- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
- อ่าน (4,399)
- By Webmaster
- 10:18:52 | 8 เม.ย. 2563
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
St Peter’s Square, Vatican, Rome, Italy
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (St Peter’s Square) หรือ ปิอัซซา ลานวงกลมขนาดใหญ่ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอันงดงามและโดดเด่นในรูปแบบโรมัน เป็นจัตุรัสกว้างขวางที่อยู่บริเวณด้านหน้าสถานที่สำคัญซึ่งเป็นศาสนสถานสูงสุดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สถานที่ซึ่งเป็นที่ฝังศพนักบุญเปรโต สมเด็จพระสันตะปาปาองค์แรกแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก และเปรียบดังหัวใจสำคัญของกรุงโรมนั่นก็คือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์นั่งเอง
ประวัติ
ความโดดเด่นของจัตุรัสแห่งนี้ คือเสาโอเบลิสก์ (Obelisk) ซึ่งสลักจากหินแกรนิตสีแดงขนาดใหญ่จากอียิปต์ กล่าวกันว่าเสาโอเบลิสก์นี้ถูกเคลื่อนย้ายตามคำบัญชาของจักรพรรดิคาลิกูลาในปี ค.ศ. 37 จากกรุงอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์มาสู่วงเวียนแห่งเนโร จุดที่ปัจจุบันกลายเป็นจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์หรือปิอัซซาแห่งนี้นี่เอง และความพิเศษของเสานี้คือเป็นเสาโอเบลิสก์เสาเดียวที่ไม่ได้ถูกโค่นล้มเลยตั้งแต่สมัยโรมัน
จัตุรัสนี้มีพื้นที่เป็นรูปวงรี ล้อมรอบด้วยแนวเสาที่ตั้งเรียงเป็นแถวลึกสี่แถว จัดวางไว้อย่างแยบยลเพื่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม บริเวณลานรอบจัตุรัสแห่งนี้ยังถูกล้อมรอบด้วยเสาหินจำนวนหลายสิบต้นซึ่งเป็นเสาหิน และเหนือแนวเสาเหล่านี้ประดับประดาด้วยประติมากรรมรูปปั้นของบรรดาเทพตามตำนานเทพปกรณัมหลายสิบองค์อย่างงดงามนอกจากนี้ บริเวณทางเข้าทั้ง 2 ด้านของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ยังประกอบไปด้วยน้ำพุสวยงาม
ในปีค.ศ. 1656 - 1667 จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่โดยแบร์นินี (Gain Lorenzo Bernini) สถาปนิกแนวบาร็อก(Baroque) ชื่อดัง ซึ่งการออกแบบใหม่ครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ประชาชนสามารถมองเห็นสมเด็จพระสันตะปาปาในการให้ศีลให้พรหรือการประกอบศาสนกิจจากบริเวณกลางมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์หรือจากหน้าต่างในพระราชวังวาติกันได้มากที่สุด
นอกจากความสวยงามรอบๆ จัตุรัสที่มีให้ชมอย่างไม่รู้เบื่อแล้ว จัตุรัสแห่งนี้ยังมีสะพานที่สวยงามที่สามารถข้ามไปยังปราสาทซันตันเจโล (Castel Sant’Angelo) หรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราสาทซันตันเจโล อาคารทรงประบอกอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในช่วงหนึ่งเคยเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในกรุงโรม และเป็นสถานที่ที่ครั้งหนึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาเคยใช้เป็นป้อมปราการในการหลบภัยอีกด้วย
จัตุรัสนี้มีพื้นที่เป็นรูปวงรี ล้อมรอบด้วยแนวเสาที่ตั้งเรียงเป็นแถวลึกสี่แถว
ภูมิทัศน์ที่สวยงามของแนวเสา
เสาโอเบลิสก์ (Obelisk)
เหนือแนวเสาเหล่านี้ประดับประดาด้วยประติมากรรมรูปปั้นของบรรดาเทพตามตำนานของโรมัน
ความโดดเด่นของจัตุรัสแห่งนี้ คือเสาโอเบลิสก์ ขนาดใหญ่สลักจากหินแกรนิตสีแดง ความสูง 25.5 เมตร
บรรยากาศรอบๆ จัตุรัสในยามค่ำคืน
เสาเรียงตัวกันอย่างสวยงามและอลังการ
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงโรมที่คลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง
สนามบินโรม หรือชื่อทางการคือท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci-Fiumicino Airport) ภาษาอิตาเลียนใช้ Fiumicino Aeroporto ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโรมประมาณ 30 กิโลเมตร จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังสถานีรถไฟหลักคือสถานี Roma Termini ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของกรุงโรมได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบิน Fiumicino Aeroporto ไปยังสถานี Roma Termini โดยใช้เส้นทางสาย A91 มีระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
- รถไฟ (Train) จากสนามบิน Fiumicino Aeroporto นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสาย RV3231 ไปยังสถานี Roma Termini ได้โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
การเดินทางไป Saint Peter’s Square
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Roma Termini ไปยัง Saint Peter’s Square โดยใช้เส้นทางสาย Viale del Muro Torto มีระยะทาง 6.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากสถานี Roma Termini ไปยัง Saint Peter’s Square นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถประจำทางสาย 64 ไปลงที่ป้าย Cavalleggeri/S. Pietro ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิด 24 ชั่วโมง
ความยิ่งใหญ่และอลังการของสถาปัตยกรรมแห่งนี้
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
น้ำพุบริเวณด้านหน้าจัตุรัส
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Saint Peter’s Square
สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือชมความงามของเสาโอเบลิสก์ (Obelisk) ขนาดใหญ่สลักจากหินแกรนิตสีแดง ซึ่งสร้างขึ้นในประเทศอียิปต์ โดยความพิเศษของเสานี้อยู่ที่เป็นเสาโอเบลิสก์เสาเดียวที่ไม่ได้ถูกโค่นล้มเลยตั้งแต่สมัยโรมัน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวเดินทางไปสามารถเที่ยวชม Saint Peter’s Square ได้ตลอดทั้งปี
บรรยากาศในยามค่ำคืน
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
เสาโอเบลิสก์ที่ตั้งอยู่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์แห่งนี้ มีอายุกว่า 4,000 ปี โดยมีความสูง 83 ฟุตและมีน้ำหนัก 326 ตัน เทียบได้กับน้ำหนักที่มากกว่าวาฬสีน้ำเงินซึ่งเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสองตัวรวมกันเลยทีเดียว
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Saint Peter’s Square สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
(Saint Peter’s Square, Vatican, Rome, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง
ตั้งอยู่ที่ : Vatican, RM, Italy
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองโรม https://www.rome.net/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศอิตาลี http://www.italia.it
ขนส่งสาธารณะเมืองโรม https://www.rome.net/transportation
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ