นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

  • อ่าน (6,679)
  • By Webmaster
  • 09:52:00 | 29 พ.ย. 2561

นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

Angkor Wat, Siem Reap, Cambodia

 

             นครวัด (Angkor Wat) เป็นปราสาทในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธ มีความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอก ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา


แผนที่แสดงที่ตั้งของนครวัด

           นครวัดมีพื้นที่รวมถึง 1.6 ตารางกิโลเมตร จึงได้ชื่อว่าเป็น ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีคูน้ำและกำแพงแก้วล้อมรอบองค์ปราสาทประธานและปราสาทเล็กสี่ด้าน อันเป็นการจำลองลักษณะจักรวาลตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อีกทั้งภายในปราสาทยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปกรรมที่ล้ำค่ามากมาย อาทิ ภาพแกะสลักนางอัปสรที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมไปถึงรายละเอียดส่วนประกอบต่างๆของปราสาทที่ยากจะหาที่ไหนเทียบเคียงได้

           นครวัดซุกซ่อนตัวตนจากโลกภายนอกอยู่หลายร้อยปี เนื่องจากปัญหาภายในของอาณาจักรเขมรโบราณ กระทั่งกลางศตวรรษที่ 19 อ็องรี มูโอ ผู้เป็นนักสำรวจชาวฝรั่งเศสได้นำพานครวัดแห่งนี้ให้โลกรู้จักผ่าทางผลงานของเขาตามด้วยประโยคอันลือลั่นของอาร์โนลด์ โจเซฟ ทอยน์บี  นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษได้มาเยือนนครวัดในปี 1956 ที่ได้กล่าวว่า See Angkor Wat and Die ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกอยากมาเยี่ยมชมนครวัดกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิต

           นครวัดได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้มีฐานะเป็นมรดกโลกในปี 1992 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/discover/history/unesco/)


รูปนางอัปสรอันสวยงามขึ้นชื่อของนครวัด 


บันไดนาค หนึ่งในความงามของปราสาทนครวัด 


วันนี้ของนครวัดที่ไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานแต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก 


ความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่แม้แต่กาลเวลาก็ไม่อาจทำลายได้หมดสิ้น 


ระเบียงคดที่บอกเล่าเรื่องราวมากมายผ่านงานวิจิตรศิลป์ที่อายุกว่าพันปี
 

ประวัติศาสตร์กับการก่อสร้างนครวัด

           นครวัดถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (คศ.1113 – 1150) โดยสันนิฐานว่าทรงสร้างนครวัดในฐานะศาสนสถานประจำรัชกาล ตามคติของศาสนาพราหมณ์ ไวษณพนิกายหรือที่รู้จักกันในนามของลัทธิบูชาพระนารายณ์ ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงมีชื่อปรากฏในจารึกว่า “บรมวิษณุโลก”


ความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่ปัจจุบันกลายเป็นเป้าหมายของคนทุกมุมโลก 

           นอกจากเป็นศาสนสถานแล้ว เชื่อกันว่านครวัดยังถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 อีกด้วย เนื่องจากความเชื่อโบราณว่าด้วยเรื่องกษัตริย์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระวิษณุ ประกอบกับการที่นครวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งถือเป็นทิศแห่งความตายผิดกับปราสาทอื่นๆที่นิยมหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

           หลังจากสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดได้มีการปรับเปลี่ยนบทบาทจากเทวสถานในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูไปเป็นวัดตามการเข้ามาของพุทธศาสนา ก่อนจะค่อยๆลดความสำคัญลง แต่ก็ไม่ถึงขั้นถูกทิ้งร้างเหมือนปราสาทอื่นๆ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/discover/history/khmer-empire/


นครวัดที่เคยยิ่งใหญ่ได้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางแมกไม้อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
 

การเดินทางจากสนามบินไปตัวเมืองเสียมราฐ

           ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ-อังกอร์ (Siem Reap International Airport / REP)  ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองได้โดย

 

             - รถแท็กซี่ การเดินทางอันสะดวกสบายที่มีให้เรียกใช้งานตั้งแต่บริเวณด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาเข้าเช่นกัน สามารถอ่านคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ https://rep.cambodia-airports.aero/en/access-parking/airport-city
 

การเดินทางไปนครวัด เมืองเสียมราฐ

 

           นครวัดตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองเสียมราฐ เพียงประมาณ 2 กิโลเมตร ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกวิธีการมาเยี่ยมชมได้หลายวิธี อาทิ

             - รถตุ๊กตุ๊ก ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งแบบไป-กลับนครวัด เหมาเที่ยวนครวัดและโบราณสถานรอบๆก็ได้เช่นกัน

             - รถแท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบาย มีให้บริการทั้งแบบมิเตอร์กับแบบที่ได้รับความนิยมอย่างเหมาพาเที่ยวนครวัดรวมไปถึงปราสาทอื่นๆบริเวณใกล้เคียง
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตก โดยจะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 05.00 น.


นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ทำมุมกับปราสาทอันสวยงามได้
 

อัตราค่าเข้าชม

           บัตรสำหรับเข้าชมปราสาทต่างๆภายในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองพระนครและโบราณสถานรอบเมืองเสียมราฐ มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ

           บัตรเข้าชมสำหรับ 1 วัน ราคา 37 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           บัตรเข้าชมสำหรับ 3 วัน (ภายในระยะเวลา 10 วัน) ราคา 62 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           บัตรเข้าชมสำหรับ 7 วัน (ภายในระยะเวลา 30 วัน) ราคา 72 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           ทั้งนี้ บัตรทุกประเภทต้องมีการถ่ายรูปติดบัตรไว้ด้วย โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/angkor-tip/


นักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะแวะมาบ่อยๆจึงซื้อบัตรผ่านแบบหลายวันที่คุ้มค่ากว่า
 

สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวชมนครวัด

           นอกจากเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมอันสวยงามแล้ว ภายในตัวปราสาทนครวัดยังเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนางอัปสรซึ่งเป็นภาพแกะสลักตามผนังต่างๆ ที่มีใบหน้ารูปร่างรวมถึงเครื่องประดับที่แตกต่างจนสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้มาเยือน หรือห้องพันพระที่เป็นส่วนระเบียงของปราสาทที่ชาวกัมพูชานิยมนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้ รวมไปถึงองค์ปราสาทประธานที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรตามคติของเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางจักรวาลตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู


ห้องพันพระภายในนครวัด 


เหล่านางอัปสรที่ต้อนรับผู้มาเยือนกว่าพันปี 


องค์ปราสาทประธานสูงที่ยิ่งใหญ่ของนครวัด 


ทางเดินภายในปราสาทที่กว้างใหญ่ไม่แพ้กัน 


นาคและสิงห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ของนครวัด 


ปราสาทจากอดีตและนักท่องเที่ยวของปัจจุบัน
 

เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว

           หนึ่งในไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของการมาเยือนนครวัดคือ การมาชมดูแสงอาทิตย์แรกและแสงสุดท้ายของวัดที่สาดส่องยังตัวปราสาท ซึ่งต่างมีเสน่ห์ไปคนละแบบและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการเดินทางไว้ด้วย และควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน – 1 วัน ในการเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทนครวัด


เวลาพระอาทิตย์ตกดิน หนึ่งในเสน่ห์อันงดงามของปราสาทนครวัด

           สำหรับเมืองเสียมราฐเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนได้ทุกฤดู โดยฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) ที่อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซสเซียสทำให้เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ขณะที่หากไปเยือนในช่วงฤดูร้อน (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) ต้องเตรียมตัวรับมือกับแดดแรงและพกน้ำไว้ติดตัว ขณะที่ช่วงฝนตกชุก (เดือนกรกฎาคม – เดือนสิงหาคม) ต้องพกร่มไว้เสมอและเพิ่มความระมัดระวังในการเที่ยวชมโบราณสถานที่อาจมีตะไคร่น้ำเป็นพิเศษด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อวางแผนการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/


นครวัดกับนักท่องเที่ยวที่พกขวดน้ำติดมือมาด้วย
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวนครวัด และประเทศกัมพูชา

           แม้สกุลเงินของกัมพูชาคือเงินเรียล (KHR) แต่ตามร้านค้า,โรงแรม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายๆแห่งมักจะมีการเก็บเงินค่าเข้าชมหรือค่าบริการเป็นเงินดอลล่าห์สหรัฐฯ (USD) มากกว่า นักท่องเที่ยวจึงควรแลกเงินดอลล่าห์สหรัฐเผื่อเอาไว้สำหรับใช้จ่ายด้วย และเนื่องจากนครวัดถือเป็นศาสนสถานที่ยังได้รับความนับถือจากชาวกัมพูชาอยู่ นักท่องเที่ยวจึงควรแต่งตัวสุภาพโดยสามารถอ่านรายละเอียดการแต่งตัวและข้อควรปฎิบัติเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/plan-your-visit/visitor-code-of-conduct/


นักท่องเที่ยวที่แต่งตัวมาพร้อมรับสภาพอากาศและการเดินเที่ยวชมนครวัด 


อีกมุมหนึ่งของปราสาทที่งดงาม
 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเยี่ยมชม นครวัด สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       นครวัด เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

                       (Angkor Wat, Siem Reap, Cambodia)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : เริ่มตั้งแต่ 37 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (1 วัน), 62 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (3 วัน) และ 72 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (7 วัน)

                       เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตก

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ทุกฤดูกาล โดยฤดูหนาว(เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) จะได้รับความนิยมสูงสุด

                       ตั้งอยู่ที่ : เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

                       โทร : (+855)063-765-577            E-mail : info@apsaraauthority.gov.kh

                       เว็บไซต์ : http://angkor.com.kh/  

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       บริการข้อมูลท่าอากาศยานประเทศกัมพูชา https://corp.cambodia-airports.aero/  

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

“Changi Airport” สุดยอดสนามบินที่ดีที่สุดในโลกปี 2023

การประกาศรางวัล World Airport Awards ซึ่งจัดขึ้นที่ Passenger Terminal EXPO ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2023 “ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี” ประเทศสิงคโปร์ คว้าตำแหน่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนั้นสนามบินแห่งนี้เคยเป็นแชมป์ติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน ก่อนที่ในปี 2021- 2022 รางวัลชิ้นนี้จะตกเป็นของท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และในปี 2023 นี้ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง

อ่านต่อ

3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย

อ่านต่อ

หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง

อ่านต่อ

วัดนาริอาอิจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

อ่านต่อ

วัดชิออนจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดชิออนจิ (Chion-Ji Temple) วัดพุทธนิกายเซ็นที่มีประตูทางเข้าวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแทงโก้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 วัดพุทธพระโพธิสัตว์แห่งปัญญาในญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษานิยมมากราบขอพรเพื่อให้สอบได้

อ่านต่อ

วัดเบียวโดอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย

อ่านต่อ

ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด (Sanjo Meitengai Shopping Arcades ) เป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโต เรียกว่าเป็นโซนช้อปปิ้งที่เพลิดเพลิน เต็มไปด้วยร้านค้าและโครงสร้างเก่าแก่ ควบคู่ไปกับโลกของอาคารและร้านบูติกสมัยใหม่

อ่านต่อ

หอคอยเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี

อ่านต่อ

สะพานโทเง็ตสึเคียว จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ