เมืองบาดาล (วัดใต้น้ำ) จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

  • อ่าน (14,778)
  • ByWebmaster
  • 17:28:23 | 9 พ.ย. 2560

เมืองบาดาล (วัดใต้น้ำ) จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

Muang Badan (The Underwater Temple), Kanchanaburi Province, Thailand

 
วัดวังก์วิเวการาม (เก่า)

               เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ) หรือ วัดวังก์วิเวการาม(เก่า) ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี แต่เดิมสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2496 ซึ่ง ณ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งในประเทศไทย ที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความอัศจรรย์ จนถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของประเทศไทย


อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ประวัติความเป็นมาของเมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ)

               เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ) ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังความเลื่อมใสศรัทธาของชาวกะเหรี่ยง และชาวมอญ ที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ โดยที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ คือ บริเวณเนินที่มีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำบิคลี่ ซองกาเลีย และรันตี มารวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย  ต่อมาในปี 2527 มีการก่อสร้าง เขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ทำให้น้ำเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่า รวมทั้งวัดวังก์วิเวการามด้วย "หลวงพ่ออุตตมะ" จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมาเป็นเวลากว่า 20 ปี (สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: http://www.kanchanaburi.go.th/)


การเดินทางไป จ.กาญจนบุรี

               กรุงเทพมหานคร-->กาญจนบุรี

การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไป จ.กาญจนบุรี

           การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี โดย มีระยะทาง 123 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้หลายวิธี ดังนี้

               - รถไฟ การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง ต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลศิริราช แถวตลาดศาลาน้ำร้อน (เส้นทางที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านคือ ธนบุรี - ศาลายา - นครปฐม - หนองปลาดุก - ท่าเรือ - กาญจนบุรี - สะพานแควใหญ่ - วังเย็น - บ้านเก่า - ท่ากิเลน - ถ้ำกระแซ - วังโพธิ์ - เกาะมหามงคล - น้ำตก) โดยมีเวลาให้บริการ 2 ขบวน คือ เวลา 07.45 น.และ เวลา 13.55 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1960, หรือเว็บไซต์ https://www.thairailwayticket.com/)

           - รถโดยสารประจำทาง การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร (สถานีขนส่งหมอชิต2) ไปยัง จ.กาญจนบุรี รถโดยสารจะออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารราคา 120 บาท โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490, 0-2936-2852 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th สถานีเดินรถกาญจนบุรี โทร. 034-511387)

           การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร (สถานีขนส่งสายใต้ใหม่) ไปยัง จ.กาญจนบุรี รถโดยสารจะออกทุก 20 นาที ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารราคา 120 บาท โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490, 0-2894-2634 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th สถานีเดินรถกาญจนบุรี โทร. 034-512855)

           - รถตู้สาธารณะ การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - พุทธมณฑล - นครปฐม - กาญจนบุรี ซึ่งมีจุดให้บริการทั่วกรุงเทพฯ ราคา 120 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-20.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ท่าอนุสาวรีย์ชัยฯ ตรงวิคตอรี่พลาซ่า ซอยข้างโชว์รูมรถซูซูกิ  โทร. 08-2243-7387, ท่าปิ่นเกล้า โทร. 08-4414-7979, ท่าสายใต้ใหม่ โทร. 08-5297-2772, ท่ากาญจนบุรี โทร. 08-4414-5885)

           - รถยนต์ส่วนตัว จาก จ.กรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางไป จ.กาญจนบุรี ได้หลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่ใกล้ที่สุด คือ จากกรุงเทพมหานครเข้าสู่ถนนบรมราชชนนี ผ่านพุทธมณฑล มุ่งสู่ จ.นครปฐม ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางไปทางราชบุรี - บ้านโป่ง ขับตรงต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 4 จนเห็นป้ายกาญจนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 323) พอเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 323 แล้ว ก็ถือว่าเป็นเส้นหลักถนนแสงชูโต ที่วิ่งเข้าตัวจังหวัดกาญจนบุรี รวมเป็นระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร

การเดินทางไป เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ)

              อ.เมือง-->เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ)

 

           - รถโดยสารประจำทาง การเดินทางภายในจังหวัด จาก อ.เมือง ไปยัง เมืองบาดาล อ.สังขละบุรี มีระยะทาง 221 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้โดยใช้บริการรถทัวร์ปรับอากาศ รถโดยสารประจำทางแบบไม่มีแอร์ และรถตู้ ที่มีให้บริการตลอดทั้งวัน ซึ่งสามารถขึ้นรถได้ที่ สถานีขนส่งกาญจนบุรี (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รถทัวร์ปรับอากาศ และรถโดยสารประจำทาง บขส. กาญจนบุรี โทร. 034-511387, รถไมโครบัส ปรับอากาศ 30 ที่นั่ง มีวันละ 3 เที่ยว ตั้งแต่ 9.00 น., รถตู้ เดินรถตั้งแต่ 07.30 - 16.30 น. (รถออกทุกๆ 1 ชั่วโมง) โทร. 034-513151, 034-622881, 034-599452)
           - รถยนต์ส่วนตัว การเดินทาง จาก อ.เมือง ไปยัง เมืองบาดาล อ.สังขละบุรี ด้วยระยะทาง 221 กิโลเมตร วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ป้ายบอกทางไปอำเภอไทรโยค - ทองผาภูมิ ก่อนเข้าตัวอำเภอทองผาภูมิ จะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอสังขละบุรี ผ่าน อุทยานแห่งชาติเขาแหลม สะพานข้ามแม่น้ำรันตี และ วิ่งผ่านตัวอำเภอสังขละบุรี ข้ามสะพานซองกาเลีย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสะพานไม้ ก็จะถึงสะพานมอญ จากนั้นสามารถติดต่อขอเช่าเรือ กับทางรีสอร์ท  หรือจุดเช่าไปยังเมืองบาดาล ต่อได้เลย

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

               เมืองบาดาล เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ทุกวัน 

จุดที่น่าสนใจบริเวณ เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ) 

           -วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) 

 
วัดวังก์วิเวการาม (เก่า)

           หากนักท่องเที่ยวมาในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม จะพบกับซากปรักหัก พังของวัดที่ยังหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ได้แก่ หอระฆัง ที่เหลือเพียงโครงสร้าง กับเจดีย์สีขาวเด่นบนยอด ซึ่งเป็นเพียงสิ่งหนึ่งเดียวของวัดที่ไม่ถูกน้ำท่วมในยามน้ำ เต็มเขื่อนตัวโบสถ์เหลือเพียงผนัง ไม่มีส่วนหลังคาโบสถ์ ซึ่งภายในผนังโบสถ์ ยังปรากฎลวดลายศิลปะแบบมอญหลงเหลือให้เห็น อยู่ ณ ปัจจุบัน บริเวณด้านนอกโบสถ์จะเห็นเศียรพระหักวางไว้ ส่วนภายในมีรูปถ่าย หลวงพ่ออุตตมะให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา

           - วัดสมเด็จ (เก่า)

 วัดสมเด็จ (เก่า)

           เมื่อนั่งเรือถัดมาอีกไม่ไกลก็จะพบกับที่ประดิษฐานของ วัดสมเด็จ (เก่า) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ตรงข้ามเมืองบาดาล สร้างโดยพระครู วิมลกาญจนคุณ เจ้าคณะตำบลหนองลู เป็นวัดที่ไม่ได้จมน้ำ แต่ถูกทิ้งร้างเมื่อตอนสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) อุโบสถของวัดสมเด็จมีพระประธานสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ และรอบตัวโบสถ์มีต้นไทรใหญ่ปกคลุมอยู่โดยรอบ  ดูแล้วมีมนต์ขลังเป็นอย่างยิ่ง

           -วัดศรีสุวรรณ 

วัดศรีสุวรรณ

           วัดศรีสุวรรณ วัดที่เป็นดั่งตัวแทนของชาวกะเหรี่ยง มีชื่อพ้อง กันกับพระศรีสุวรรณคีรี ซึ่งเป็นชื่อตำแหน่งเจ้าเมืองสังขละบุรี โดยตัววัดตั้งอยู่ บริเวณปลายแม่น้ำรันตี และเนื่องจากบริเวณที่ตั้งของวัดศรีสุวรรณ(เก่า)นั้น ค่อนข้างเป็นที่ต่ำกว่าที่วัดวังก์วิเวการาม(เก่า) จึงทำให้บริเวณนี้มีน้ำท่วมตลอดปี น้ำจึงท่วมสูงจนแทบจะมิดทั้งตัวโบสถ์ นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมชม ด้านในได้ ชมได้เพียงจากด้านนอกเท่านั้น

อัตราค่าเข้าชม

            ไม่เสียค่าเข้าชม แต่มีค่าใช้จ่ายในการเช่าเรือ เพื่อไปชมเมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ)

            *ค่าเช่าเรือ มีราคาประมาณ 600 บาท ใช้เวลาไป - กลับ 45 นาที โดยนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อขอเช่าเรือได้ที่บริเวณสะพานมอญ

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ทุกฤดูกาล แต่ช่วงที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด คือ เดือนมีนาคม พฤษภาคม เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปชมซากปรักหักพังที่จุดวัดวังก์วิเวการาม(เก่า)ได้ หากนักท่องเที่ยวต้องการเก็บภาพบรรยากาศ เวลา 6.00 น. (พระอาทิตย์ขึ้น), เวลา 18.00 น. (พระอาทิตย์ตก) สามารถ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง ได้ที่เว็บไซต์ พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/   

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวเมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ)

           การเที่ยวชมวัดใต้น้ำ ควรเที่ยวในช่วงเช้า และช่วงเย็น เพราะหากเป็นช่วงสายมากๆอากาศค่อนข้างร้อน

           ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เป็นช่วงน้ำลดสามารถนั่งเรือไปจอดใกล้โบสถ์แล้วเดินไปชมข้างในได้

           บริเวณสะพานมอญ มีบริการเช่าเรือ เพื่อเดินทางไปชมเมืองบาดาล ราคาอยู่ที่ 600 บาท ใช้เวลาไป - กลับ ประมาณ 45 นาที

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                             เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ)

                             อัตราค่าเข้าชม : ฟรีค่าเข้าชม (เสียเฉพาะค่าเช่าเรือในการเดินทางไปชม มีราคาประมาณ 600 บาท)

                             เวลาเปิด – ปิด : 06.00-18.00น. ของทุกวัน

                             ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : มีนาคม-พฤษภาคม (ช่วงเช้า และ เย็น)

                             ตั้งอยู่ที่ : หมู่ที่ 2 บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71240

                             โทรศัพท์ : (+66)34-511200

                             เว็บไซด์ : http://www.kanchanaburi.go.th/

                             ระดับความนิยม : 

                             ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :  พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/ 

                                                  จองตั๋วรถโดยสารประจำทาง http://www.busticket.in.th

                                                  จองตั๋วรถไฟ https://www.thairailwayticket.com/

                                                  จองตั๋วรถตู้ http://van.itthailand.net

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ