนหน้าผา
ความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคกลาง โดยรอบปราสาทซึ่งมีการทำนุบำรุงอยู่เสมอ
ตัวปราสาทอีกมุมหนึ่งเมื่อมองจากทางด้านล่าง
ความสวยงามของตัวอาคารในแบบยุคกลาง
หอคอย Square Tower
ความสวยงามของปราสาทในช่วงฤดูหนาว
ทัศนียภาพอันสวยงามของเทือกเขาแอลป์
สะพานมาเรียนบรูค (Marienbrücke) สะพานที่สร้างบนหน้าผาความสูง 213 ฟุต
สะพานมาเรียนบรูคเป็นจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพปราสาทนอยชวานสไตน์ในมุมที่สวยที่สุด
ความสวยงามของหอคอยปราสาทในอีกมุมหนึ่ง
ตัวปราสาทและหน้าต่างที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง
ตัวผนังด้านนอกใช้อิฐสีเทาอ่อนที่ทำมาจากหินปูน
บรรยากาศโดยรอบปราสาท
ปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยาย
บริเวณประตูทางเข้าหลักของปราสาทนอยชวานสไตน์
บริเวณด้านหลังประตูทางเข้าปราสาทนอยชวานไสตน์
จากด้านบนเขาสามารถมองเห็นปราสาทโฮเอนชวานเกา
ทะเลสาบด้านซ้ายของภาพคือทะเลสาบ Alpsee
บริเวณเชิงเขาเป็นที่ตั้งของจุดขายตั๋ว ที่พัก ร้านอาหารและร้านค้า
นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพระหว่างขึ้นลงเขาได้
ปราสาทโฮเอนชวานเกา ปราสาทเก่าแก่ที่อยู่ในละแวกใกล้กัน
ปราสาทโฮเอนชวานเกา
ตัวอาคารด้านนอกทาสีเหลืองอ่อน
จากปราสาทโฮเอนชวานเกาสามารถมองเห็นปราสาทนอยชวานสไตน์ที่อยู่ด้านบนเขา
ความสวยงามของตัวปราสาทโดยรอบ (รูปซ้าย) ตราสัญลักษณ์อันเก่าแก่ของบาวาเรีย (รูปขวา)
การเดินทางจากสนามบินมิวนิค (Munich International Airport / Flughafen München) ไปยังสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station))
- รถยนต์ (Car) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) มีระยะทางประมาณ 40.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 36 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) สามารถใช้บริการรถบัส LH-Bus เป็นรถบัสด่วนของ Autobus Oberbayern ออกทุก 15 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Munich International Airport ให้ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงที่สถานี Munich Hauptbahnhof (Main Station) ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 47 นาที
การเดินทางจากสถานีสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station)) ไปยังปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle)
- รถยนต์ (Car) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ไปยัง Neuschwanstein Castle มีระยะทางประมาณ 109 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 37 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ให้ขึ้นรถราง BRB ไปลงที่ Füssen (13 ป้าย) แล้วต่อรถประจำทางสาย 73 หรือ 78 (5 ป้าย) ไปลงยังป้าย Neuschwanstein Castles จากนั้นขึ้นเขาต่อไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงยัง Neuschwanstein Castle ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 37 นาที
ข้อแนะนำในการเดินทาง เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บนภูเขานอกตัวเมือง ถ้าต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางสามารถซื้อบริการทัวร์ได้จากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวหรือจากโรงแรมที่พักที่น่าเชื่อถือได้ตามต้องการ
ข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม จากจุดจอดรถประจำทางหรือรถยนต์บริเวณเชิงเขา จะต้องขึ้นเขาต่อไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร จึงจะถึงปราสาทนอยชวานสไตน์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีการเดินทางขึ้นลงเขาได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็นการเดิน การใช้บริการรถชัทเทิลบัส และการใช้บริการรถม้า ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
การเดิน
- เดินไปตามป้ายลูกศรบอกทาง
- ไปยังปราสาทโฮเอนชวานเกา ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- ไปยังปราสาทนอยชวานสไตน์ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
การใช้บริการรถม้า
การใช้บริการรถม้าไปยังปราสาทโฮเอนชวานเกา
- ขาขึ้นราคา 4.50 Euro/คน ขาลงราคา 2.00 Euro/คน
- จุดจอดรถอยู่บริเวณด้านหน้าจุดขายตั๋ว
- ใช้เวลาเดินทางประมาณเที่ยวละ 10 นาที
- งดให้บริการช่วงฤดูหนาว (ต.ค. – มี.ค.)
การใช้บริการรถม้าไปยังปราสาทนอยชวานสไตน์
- ขาขึ้นราคา 7 Euro/คน ขาลงราคา 3.50 Euro/คน
- จุดจอดรถมี 2 ที่ ได้แก่ หน้าโรงแรม Hotel Müller และจุดจอดรถม้าใกล้กับปราสาทนอยชวานสไตน์
- ใช้เวลาเดินทางประมาณเที่ยวละ 20 นาที
- ให้บริการตลอดปี
การใช้บริการรถชัทเทิลบัส
การใช้บริการรถชัทเทิลบัสไปยังปราสาทนอยชวานสไตน์
- ตั๋วผู้ใหญ่ขาขึ้นราคา 2.50 Euro/คน ขาลงราคา 1.50 Euro/คน
- ตั๋วผู้ใหญ่ไปกลับราคา 3 Euro/คน
- ตั๋วเด็กอายุ7-12ปี ขาขึ้นราคา 1 Euro/คน ขาลงราคา 0.50 Euro/คน
- ตั๋วเด็กอายุ7-12ปีไปกลับราคา 1.50 Euro/คน
- จุดจอดรถได้แก่ บริเวณ "Alpsee" parking area P4 ด้านล่างปราสาทโฮเอนชวานเกา และ บริเวณใกล้กับสะพาน Marienbrücke ด้านเหนือปราสาทนอยชวานสไตน์ (สะพานจะปิดให้เข้าชมในช่วงฤดูหนาว ต.ค. – มี.ค.)
- รถชัทเทิลบัสให้บริการแค่เพียงเส้นทางไปกลับปราสาทนอยชวานสไตน์เท่านั้น ไม่มีเส้นทางสำหรับปราสาทโฮเอนชวานเกา
รถม้าที่ให้บริการนักท่องเที่ยว นั่งได้ราว 10-12 คน
รถม้าขาลงจะราคาถูกกว่าขาขึ้น
รถม้าเมื่อคลุมผ้าใบหลังคา
นักท่องเที่ยวใช้บริการรถม้าเที่ยวชมปราสาทบนเขา
รถชัทเทิลบัสขึ้นลงเขาจะใช้คนละเส้นทางกับรถม้า
บรรยากาศอาคารร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักบริเวณเชิงเขา
บรรยากาศอาคารร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักบริเวณเชิงเขา
เวลาทำการเปิด-ปิด
เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม เวลา 9.00 น.– 18.00 น.
16 ตุลาคม ถึง มีนาคม เวลา 10.00 น.– 16.00 น.
ปิดวันที่ 1 มกราคม และ 24-25 และ 31 ธันวาคม
ต้นแบบปราสาทที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับวอลท์ ดิสนีย์
อัตราค่าเข้าชม
ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 13 Euro / ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 12 Euro
เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี
ตั๋วเข้าชมสองปราสาท (ปราสาทนอยชวานสไตน์และปราสาทโฮเอินชวานเกา) ราคา 25 Euro / ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 23 Euro
หมายเหตุ : ภายในทั้งสองปราสาทห้ามถ่ายภาพ
อาคารขายตั๋วบริเวณเชิงเขา
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว ปราสาทนอยชวานสไตน์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปราสาทนอยชวานสไตน์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
(Neuschwanstein Castle, Munich, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 13 Euro / ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 12 Euro เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี
ตั๋วเข้าชมสองปราสาท ราคา 25 Euro ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 23 Euro
เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม เวลา 9.00 น.– 18.00 น.
16 ตุลาคม ถึง มีนาคม เวลา 10.00 น.– 16.00 น.
ปิดวันที่ 1 มกราคม และ 24-25 และ 31 ธันวาคม
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : (+49) 8362 93083-0
เว็บไซต์ : https://www.neuschwanstein.de , https://www.hohenschwangau.de
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองมิวนิค https://www.muenchen.de
เว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค https://www.munich.travel/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ