บ้านแอนน์ แฟร้งค์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

  • อ่าน (5,954)
  • By Webmaster
  • 13:29:53 | 21 ธ.ค. 2562

บ้านแอนน์ แฟร้งค์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

Anne Frank House, Amsterdam, Netherlands

             บ้านแอนน์ แฟร้งค์ (Anne Frank House) เป็นที่หลบซ่อนของ "แอนน์ แฟรงค์" เด็กสาวชาวยิวผู้เขียนบันทึกสมัยสงครามที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งตั้งอยู่บนถนนปรินเซนกรัคต์ (Prinsengracht) ริมคลองในกรุงอัมสเตอร์ดัม สถานที่ซึ่งเป็นที่มาของหนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดเล่มหนึ่งของโลก


ประวัติ

           บ้านเลขที่ 263 บนถนนปรินเซนกรัคต์ คือสถานที่ซึ่งถูกใช้เป็นที่ซ่อนลับของชาวยิว 8 ชีวิต รวมทั้งตัวแอนน์ แฟรงค์และครอบครัวที่อพยพมาจากประเทศเยอรมนีในสมัยสงครามโลกที่ชาวยิวถูกตามล่าล้างเผ่าพันธุ์จากนาซี โดยทั้งหมดได้อาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ชั้น 3 และห้องใต้หลังคาของตึกหลังนี้ โดยด้านล่างเป็นที่ทำการบริษัทที่พนักงานของออตโต้ แฟร้งค์ (Otto Frank) พ่อของแอนน์ แฟร้งค์ ซึ่งไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ให้การช่วยเหลือเป็นที่ซ่อนตัวแก่พวกเขา

           โดยระหว่างที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เด็กหญิงแอนน์ แฟรงค์ ก็ได้เขียนบันทึกลงในสมุดบันทึกที่เธอได้รับเป็นของขวัญวันเกิดครบ 13 ขวบจากผู้เป็นพ่อ เนื้อหาในช่วงต้นๆ ของบันทึกโดยมากนั้นเกี่ยวกับเรื่องราวทั่วไปในชีวิตของเธอ ทั้งนี้แอนน์ แฟร้งค์ได้บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอย่างยากเข็นและต้องเป็นไปอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ภายในบ้านหลังนี้ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเนเธอร์แลนด์หลังจากเยอรมนีเข้าครอบครองไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายการข้อห้ามต่างๆ ที่บังคับใช้กับพลเมืองชาวดัตช์ที่เป็นยิว อาทิ ห้ามนั่งรถไฟ ห้ามเข้าโรงหนัง ห้ามซื้อสินค้าบางอย่าง และต้องติดสัญลักษณ์ดาวเหลืองไว้ที่หน้าอกเสื้อเพื่อบ่งบอกว่าเป็นยิว

           แอนน์ แฟรงค์ได้เริ่มต้นเขียนบันทึกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1942 เป็นต้นมาจนกระทั่งวันที่ 1   สิงหาคม ค.ศ. 1944 คือบันทึกหน้าสุดท้ายที่เธอเขียน สามวันต่อมาหลังจากนั้นคือวันที่ 4 สิงหาคมเด็กหญิงพร้อมผู้หลบซ่อนในที่ซ่อนลับบนถนนถนนปรินเซนกรัคต์แห่งนี้ทั้งหมดก็ถูกจับและถูกส่งไปยังค่ายกักกัน โดยครอบครัวของแอนน์ แฟรงค์ ถูกส่งไปยังค่ายกักกันเอาชวิตซ์ (Auschwitz-Birkenau) ในประเทศโปแลนด์ซึ่งเป็นค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันอีกหลายๆ แห่งที่สร้างขึ้นในสมัยสงคราม ก่อนที่เธอและพี่สาวจะถูกย้ายไปที่ค่ายกักกันเบอร์เกน-เบลเซน (Bergen-Belsen) ในประเทศเยอรมนี โดยท้ายที่สุดแอนน์ แฟรงค์ในวัยเพียง 15 ปีก็ได้เสียชีวิตลงในค่ายกักกันแห่งนี้ด้วยโรคไข้ไทฟอยด์ ก่อนที่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาค่ายกักกันแห่งนี้จะได้รับการปลดปล่อย

           พ่อของแอนน์ แฟร้งค์คือผู้เดียวที่รอดชีวิตจากค่ายกักกัน และเป็นผู้รับมรดกของบุตรสาวโดยเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บันทึกของเธอ ซึ่งเขาได้ยกมรดกนี้ให้แก่มูลนิธิแอนน์ แฟร้งค์ในเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มูลนิธิแห่งนี้จึงได้จัดพิมพ์บันทึกฉบับสมบูรณ์ขึ้นเผยแพร่จนเป็นที่รู้จักของนักอ่านทั่วโลก โดยได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศถึง 70 ภาษา และบันทึกของแอนน์ แฟร้งค์ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในหนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดเล่มหนึ่งของโลก ที่ทำให้ผู้คนได้ทราบและตระหนักถึงความข่มขื่น ความเดือดร้อนทุกข์ยาก ความโหดร้ายของสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ชาวดัตช์เชื้อสายยิวกว่า 107,000 รายต้องเผชิญ

 
ด้านหน้าของตึกซึ่งถูกใช้เป็นที่ซ่อนลับ คือ ชั้น 2 ชั้น 3 และห้องใต้หลังคา

 
บรรยากาศโดยรอบบ้านของแอนน์ แฟร้งค์ ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองบนถนนปรินเซนกรัคต์ Prinsengracht)


แผนผังของชั้นต่างๆ ภายของบ้านเลขที่ 263

 
ขอบคุณภาพจาก https://i.pinimg.com/originals/1f/ea/a5/1feaa56c61ee61cf4e44ec33b68eae9f.gif

           ชั้นสอง (First Floor above Street Level Floor) สำนักงานด้านหน้า, ห้องเล็กทึบ, สำนักงานด้านหลัง, สำนักงานส่วนตัว และครัว

           ชั้นสาม (Second Floor above Street Level Floor) – ห้องเก็บของห้องใหญ่ 2 ห้องและห้องเก็บของห้องเล็ก 1 ห้อง, ชานพัก, ตู้หนังสือ (ตู้หนังสือซึ่งทำเป็นประตูลับโดยด้านลังเป็นบันไดขึ้นไปสู่ที่ซ่อนลับ), ห้องส้วม, เตียงนอน 3 เตียง และโซฟา 1 หลัง

           ชั้นสี่ (Third Floor above Street Level Floor) – ห้องใต้หลังคาด้านหน้า, หลังคา, เตียงนอน 2 เตียง และเตียงพับได้ 1 เตียง, โต๊ะทำครัว และกลางโต๊ะ

 
ด้านหลังตู้หนังสือที่ทำเป็นประตูลับขึ้นไปสู่ที่ซ่อน ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.annefrank.org

 
บันไดขึ้นไปสู่ห้องใต้หลังคาที่ชั้นบนสุด ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.annefrank.org

 
รูปถ่ายของบิดาและมารดาของแอนน์ แฟร้งค์ในวันแต่งงานกับแขกที่มาร่วม ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.annefrank.org

 
โทรศัพท์ของเล่นที่แอนน์ แฟร้งค์ได้รับในวันเกิด ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.annefrank.org

 
รูปถ่ายของแอนน์ แฟร้งค์ ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.annefrank.org

 
บันทึกต้นฉบับซึ่งเป็นลายมือของแอนน์ แฟรงค์ ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.annefrank.org

 
ส่วนหนึ่งของหนังสือบันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 70 ภาษาทั่วโลก ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.annefrank.org


การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง (สถานีรถไฟ Amsterdam Central)

 

           ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล (Amsterdam Airport Schiphol) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินอัมสเตอร์ดัม” เป็นสนามบินที่หนาแน่นเป็นอันดับต้นๆ ในยุโรป และยังติดอันดับ 12 ของสนามบินที่หนาแน่นที่สุดในโลกอีกด้วย

           จากท่าอากาศยาน Amsterdam Airport Schiphol ไปสถานี Amsterdam Central ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศูนย์การของการเดินทางของเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่ไม่เพียงแค่เป็นสถานีรถไฟที่ให้บริการรถครอบคลุมทุกเส้นทาง แต่ยังเชื่อมต่อกับการให้บริการรถโดยสารประจำทาง รถราง รถไฟใต้ดิน และเรือข้ามฟากอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินมายัง Amsterdam Central Station ได้หลายวิธี ดังนี้

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากสนามบินอัมสเตอร์ดัมไปยังสถานี Amsterdam Central โดยใช้ถนนสาย A4 มีระยะทาง 19 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที

             - แท็กซี่ (Taxi) การเดินทางโดยแท็กซี่จากสนามบินอัมสเตอร์ดัมไปยังตัวเมืองบริเวณสถานี Amsterdam Central มีค่าบริการอยู่ระหว่าง 33 - 40 ยูโร ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร โดยจุดจอดแท็กซี่นั้นจะอยู่บริเวณด้านนอกทางเข้าหลักของอาคารผู้โดยสารขาเข้า และบริเวณชั้นเดียวกับสถานีรถไฟ

             - รถประจำทางสนามบิน (Airport Express Shuttle Bus) จากสนามบินอัมสเตอร์ดัมมีบริการ Airport Express Shuttle Bus ไปยังสถานี Amsterdam Central รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สำคัญ และโรงแรมที่พักหลายแห่งในเมืองอัมสเตอร์ดัม ค่าโดยสารราคา 6.5 ยูโร โดยมีเที่ยวรถออกจากสนามบินทุกๆ 7.5 นาทีจากบริเวณ platform B15-19 ของสนามบิน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต้องทำการจองตั๋วล่วงหน้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://eticket.connexxion.nl/en-US/

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากสถานี Amsterdam Airport ไปยังสถานี Amsterdam Central ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารรถไฟชั้นสอง (second class) ราคาอยู่ที่ 3.80 ยูโร นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้ที่โต๊ะจำหน่ายตั๋วที่อยู่บริเวณชั้นผู้โดยสารขาเข้า หรือซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วสีเหลืองโดยใช้เหรียญยูโร หรือบัตรเครดิต / เดบิต โดยชานชาลารถไฟจะอยู่ชั้นล่างของอาคารผู้โดยสาร รถไฟออกทุก 10 - 15 นาที ระหว่างเวลา 6.00 – 24.30 น.


การเดินทางไป Anne Frank House

 

           จากสถานีรถไฟ Amsterdam Central ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลักด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเมืองอัมสเตอร์ดัมไปยัง Anne Frank House นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้โดย 

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากบริเวณสถานี Amsterdam Central Station ไปยัง Anne Frank House โดยใช้ถนนเส้น Keizersgracht มีระยะทาง 1.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที

             - รถราง (Tram) จากสถานี Amsterdam Central Station ขึ้นรถรางสาย 13 หรือ สาย 17 ไปลงที่ป้าย Amsterdam, Westermarkt ซึ่งอยู่ติดกับ Anne Frank House ได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที

             - เดิน (Footpath) จากสถานี Amsterdam Central Station นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยัง Anne Frank House ได้เช่นกัน โดยหากเดินไปตามถนน Singel จะมีระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

           Anne Frank House เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันโดยมีเวลาทำการดังนี้

                   ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 1 เมษายน วันจันทร์ – วันอาทิตย์เปิดให้เข้าชมเวลา 09.00 – 19.00 น. โดยวันเสาร์ขยายเวลาถึง 22.00 น.

                   ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 1 พฤศจิกายน วันจันทร์ – วันอาทิตย์เปิดให้เข้าชมเวลา 09.00 – 22.00 น.

 
Anne Frank Hius ในภาษาดัชต์ หรือ Anne Frank House ในภาษาอังกฤษ


อัตราค่าเข้าชม

           ผู้ใหญ่ ราคา 10.50 ยูโร

           เด็กอายุ 10 - 17 ปี ราคา 5.50 ยูโร

           เด็กอายุ 0 - 9 ปี ราคา 0.50 ยูโร

 
นักท่องเที่ยวเข้าแถวยาวเพื่อรอเข้าชมบ้านของแอนน์ แฟร้งค์


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Anne Frank House

           Anne Frank House เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่มีคุณค่าและน่าสนใจ ซึ่งจัดแสดงผ่านข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และข้าวของดั้งเดิมที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตในที่ซ่อนลับแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรพลาดที่จะเก็บเกี่ยวและศึกษาเรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านั้นเมื่อไปเที่ยวชม ทั้งนี้ด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ

 
การเข้าชมบ้านของแอนน์ แฟร้งค์ นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าเท่านั้น


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Anne Frank House ได้ตลอดทั้งปี

 
บ้านของแอนน์ แฟร้งค์เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญในเส้นทางของเรือท่องเที่ยวรอบคลองอัมสเตอร์ดัม 


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             การเข้าชมบ้านแอนน์ แฟร้งค์ นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายบัตรที่ประตู เนื่องจากปริมาณของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมบ้านของแอนน์ แฟร้งค์นั้นมีเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ซึ่งความต้องการมักจะเกินจำนวนตั๋วที่มี ดังนั้นการซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าที่ระบุวันเวลาเข้าเยี่ยมชมจึงจำเป็น ซึ่งการจองครั้งหนึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้มากสุดจำนวน 14 ใบ โดยสามารถใช้ตั๋วเข้าชมบ้านของแอนน์ แฟร้งค์ได้เฉพาะในวันและเวลาที่ระบุเท่านั้น และไม่สามารถเปลี่ยนตั๋วหรือขอเงินคืนได้ ทั้งนี้ตั๋วออนไลน์ล่วงหน้ามักจำหน่ายหมดในเวลาที่รวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่จองแต่เนิ่นๆ จึงมีโอกาสที่จะได้เข้าชมมากกว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.annefrank.org/en/museum/tickets

 


             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว Anne Frank House สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         บ้านแอนน์ แฟร้งค์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

                         (Anne Frank House, Amsterdam, Netherlands)

                         ระดับความนิยม :

                         เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00 – 19.00 น. โดยประมาณ

                         อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ราคา 10.50 ยูโร

                         ตั้งอยู่ที่ :  Westermarkt 20 DK Amsterdam

                         โทรศัพท์ :  (+31) 20 556 71 05

                         เว็บไซต์ : https://www.annefrank.org

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                                    การท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์ http://www.netherlands-tourism.com/

                                                    บริษัทรถไฟแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ https://www.ns.nl/en

                                                    สนามบินอัมสเตอร์ดัม http://www.amsterdamairport.info/transportation.html

                                                    การรถไฟยุโรป https://www.eurail.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล

อ่านต่อ

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป

อ่านต่อ

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!

อ่านต่อ

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

อ่านต่อ

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ