- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
- อ่าน (7,483)
- ByWebmaster
- 12:01:59 | 26 มิ.ย. 2564
ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
City Pillar Shrine, Bangkok, Thailand
ศาลหลักเมือง (City Pillar Shrine) กรุงเทพมหานคร สถานที่อันเป็นหลักบ้านหลักเมืองและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนมายาวนาน สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี สถานที่แห่งนี้ในแต่ละวันมีประชาชนหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมากราบไหว้ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่เคยขาดสาย
ประวัติ
ศาลหลักเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธียกเสาหลักเมืองขึ้น เป็นเสาไม้ชัยพฤกษ์มีไม้แก่นจันทน์ประกับนอก ยอดเสารูปบัวตูม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ณ ชัยภูมิใจกลางพระนครใหม่ที่พระราชทานนามว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” หรือเรียกต่อกันมาว่า “กรุงเทพมหานคร”
จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเสาหลักเมืองต้นใหม่แทนต้นเดิมที่ชำรุดไปตามกาลเวลา เป็นเสาไม้สักเป็นแกนอยู่ภายในประกับด้วยไม้ชัยพฤกษ์ยอดเม็ดทรงมัณฑ์ และผูกดวงชาตาพระนครขึ้นใหม่ เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ที่อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารประสบความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาถาวรยิ่งขึ้น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนิน ณ ศาลหลักเมือง ในพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่มหานครตามโบราณราชประเพณี และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการดำเนินการปรับปรุงศาลหลักเมืองให้มีความงดงามบริบูรณ์สมกับเป็นที่สถิตแห่งองค์พระหลักเมือง และให้เชิญเสาหลักเมืองต้นเดิมไปประดิษฐานไว้คู่กับเสาหลักเมืองต้นปัจจุบัน เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จสมบูรณ์ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีสมโภชพระหลักเมือง ณ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 รวมทั้งได้สร้างศาลเทพารักษ์เพื่อเป็นที่สถิตแห่งเทพารักษ์ทั้ง 5 และสร้างอาคารหอพระพุทธรูปขึ้น
องค์พระหลักเมือง
องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ได้แก่
1. พระเสื้อเมือง ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทอง ทรงยืนบนฐานสิงห์ พระเศียรทรงมกุฏยอดชัย พระหัตถ์ซ้ายท้าวที่บั้นพระองค์ทรงคฑาวุธ (กระบอง) พระหัตถ์ขวาทรงจักราวุธ พระเสื้อเมือง เป็นเทพารักษ์คุ้มครองป้องกันทั้งทางบก ทางน้ำ คุมกำลังไพร่พลแสนยากร รักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขปราศจากศัตรูมารุกราน
2. พระทรงเมือง ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทอง ทรงยืนบนฐานปัทม์ ยอดทรงมกุฏท่อนบนเป็นแบบเดินหน ซึ่งหมายถึงเสด็จจรไปตรวจตราปกป้องคุ้มครองภัยทั่วประเทศ พระหัตถ์ซ้ายท้าวที่บั้นพระองค์ทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ขวาทรงสังข์ พระทรงเมือง มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเปรียบได้กับฝ่ายปกครอง ซึ่งต้องเปี่ยมด้วยพระคุณ คือ ความเมตตา ละมุนละม่อมเป็นแนวทางปฏิบัติ เสมือนสังข์ที่ทรง ซึ่งมีความหมายไปในทางคุณธรรม
3. พระกาฬไชยศรี ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทอง มีสี่กร ประทับบนหลังนกแสก ซึ่งเกาะอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมปิดทอง พระเศียรทรงมกุฏยอดชัย พระหัตถ์ขวาบน ยกเสมอพระอังสาถือชวาลา คือดวงวิญญาณ เปรียบดังธาตุไฟในร่างกายคนเรา ซึ่งหากแตกดับลงเมื่อใดก็เท่ากับสิ้นชีวิตดวงวิญญาณออกจากร่างแล้วนั่นเอง และที่เห็นเป็นรูป 3 แฉกมีความหมายถึง ความตายนั้นย่อมเกิดขึ้นได้โดยไม่กำหนดว่าจะเป็นปฐมวัย มัชฌิมวัย หรือปัจฉิมวัยก็ตาม พระหัตถ์ขวาล่างกุมพระขรรค์ แทนปัญญาอันแหลมคม สำหรับพิจารณาตัดสินปัญหาตลอดจนแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้อง ซึ่งพระขรรค์นี้เป็นอาวุธประจำองค์ของเทพยดาหรือผู้มีบุญญาธิการทั่วไป พระหัตถ์ซ้ายบนถือเชือกบาศ สำหรับคล้องมัดปราณของมนุษย์ผู้ถึงฆาต ส่วนพระหัตถ์ซ้ายล่าง ทรงแสดงกิริยาตักเตือนสั่งสอนมิให้กระทำความชั่วร้าย
4. เจ้าเจตคุปต์ ลักษณะ เป็นรูปแกะสลักด้วยไม้ ประทับยืนบนแท่นสี่เหลี่ยม พระเศียรทรงมกุฏยอดชัย พระหัตถ์ประดับทองพระกร โดยพระหัตถ์ขวาทรงจักราวุธเทพคือเหล็กจาร พระหัตถ์ซ้ายถือใบลานอัครสันธานา สำหรับจดความชั่วร้ายของชาวเมืองที่ตายไป ตำนานมีว่า เจ้าเจตคุปต์เป็นบริวารพระยม และมีหน้าที่อ่านประวัติผู้ตายเสนอพระยม
5. เจ้าหอกลอง ลักษณะ เป็นรูปหล่อสำริดปิดทองพระเศียรทรงมกุฏยอดชัย ทรงยืนบนแท่นแปดเหลี่ยมพระหัตถ์ยกชูขึ้นเสมอพระอุระ พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว ซึ่งแทนความหมายของธรณี (แผ่นดิน) พระหัตถ์ซ้ายถือเขาสัตว์สำหรับใช้เป่าเป็นสัญญาณเรียกไพร่พลให้เข้ามาประจำหน้าที่ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติในสมัยโบราณเจ้าหอกลอง เป็นเทพารักษ์ประจำหอกลอง มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเหตุการณ์ต่างๆอันเกิดขึ้นในแผ่นดิน เช่น คอยรักษาเวลา ย่ำรุ่ง ย่ำค่ำ และเที่ยงคืน เกิดเหตุอัคคีภัย หรือมีอริราชศัตรูยกมาประชิดพระนคร
องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ได้แก่ พระทรงเมือง พระเสื้อเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุปต์ และเจ้าหอกลอง
บรรยากาศของประชาชนที่มากราบสักการะองค์พระหลักเมือง
จิตรกรรมลวดลายไทยงดงามบริเวณกรอบประตู
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ติดกับอาคารของกระทรวงกลาโหม
การเดินทางไปศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 15 นาที มีรถประจำทางสายที่ผ่านบริเวณใกล้เคียงคือสาย 59, ปอ.59 และ ปอ.503
บรรยากาศยามค่ำคืนรอบๆ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครในช่วงที่มีงานเฉลิมฉลอง
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 05.30 - 19.30 น
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
พระพุทธรูปปางต่างๆ ที่ประดิษฐานภายในอาคารหอพระพุทธรูป
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลหลักเมือง
ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมศาลหลักเมือง กราบสักการะองค์ศาลหลักเมืองและศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 เพื่อความเป็นสิริมงคล
ประชาชนกำลังผูกผ้า 7 สีเพื่อความเป็นสิริมงคล
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
(City Pillar Shrine, Bangkok, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 05.30 - 19.30 น
ตั้งอยู่ที่ : ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ : (+66) 02 222 9876
เว็บไซต์ : https://bangkokcitypillarshrine.com
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ http://www.bmta.co.th/?q=home
เว็บไซต์รถไฟฟ้าบีทีเอส https://www.bts.co.th
เว็บไซต์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย https://www.mrta.co.th/th/
เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร http://www.bangkok.go.th/main/index.php?l=th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/Home
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ