ค้นหา :
10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
โบสถ์ และมหาวิหาร อีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ทั่วทุกมุมโลก เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน ล้วนสร้างขึ้นจากความเชื่อ และความศรัทธา บางสถานที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา บางสถานที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถถ่ายทอดผลงานทางสถาปัตยกรรม และประติมากรรมออกมาได้อย่างงดงาม 10 โบสถ์และมหาวิหารที่ PALANLA จะพาไปชมในวันนี้ ถือว่าเป็นศาสนสถานที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีชื่อเสียงที่สุด
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนกลางของประเทศอิตาลีที่มีแม่น้ำอาร์โนไหลผ่านกลางเมืองและโอบล้อมด้วยทิวเขา อาคารบ้านเรือนมักเป็นสีเหลืองส้มน้ำตาลไหม้ และมีความสำคัญคือเป็นศูนย์กลางศิลปะยุคเรอนาสซองส์ ที่จะเห็นได้จากประติมากรรม จิตรกรรม ภาพเฟรสโก ภาพโมเสกที่ประดับอยู่ภายในศาสนสถาน พระราชวัง และตามจัตุรัสต่างๆ ของเมืองฟลอเรนซ์ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าหรือขึ้นรถโดยสารประจำทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ เมืองฟลอเรนซ์ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1982 เริ่มจากการที่ตระกูลเมดิซีได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองการปกครองระหว่างศตวรรษที่ 13 -16 แล้วอุปถัมภ์ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิ มิเคลันเจโล เจ้าของผลงาน David, บอตติเชลลี, กาลิเลโอ กาลิเลอี, ลีโอนาโด ดาวินซี, วาซารี, บอตติเชลลี ฯลฯ เมื่อตระกูลเมดิซีหมดอำนาจลง ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าจึงตกเป็นของเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งต่อมาได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์กว่า 70 แห่ง และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะจากทั่วโลก
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) อาคารที่สูงที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ที่มีหลังคาโดม (Capola) สีส้มอิฐสวยงาม โดดเด่นด้วยศิลปะเรอเนสซองส์และนีโอโกธิก ตัวอาคารเป็นหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพูกุหลาบ ภายในโดมเป็นภาพเขียนสีปูนเปียกขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคกลางจนถึงยุคเรอเนสซองส์ รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาประตูสวรรค์ของจริงด้วย ด้านข้างวิหารมีหอระฆังคัมปานีเล่ที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในอิตาลี ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเรนซ์และชมยอดโดมได้อย่างใกล้ชิด
หอศีลจุ่มนักบุญเซนต์จอห์น เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
หอศีลจุ่มนักบุญเซนต์จอห์น (Baptistery of St. John) อาคารทรงแปดเหลี่ยมคาดลายหินอ่อนสีเขียว ขาว และชมพูกุหลาบ ศิลปะโรมาเนสก์ฟลอเรนทีน หนึ่งในโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ มีชื่อเสียงจากประตูสำริด 3 ประตู โดยเฉพาะประตูด้านทิศตะวันออกที่สวยงามจนได้รับยกย่องจากประติมากรเอกของโลกอย่างมิเคลันเจโลให้เป็นประตูสวรรค์ หรือ Gates of Paradise นอกจากนี้ภายในโดมยังมีภาพโมเสกขนาดใหญ่รูปพระเยซูประทานพรที่สวยงามระดับโลกอีกด้วย
หอศิลป์อุฟฟีซี เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
หอศิลป์อุฟฟีซี (Uffizi Gallery) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากทุกวัน เพราะที่นี่เป็นที่รวมงานศิลปะตระกูลช่างฟลอเรนทีนและเรอนาสซองส์ที่มากที่สุดในโลก โดยเป็นของสะสมของตระกูลเมดิซี ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ ตามยุคสมัยและห้องศิลปิน และภาพวาดที่นักท่องเที่ยวสนใจเข้าชมกันมากคือ The Birth of Venus (กำเนิดวีนัส) และ Primavera (ฤดูใบไม้ผลิ) ผลงานของซานโดร บอตติเชลลี (Sandro Botticelli) นอกจากนี้ยังมีผลงานของศิลปินในยุคเรอนาสซองส์ให้ได้เลือกชมอีกถึง 45 ห้องทีเดียว
สะพานเวคคิโอ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) สะพานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ เพราะเป็นสะพานเดียวที่รอดพ้นจากการทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นจุดชมวิวที่สวยงามยามพระอาทิตย์ตกเมื่อเงาสะพานทอดลงบนแม่น้ำอาร์โน ประกอบกับอาคารร้านค้าบนสะพานสีเหลืองส้มอิฐสดใส มีบานหน้าต่างสี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดมาเยือน
มหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา (Basilica di Santa Maria Novella) เป็นมหาวิหารที่มีลวดลายฝาผนังหรือ Façade ที่งดงามที่สุดในฟลอเรนซ์และอิตาลี ฝีมือช่างสกุลฟลอเรนทีน ประดับด้วยหินอ่อนสีขาว สีเขียว และชมพูศิลปะโกธิกและเรอนาสซองส์ ภายในมีจิตรกรรม Fresco ของศิลปินชื่อดังแห่งยุคเรอนาสซองส์ตาม Chapels (โบสถ์น้อยหรือที่ฝังศพ) ของผู้มีชื่อเสียง และที่โดดเด่นคือพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน (Crucifix) ผลงานของโดเมนิโก กีร์ลันดายโย (Domenico Ghirlandaio) และฟิลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo Brunelleschi) รวมถึงภาพเขียนสี The Holy Trinity ของมาซัซโซ (Masaccio) ที่มีชื่อเสียงมาก
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ (Basilica di San Lorenzo) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและเก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีอายุกว่า 300 ปี นักท่องเที่ยวจะได้เห็นสถาปัตยกรรมภายนอกที่แม้ดูเรียบง่ายเนื่องจาก Façade ที่สวยงามไม่ได้ถูกประดับ แต่ภายในเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญในตระกูลเมดิซี โดยเฉพาะ Chapel of the Princes ที่ฝังศพแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี Cosimo III de' Medici ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนอย่างหรูหรา รวมถึงสถาปัตยกรรมภายในมหาวิหาร ห้องสมุด ห้องเก็บสมบัติเก่า และห้องเก็บสมบัติใหม่ เป็นดั่งที่รวมผลงานของยอดฝีมือทางสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมยุคเรอนาสซองส์ไว้ จึงเป็นอีกสถานที่ไม่ควรพลาดมาชมอีกแห่งหนึ่ง
มหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซันตา โกรเช (Basilica di Santa Croce) เป็นมหาวิหารที่สร้างขึ้นโดยนักบุญฟรานซิสและเป็นโบสถ์ฟรานซิสกัน (โบสถ์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักบวชคาทอลิกของนักบุญฟรานซิส) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบโดยสถาปนิกอาร์นอลโฟ ดิ แคมบิโอ (Arnolfo di Cambio) โดดเด่นด้วย 16 Chapels หรือโบสถ์น้อยสำหรับฝังศพบุคคลที่มีชื่อเสียงของเมืองฟลอเรนซ์ โดยแต่ละ Chapel มีสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และภาพจิตรกรรมศิลปะปูนเปียก (Fresco) โดยศิลปินเอกแห่งยุค ที่นี่จึงเป็นเหมือนที่รวมงานศิลปะอันทรงคุณค่าให้นักท่องเที่ยวได้มาชมอยู่มากมาย
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ (Palazzo Pitti) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ ด้วยความอลังการของตัวอาคารที่สร้างโดยตระกูลปิตติพ่อค้าผู้ร่ำรวย ต่อมาได้ตกเป็นของตระกูลเมดิซีแห่งเมืองฟลอเรนซ์ได้ใช้เป็นที่พักและที่เก็บสะสมของมีค่าของตระกูล เมื่อหมดอำนาจลงสมบัติทั้งหมดจึงตกเป็นของเมืองฟลอเรนซ์ ที่นี่จึงเป็นดั่งที่รวมภาพวาด รูปปั้น งานศิลปะ สิ่งของเครื่องใช้และเครื่องประดับมีค่าของชนชั้นสูงในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของเมืองฟลอเรนซ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอยู่ถึง 5 พิพิธภัณฑ์เลยทีเดียว
เปียซซาเล มิเคลันเจโล เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เปียซซาเล มิเคลันเจโล (Piazzale Michelangelo) ลานรูปปั้น David (จำลอง) อีกแห่งหนึ่งที่ยืนตระหง่านอยู่บนเนินเขาอันเป็นจุดชมวิวเมืองฟลอเรนซ์ที่มีชื่อเสียง จากจุดนี้สามารถมองเห็นไฮไลท์ของเมืองได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโดมอิฐสีส้มของมหาวิหารฟลอเรนซ์ พระราชวังปิตติ พระราชวังเวคคิโอ สะพานเวคคิโอ สะพานเก่าแก่ที่สุดที่รอดพ้นจากการทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทอดข้ามแม่น้ำอาร์โนที่ไหลผ่านกลางเมืองโดยมีทิวเขาอยู่เบื้องหลัง เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
จัตุรัสเปียซซา ดิ ซานตา มาเรีย โนเวลลา เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเปียซซา ดิ ซานตา มาเรีย โนเวลลา (Piazza di Santa Maria Novella) จัตุรัสสำคัญใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟกลาง Firenze Santa Maria Novella ศูนย์กลางการคมนาคมของเมือง ห่างจากมหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา (Basilica di Santa Maria Novella) ที่ได้ชื่อว่ามี Façade หน้ามหาวิหารที่สวยงามที่สุดในอิตาลีเพียง 290 เมตร ตัววิหารทำจากหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู ภายในมีแท่นบูชา Crucifix ที่มีชื่อเสียง ผลงานของฟิลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo Brunelleschi) และจ๊อตโต (Giotto), ภาพเขียนสีปูนเปียก The Holy Trinity ของมาซัซโซ (Masaccio) และภาพ Life of the Virgin ของโดเมนิโค กิลันดายโย (Domenico Ghirlandaio) อีกด้านของจัตุรัสเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์การถ่ายภาพ Museo Nazionale Alinari della Fotografia ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ภาพถ่ายและกล้องถ่ายรูปให้ได้ชมด้วย
แกลลอรี่ เดลลัคคาเดเมีย เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
แกลลอรี่ เดลลัคคาเดเมีย (Galleria dell'Accademia) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลกที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากทุกวัน เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งประติมากรรมแกะสลักหินอ่อน David (ของจริง) เด็กหนุ่มรูปงามผู้ปราบยักษ์โกไลแอธด้วยก้อนหินเพียงก้อนเดียว ผลงานศิลปินเอกของโลก มิเคลันเจโล บัวนารอตติ (Michelangelo Buonarroti) และภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีภาพวาดของศิลปินเอกยุคเรอนาสซองส์อีกมากมาย อาทิ ซานโดร บอตติเชลลี (Sandro Botticelli), โดเมนิโค กีร์ลันดายโย (Domenico Ghirlandaio) และผลงานที่ยังไม่เสร็จของมิเคลันเจโล The Prisoners ให้ชมด้วย
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และ หอระฆังซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค หรือ จตุรัสเซนต์มาร์ค (Piazza San Marco / St. Mark’s Square) เป็นจัตุรัสที่เป็นศูนย์กลางของเมืองเวนิส บริเวณจัตุรัสล้อมรอบด้วยแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง อย่างเช่น มหาวิหาร หอนาฬิกา พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ ศูนย์นิทรรศการ และหอสมุด และมีด้านที่ติดกับชายฝั่งทะเล ซึ่งจักรพรรดินโปเลียน (Napoleon) อดีตจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้ว่าที่นี่เป็นดั่งห้องรับรองที่สวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ บริเวณจัตุรัสยังโดดเด่นด้วยหอระฆังซานมาร์โค หรือ หอระฆังเซนต์มาร์ค (San Marco Campanile / St. Mark’s Campanile) ความสูง 99 เมตรซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพอันน่าประทับใจของเมืองเวนิสและชายฝั่งทะเลได้จากด้านบน ด้วยเหตุนี้ จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคและหอระฆังซานมาร์โค จึงได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่โดยรอบ และยังมีทัศนยีภาพอันสวยงามของเมืองริมฝั่งทะเลให้เที่ยวชม
เกาะมูราโน่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เกาะมูราโน่ (Murano) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเวนิส โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนหลากสีเรียงราย และโบราณสถานซึ่งสร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่อย่างเช่น โบสถ์ หอนาฬิกา และพระราชวังเก่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตเครื่องแก้วที่มีความวิจิตรบรรจงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่นี่จึงเป็นแหล่งของช่างฝีมือเครื่องแก้วที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นศิลปาชีพท้องถิ่นที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านบนเกาะ รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งจุดขายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยการจัดทัวร์ชมการผลิตเครื่องแก้วในโรงงานอย่างใกล้ชิด ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชมกระบวนการผลิตเครื่องแก้ว และยังได้เที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่บนเกาะที่มีประวัติศาสตร์หลายร้อยปีอีกด้วย
10 มุมสวยถ่ายภาพเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เมืองเวนิส (Venice) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำและความโรแมนติก เพราะเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันสวยงามของท้องทะเล และมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายให้เที่ยวชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยทาง Palanla.com ได้คัดสรรมุมสวยถ่ายภาพเมืองเวนิสรวมถึงแลนด์มาร์กต่างๆ มาฝากผู้ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวและการถ่ายภาพไว้ดังต่อไปนี้
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เมืองเวนิส (Venice / Venezia) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี (Italy) ในพื้นที่ของแคว้นเวเนโต (Veneto Region) ซึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของประเทศอิตาลี แคว้นนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยภายในอาณาบริเวณอยู่ราวหนึ่งร้อยกว่าเกาะ โดยเมืองเวนิสนั้นเป็นเมืองเอกของแคว้นเวเนโตและยังเป็นเมืองที่คนทั่วโลกขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งสายน้ำและความโรแมนติก” เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะที่มีกระแสน้ำทะเลไหลเซาะเข้าไปในฝั่งจนเกิดเป็นคลองสีเขียวอมฟ้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่มีชื่อว่า “คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal)” ซึ่งเป็นคลองสายหลักที่ใช้สัญจรไปมาโดยเรือหลากหลายประเภทอย่างเช่น “Water-bus” ซึ่งเป็นเรือขนส่งสาธารณะหลักของเมือง และ “เรือกอนโดล่า (Gondola)” ซึ่งเป็นเรือท้องถิ่นประจำเมืองเวนิส ประกอบกับทิวทัศน์บริเวณสองฝั่งคลองที่เรียงรายด้วยอาคารและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่หลายแห่ง เกิดเป็นทัศนียภาพอันสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวิถีชีวิตแห่งเวนิสที่สร้างความประทับใจให้กับเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือน
เทศกาลเวนิสคาร์นิวัล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เวนิส คาร์นิวัล (Venice Carnival) เป็นเทศกาลระดับโลกที่จัดขึ้นทุกปีในเมืองเวนิส เป็นเทศกาลที่ผู้คนจากทั่วสารทิศจะสวมหน้ากากที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงและแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองโบราณของชาวเวเนเชียนออกมาเดินพาเหรด เต้นรำเฉลิมฉลอง สนุกสนานเพลิดเพลินกับดนตรีสดบริเวณจัตุรัส และสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในเมือง โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นประมาณช่วงปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ และกินระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์ และจะจบลงในวัน Shrove Tuesday ซึ่งเป็นวันฉลองก่อนถึงเทศกาลถือศีลอดของศาสนาคริสต์ โดยพื้นที่ยอดนิยมที่ผู้คนนิยมมารวมตัวกันคือบริเวณจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค เพราะเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมที่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์กโบราณสถานอันสวยงามประจำเมืองเวนิส
เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ (San Giorgio Maggiore) เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมืองเวนิส ตรงข้ามกับจตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค โดดเด่นด้วยโบสถ์หินอ่อนเก่แก่สีขาวที่มีโดมขนาดใหญ่ด้านบน และหอระฆังความสูง 63 เมตรที่ด้านบนเป็นหอชมเมืองซึ่งสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองเวนิส และเห็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเวนิสได้หลายแห่ง อาทิเช่น หอระฆังซานมาร์โคและพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลที่ตั้งอยู่ในฝั่งตรงข้าม อีกทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์อันน่าประทับใจของท้องทะเลและหมู่เกาะต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้โดยรอบ เกาะนี้จึงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่ง
เกาะบูราโน่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เกาะบูราโน่ (Burano) เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงอันสงบสุข โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสเรียงรายอยู่บนเกาะ และหอเอียงแห่งบูราโน่ (Burano's Leaning Bell Tower) ซึ่งเป็นหอระฆังความสูง 53 เมตรที่มีความเอียงจากการทรุดตัวของพื้นดินด้านล่าง นอกจากทัศนียภาพอันสวยงามบนเกาะแล้ว ที่นี่ยังมีชื่อเสียงด้านงานหัตถศิลป์ในการถักทอผ้าลูกไม้ ซึ่งจัดเป็นศิลปาชีพท้องถิ่นของเกาะแห่งนี้ที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับชาวบ้าน โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ผ้าลูกไม้เมอร์เล็ตโต (Museo del Merletto) ที่จัดแสดงความเป็นมาของการผลิตผ้า และยังมีร้านค้าและร้านขายของที่ระลึกให้ซื้อสินค้าติดมือกลับไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ เนื่องด้วยเป็นหมู่บ้านชาวประมง ของขึ้นชื่อของที่นี่จึงเป็นความสดของปลาทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติได้จากร้านอาหารต่างๆ ที่อยู่บนเกาะ เกาะบูราโน่จึงเป็นหนึ่งในหมู่เกาะของเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
คลองแกรนด์คาแนล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal / Canalazzo) เป็นคลองใหญ่ใจกลางเมืองเวนิส และยังเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักของเมืองอีกด้วย ในคลองแกรนด์คาแนลมีเรือสัญจรไปมามากมาย ทั้งเรือสาธารณะอย่าง Water-bus เรือแท็กซี่เฟอร์รี่ และ และเรือกอนโดล่าซึ่งเป็นเรือพายท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการเพื่อที่จะได้ล่องเรือเที่ยวชมความสวยงามของทัศนียภาพสองฝั่งคลองอย่างใกล้ชิด บริเวณริมคลองสองฝั่งโดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีความหลากหลายทางด้านสถาปัตยกรรมในยุคต่างๆ ด้วยเหตุนี้ คนทั่วโลกจึงมักจะนึกถึงภาพคลองแกรนด์คาแนลเป็นอันดับแรกเมื่อกล่าวถึงเมืองเวนิส เพราะเป็นภาพสะท้อนบรรยากาศและวิถีชีวิตของเมืองแห่งสายน้ำและความโรแมนติกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองแห่งนี้
พระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
พระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล หรือพระราชวังโดจ (Palazzo Ducale / Doge's Palace) เป็นพระราชวังเก่าที่มีอายุราวหนึ่งพันปี ตั้งอยู่ในบริเวณของจัตุรัสซานมาร์โคที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเมืองเวนิส แต่เดิมพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของเจ้าเมืองเวนิสที่เรียกว่า “โดจ (Doge)” และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการในสมัยนั้นอีกด้วย ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้สาธารณะเข้าชม โดยตั้งแต่แรกสร้างจนถึงช่วงศตวรรษที่ 18 ได้มีการปรับโครงสร้าง เพิ่มอาคารส่วนต่อขยาย รวมถึงสร้างขึ้นใหม่อยู่หลายครั้ง ด้วยเหตุนี้ พระราชวังแห่งนี้จึงเป็นแลนด์มาร์กเชิงประวัติศาสตร์ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในรูปแบบผสมผสานทั้งแบบเวเนเชียน ไบเซนไทน์ เรเนซอง และโกธิก รวมถึงการตกแต่งภายในและภายนอกอันสวยงามทรงคุณค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะสมัยนิยมในยุคนั้น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่งที่ควรค่าต่อการเข้าชม
มหาวิหารซานมาร์โค และ พิพิธภัณฑ์ซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานมาร์โค หรือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (Basilica di San Marco / St. Mark's Basilica) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสเปียซซาซานมาร์โค หรือ จตุรัสเซนต์มาร์ค (Piazza San Marco / St. Mark's Square) มหาวิหารแห่งนี้เป็นมหาวิหารประจำเมืองเวนิส ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานร่างของนักบุญซานมาร์โค หรือ นักบุญมาร์ค อัครสาวกของพระเยซูคริสต์ ที่นี่จึงเป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี เป็นศูนย์รวมใจของคริสตศาสนิกชน และเป็นแลนด์มาร์กที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานที่สวยงามล้ำค่า โดดเด่นด้วยรูปปั้นนักบุญมาร์คที่ด้านบนจั่วและสัญลักษณ์สิงโตทองมีปีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวนิส นอกจากนี้ยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ซานมาร์โค หรือ พิพิธภัณฑ์เซนต์มาร์ค (Museo di San Marco / St. Mark’s Museum) ที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ และศิลปะเชิงประวัติศาสตร์มากมายที่หาดูได้ยาก ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชม
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเป็กกี้ กุกเกนไฮม์ คอลเลคชั่น เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเป็กกี้ กุกเกนไฮม์ คอลเลคชั่น (Peggy Guggenheim Collection) ตั้งตามชื่อของเป็กกี้ กุกเกนไฮม์ (Peggy Guggenheim) บุคคลสำคัญผู้มีใจรักและให้การสนับสนุนในด้านผลงานศิลปะร่วมสมัยที่มีชีวิตอยู่ในช่วงค.ศ.1898 – ค.ศ.1979 พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ตั้งอยู่ริมคลองแกรนด์คาแนลใกล้กับสะพานแอคคาเดเมีย (Ponte dell'Accademia) อาคารพิพิธภัณฑ์แต่เดิมคือพระราชวังเก่าปาลัซโซ่เวนิเยร์เดอีลีโอนี (Palazzo Venier dei Leoni) ที่เป็กกี้ได้ซื้อไว้ในปี ค.ศ. 1949 และปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายนอกและการตกแต่งภายในเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเปิดเป็นศูนย์จัดแสดงผลงานศิลปะชิ้นเอกต่างๆ ทั้งภาพเขียนและผลงานประติมากรรมมากมายที่ได้สะสมเอาไว้ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีความสำคัญที่สุดของยุโรปอีกแห่งหนึ่งในยุคศตวรรษที่ 20 ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้หลงใหลในผลงานศิลปะ
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี (Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari) มักเรียกสั้นๆ ว่าโบสถ์ฟรารี เป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกแบบเรียบง่าย ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับจัตุรัสแคมโปเดอีฟรารี (Campo dei Frari) ในพื้นที่ของเขตซานโปโล (San Polo) สถานที่แห่งนี้เป็น ศาสนสถานเชิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุหลายร้อยปี ปัจจุบันเป็นทั้งโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก และสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานศิลปะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคริสตศาสนาจำนวนหลายชิ้น โดยเฉพาะงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับพระแม่มารี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต (Basilica di Santa Maria della Salute / Basilica of Saint Mary of Health) มักเรียกกันสั้นๆ ว่าโบสถ์ซาลูเต เป็นโบสถ์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีหลังคาโดมขนาดใหญ่ และมีรูปปั้นพระแม่มารีประดิษฐานอยู่ด้านบน มหาวิหารแห่งนี้เป็นดั่งศรัทธาของเมืองเวนิส เพราะสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระแม่มารีที่ช่วยพิทักษ์รักษาเมืองเวนิสให้รอดพ้นจากโรคระบาดในช่วงศตวรรษที่ 16 มหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงประจำเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี อีกทั้งด้วยตำแหน่งที่ตั้งของมหาวิหารที่อยู่ริมชายฝั่งติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะปันตาเดลล่าโดกานา (Punta della Dogana) ซึ่งเป็นบริเวณที่คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) และคลองจิวเดคก้า (Giudecca Canal) มาบรรจบกันที่อ่าวซันมาร์โก (San Marco Basin) เกิดเป็นความสวยงามทางธรรมชาติของสายน้ำที่มีเรือแล่นผ่านไปมาโดยมีฉากหลังเป็นมหาวิหารอันยิ่งใหญ่
สะพานบริดจ์ออฟไซส์ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
สะพานบริดจ์ออฟไซส์ (Bridge of Sighs / Ponte dei Sospiri) เป็นสะพานประวัติศาสตร์ของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสะพานหินโค้งเก่าแก่ที่มีลักษณะปิดทึบรอบด้าน ทอดข้ามคลองข้ามคลองริโอเดลปาลัซโซ่ (Rio del Palazzo)เชื่อมระหว่างพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล่ (Palazzo Ducale) กับคุกที่อยู่อีกฟากของฝั่งคลอง ชื่อของสะพานมีความหมายว่า สะพานแห่งเสียงถอนหายใจ เพราะเมื่อนักโทษถูกพิจารณาคดีและนำตัวไปยังที่คุมขังจะต้องผ่านสะพานนี้เพื่อข้ามไปยังคุก ซึ่งนักโทษจะมองเห็นอิสรภาพของโลกภายนอกครั้งสุดท้ายได้จากช่องหน้าต่างเล็กๆ บนสะพานแห่งนี้ ซึ่งนำมาสู่ความเศร้าและเสียงถอนใจ จึงกลายเป็นชื่อเรียกของสะพานนับแต่นั้นมา ในปัจจุบัน สะพานบริดจ์ออฟไซส์และคุกกลายส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ในความดูแลของพระราชวัง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้กับคนรุ่นหลังได้เที่ยวชมและศึกษา ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่ง
การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
การเดินทางมายังเมืองเวนิส (Venice) ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี (Italy) นั้นสามารถมาได้ทั้งทางเครื่องบินและรถไฟ โดยทางเครื่องบินนิยมลงที่สนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport) และต่อรถบัสเข้าไปยังตัวเมืองเวนิส สำหรับทางรถไฟจะเป็นการเดินทางจากเมืองต่างๆ ในยุโรป มาลงยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองหลักต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป
สะพานริอัลโต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
สะพานริอัลโต (Ponte di Rialto / Rialto Bridge) เป็นสะพานหินซุ้มโค้งเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ทอดข้ามคลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) เชื่อมพื้นที่ระหว่างเขตซานมาร์โค (San Marco) และเขตซานโปโล (San Polo) เข้าไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เพราะเป็นแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่กลางแหล่งช้อปปิ้ง และเป็นจุดชมวิวคลองแกรนด์คาแนลบริเวณโค้งน้ำที่มีทัศนียภาพอันสวยงามอีกจุดหนึ่งของลำคลอง สะพานนี้จึงเป็นอีกหนึ่งในภาพจำของเมืองเวนิสที่คนทั่วโลกนึกถึง
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงโรม ประเทศอิตาลี
กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงของประเทศอิตาลีปัจจุบัน เป็นเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมอันน่าอัศจรรย์ และซากปรักหักพังอันน่าทึ่งที่เป็นอารยะธรรมจากยุคโรมันโบราณ จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันแห่งนี้จะเป็นเมืองในฝันสำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่อยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต
อนุสรณ์สถานแห่งชาติกษัตริย์วิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 กรุงโรม ประเทศอิตาลี
อนุสรณ์สถานแห่งชาติวิกเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 (Victor Emmanuel II National Museum) หรือ อิล วิตโตริอาโน (Il Vittoriano) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของกรุงโรมที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่แก่กษัตริย์องค์แรกของประเทศอิตาลี โดยด้านบนสุดของอาคารอนุสรณ์สถานนั้นมีโดมแก้วอยู่ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของกรุงโรมได้โดยรอบ
วิหารแพนธิออน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
วิหารแพนธิออน (Pantheon) ได้ชื่อว่าเป็นวิหารรูปทรงจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีอายุมากกว่า 2,000 ปี จากลักษณะทางสถาปัตยกรรมก็สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญจากสมัยโรมันโบราณและแสดงถึงความยิ่งใหญ่และความสามารถของช่างสถาปัตยกรรมในสมัยโบราณได้อย่างดีเยี่ยม
โรมันฟอรั่ม กรุงโรม ประเทศอิตาลี
โรมันฟอรั่ม (Roman Forum) คือซากปรักหักพังที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันในอดีต อาณาจักรที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 6.5 ล้านตารางกิโลเมตร มีศูนย์กลางคือซากปรักหักพังแห่งนี้ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญมากมาย ทั้งยังเป็นจุดนัดพบที่สำคัญของคนในยุคนั้นอีกด้วย
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Saint Peter’s Basilica) ศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และมีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี มหาวิหารแห่งนี้คือสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ประจำนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ใครๆ ก็ไม่อาจพลาดเมื่อมาเที่ยววาติกัน
พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน (Vatican Museums) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวัตถุสิ่งของคอลเล็กชันต่างๆ มากมายและสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นงานชิ้นเอกหรูหราจากยุคเรเนซองส์ (Renaissance) ไปจนถึงโบราณวัตถุสมัยโรมันอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์นครวาติกันมีหอศิลป์และห้องโถงรวมกันมากกว่า 54 ห้อง จนอาจเรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยในแต่ละปีนั้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวมากถึง 6 ล้านคน
ปราสาทซันตันเจโล นครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
ปราสาทซันตันเจโล (Castel Sant'Angelo) หรือ หรือสุสานของเฮเดรียน ที่ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารทรงกระบอกโดดเด่นริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ นครรัฐวาติกัน ที่ในอดีตเคยเป็นทั้งสุสานของกษัตริย์ ปราสาท ป้อมปราการทางทหาร และยังเคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงโรม
โบสถ์ซานตา มาเรีย เดลเล กราเซีย กรุงโรม ประเทศอิตาลี
โบสถ์โบสถ์ซานตา มาเรีย เดลเล กราเซีย (Santa Maria delle Grazie) เป็นโบสถ์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเขต Trionfale บริเวณPiazza Santa Maria delle Grazie ของกรุงโรม ที่แม้จะไม่ใช้สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ แต่หากมีเวลาก็นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจและควรแก่การแวะไปเยี่ยมชม
บันไดสเปน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
บันไดสเปน (Spanish Steps) หรือบันไดสเปนเป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป ด้วยขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ได้รับการตกแต่งสวยงามและล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมแกะสลักอันงดงามตามแบบฉบับโรมัน รวมทั้งสถานที่จัดงานอีเวนต์สำคัญหลายอย่างรวมถึงงานแสดงแฟชั่น
น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี
น้ำพุ เทรวี่ (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่จัดได้ว่าสวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งนอกจากความงดงามแล้ว น้ำพุแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องการโยนเหรียญอธิษฐานที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์และเป็นกิจกรรมที่เป็นเสน่ห์สำหรับการมาเที่ยวชมน้ำพุแห่งนี้
จัตุรัสนาโวนา กรุงโรม ประเทศอิตาลี
จัตุรัส นาโวน่า (Piazza Navona) เป็นจัตุรัสที่เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก (Baroque) ที่เรียกได้ว่ามีความยอดเยี่ยมที่สุดของกรุงโรม ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (St Peter’s Square) หรือ ปิอัซซา ลานวงกลมขนาดใหญ่ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอันงดงามและโดดเด่นในรูปแบบโรมัน เป็นจัตุรัสกว้างขวางที่อยู่บริเวณด้านหน้าสถานที่สำคัญซึ่งเป็นศาสนสถานสูงสุดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สถานที่ซึ่งเป็นที่ฝังศพนักบุญเปรโต สมเด็จพระสันตะปาปาองค์แรกแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก และเปรียบดังหัวใจสำคัญของกรุงโรมนั่นก็คือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์นั่งเอง
โคลอสเซียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี
โคลอสเซียม (Colosseum) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทีมีชื่อเสียงที่สุดของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่เมื่อเอ่ยชื่อคงมีน้อยคนที่จะไม่คุ้นหู สนามกีฬากลางแจ้งโบราณขนาดมหึมาแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ที่นอกจากจะเคยเป็นสนามประลองอันทรงเกียรติของบรรดาเหล่านักสู้ในสมัยโบราณแล้วยังได้รับการคัดเลือกจากองค์กร New 7 Wonders ให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย
เปียซซาเดลลาซิญญอเรีย เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เปียซซาเดลลาซิญญอเรีย (Piazza della Signoria) จัตุรัสกลางเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ที่ล้อมรอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองส์และประติมากรรมเอกของโลกอย่าง David (จำลอง) น้ำพุเนปจูน (Fountain of Neptune) และหอศิลป์กลางแจ้ง Loggia dei Lanzi ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์การเมืองและการฟื้นฟูศิลปวิทยาการของทวีปยุโรปได้เป็นอย่างดี เมืองฟลอเรนซ์จึงได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1982