น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

  • อ่าน (9,426)
  • By Webmaster
  • 10:47:36 | 8 เม.ย. 2563

น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

Trevi Fountain, Rome, Italy 

             น้ำพุ เทรวี่ (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่จัดได้ว่าสวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งนอกจากความงดงามแล้ว น้ำพุแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องการโยนเหรียญอธิษฐานที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์และเป็นกิจกรรมที่เป็นเสน่ห์สำหรับการมาเที่ยวชมน้ำพุแห่งนี้


ประวัติ

             น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมทางตะวันออกของถนน Via del Corso ชื่อของน้ำพุเป็นชื่อที่ตั้งตามทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นจุดบรรจบของถนนสามสาย (“tre vie”) ได้แก่ Acqua Vergine, Aqua Virgo และสะพานส่งน้ำโรมันโบราณ น้ำพุแห่งนี้เป็นน้ำพุที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบบาร็อก (Baroque) ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม โดยมีขนาดความสูงถึง 85 ฟุต  และความกว้างถึง 65 ฟุต เป็นผลงานชิ้นเอกของนิโคลา ซาลวี (Nicola Salvi) และจูเซปเป ปานนินี (Giuseppe Pannini) ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

             น้ำพุที่เห็นกันในปัจจุบันนั้นได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1732 เป็นผลงานการออกแบบโดยนิโคลา ซาลวิ ทว่าซาลวิได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1751 หลังจากที่น้ำพุสร้างเสร็จไปเพียงครึ่งหนึ่ง ภายจากนั้นจึงได้มีการสร้างต่อด้วยฝีมือของศิลปินท่านอื่นๆ และเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์หลังจากการติดตั้งประติมากรรมโอเชียนัส หรือเทพเจ้าเนปจูนเทพแห่งน้ำไว้ในบริเวณช่องกลางน้ำพุในปี ค.ศ. 1762

             น้ำพุนี้สลักจากหินทราเวอร์ทีน (Ttravertine stone) และหินอ่อนคารารา (Carrara marble) เป็นหลัก จุดเด่นของน้ำพุนี้คือรูปสลักโอเชียนุส (Oceanus) ซึ่งรถลากรูปเปลือกหอยเทียมม้าและไตตัน (Titans) สองตน รูปสลักของเทพอบันแดนซ์ (Abundance) เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ยืนอยู่ในซุ้มด้านซ้ายและชูเขาแห่งความอุดมสมบูรณ์ ส่วนด้านตรงข้ามเป็นรูปปั้นสวมมงกุฎช่อมะกอก ถือถ้วยและมีงูดื่มน้ำจากถ้วย นอกจากนี้ส่วนต่างๆ ของน้ำพุยังประกอบไปด้วยรูปสลักต้นไม้ถึง 30 สายพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้ลองสังเกตและมองหาอย่างเพลิดเพลิน

             น้ำที่น้ำพุนี้มาจากท่อส่งน้ำอะควีดักท์ (Aqueduct) ที่สร้างโดยจักรพรรดิ์ซีซาร์ออกุสตุส (Caesar Augustus) ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่ ปีที่ 17 ก่อนคริสตกาล น้ำที่นี่จึงสะอาดอยู่เสมอและนักท่องเที่ยวสามารถดื่มได้ และสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์สำหรับการมาเที่ยวที่น้ำพุแห่งนี้ก็คือการโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำพุเทรวี่

             ตามธรรมเนียมนั้นผู้ที่จะโยนเหรียญต้องอธิษฐาน ก่อนที่จะหันหลังแล้วโยนเหรียญข้ามไหล่ซ้าย หากเหรียญหล่นไปใต้น้ำพุเชื่อกันว่าคำอธิษฐานจะสมปรารถนา โดยมีความเชื่อกันว่า เมื่อโยนเหรียญหนึ่งเหรียญจะได้กลับมาเที่ยวโรมอีกครั้ง ถ้าโยนสองเหรียญจะได้พบรักกับชาวโรม และถ้าโยนสามเหรียญจะได้แต่งงานกับชาวโรม ในแต่ละวันนั้นจึงมีผู้โยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำพุแห่งนี้มากถึงราวๆ 4,000 ดอลลาร์ โดยในแต่ละเช้าก็จะมีการเก็บเหรียญขึ้นมาเพื่อนำไปบริจาคให้แก่การกุศล

             หากมาเที่ยวน้ำพุเทรวี่ในเวลากลางวัน นักท่องเที่ยวจะได้ชมประกายของหินทราเวอร์ทีนที่สะท้อนกับแสงแดด และหากมาเที่ยวในเวลากลางคืนก็จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของน้ำพุที่ฉาบไล้ด้วยแสงสีทองจากแสงไฟเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่สวยงามไม่แพ้กัน


น้ำพุนี้สลักจากหินทราเวอร์ทีน (Ttravertine stone) และหินอ่อนคารารา (Carrara marble)


น้ำที่น้ำพุเทรวี่เป็นน้ำที่มาจากท่อส่งน้ำอะควีดักท์ (Aqueduct) ที่สร้างโดยจักรพรรดิ์ซีซาร์ออกุสตุส (Caesar Augustus) ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่ ปีที่ 17


น้ำพุเทรวี่เป็นน้ำพุที่จัดได้ว่าสวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง

             สนามบินโรม หรือชื่อทางการคือท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci-Fiumicino Airport) ภาษาอิตาเลียนใช้ Fiumicino Aeroporto ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโรมประมาณ 30 กิโลเมตร จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังสถานีรถไฟหลักคือสถานี Roma Termini ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของกรุงโรมได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบิน Fiumicino Aeroporto ไปยังสถานี Roma Termini โดยใช้เส้นทางสาย A91 มีระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

             - รถไฟ (Train) จากสนามบิน Fiumicino Aeroporto นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสาย RV3231 ไปยังสถานี Roma Termini ได้โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที


การเดินทางไป Trevi Fountain

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Roma Termini ไปยัง Trevi Fountain โดยใช้เส้นทางสาย Nazionale มีระยะทาง 3.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จากสถานี Roma Termini ไปยัง Trevi Fountain นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถประจำทางสาย nMA ไปลงที่ป้าย Barberini ใช้เวลาประมาณ 20 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดตลอด 24 ชั่วโมง


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


น้ำพุเทรวี่เป็นน้ำพุที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบบาร็อก


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Trevi Fountain

             นอกจากชมความงดงามของน้ำพุที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยว Trevi Fountain ก็คือการอธิษฐานและโยนเหรียญลงไปในน้ำพุเพื่อลองเสี่ยงทายสักหนึ่งเหรียญเพื่อขอให้ได้กลับมากรุงโรมอีกครั้ง


สิ่งที่เป็นไฮไลต์สำหรับการมาเที่ยวที่น้ำพุเทรวี่ก็คือการโยนเหรียญอธิษฐานลงไปในบ่อน้ำพุแห่งนี้


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยว Trevi Fountain ได้ตลอดทั้งปี


ประติมากรรมแกะสลักเทพเจ้า


สถาปัตยกรรมอันงดงาม


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             น้ำพุแห่งนี้สวยงามด้วยรูปปั้นที่มีความหลากหลายและเปี่ยมไปด้วยความหมาย เช่น รูปปั้นเทพเนปจูนขี่ม้าติดปีกที่บริเวณส่วนกลางของน้ำพุ ขนาบข้างด้วยไททันเทพครึ่งคนครึ่งปลา แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง


             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Trevi Fountain สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

                         (Trevi Fountain, Rome, Italy)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม      

                         เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง

                         ตั้งอยู่ที่ : Piazza di Trevi, 00187 Roma RM

                         โทรศัพท์ : (+39) 06 0608           

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                         เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองโรม https://www.rome.net/

                                         เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศอิตาลี http://www.italia.it

                                         ขนส่งสาธารณะเมืองโรม https://www.rome.net/transportation

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ