- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
- อ่าน (1,647)
- By Webmaster
- 09:52:50 | 3 ต.ค. 2566
10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
10 Most Famous Churches and Cathedrals in the World
โบสถ์ และมหาวิหาร อีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ทั่วทุกมุมโลก เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน ล้วนสร้างขึ้นจากความเชื่อ และความศรัทธา บางสถานที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา บางสถานที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถถ่ายทอดผลงานทางสถาปัตยกรรม และประติมากรรมออกมาได้อย่างงดงาม 10 โบสถ์และมหาวิหารที่ PALANLA จะพาไปชมในวันนี้ ถือว่าเป็นศาสนสถานที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีชื่อเสียงที่สุด
แผนที่ตั้ง 10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
1. มหาวิหารเซนต์บาซิล เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย
(St. Basil’s Cathedral, Moscow, Russia)
มหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral) หนึ่งในแลนด์มาร์ก และสถาปัตยกรรมสำคัญของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรบชนะเหนือกองทัพของมองโกลที่เมืองคาซาน (Kazan) ในปี ค.ศ. 1555 มหาวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสแดง โดดเด่นด้วย โดมรูปหัวหอมที่มีสีสันสดใสทั้งหมด 9 โดม ลักษณะคล้ายแท่งเทียนที่มีเปลวไฟอยู่บริเวณปลายยอด ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมผสมผสานแบบรัสเซียโบราณไบแซนไทน์ กับรัสเซียนกอธิค ผลงานการออกแบบของสถาปนิก ปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) จนได้รับการยกย่องว่างดงาม และไม่เหมือนโบสถ์อื่น รวมทั้งได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1990 อีกด้วย
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 55°45'09.2"N 37°37'21.2"E
2. เวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ
(Westminster Abbey, London, England)
เวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ (Westminster Abbey) มหาวิหารอันเป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษก และที่ฝังพระบรมศพพระมหากษัตริย์อังกฤษ และพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่เป็นสไตล์กอธิคซึ่งพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 ทรงสร้างคร่อมโบสถ์เก่าที่มีอยู่เดิมเมื่อปี ค.ศ. 1245 ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ คือ มุมนักกวี ซึ่งจะอยู่บริเวณระเบียงคต โดยศพของกวีคนสำคัญ อาทิ วิลเลียม เบลค, โรเบิร์ต เบิร์นส และวิลเลียม เชกสเปียร์ ก็ถูกบรรจุไว้ในบริเวณเดียวกัน ส่วนพระบรมศพของพระมหากษัตริย์อังกฤษและพระบรมวงศานุวงศ์นั้นจะบรรจุไว้ในชาเปล (Chapel) ต่างๆ ที่อยู่ภายในมหาวิหาร
เวลาทำการเปิด - ปิด : วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 07.30 – 17.00 น. และ วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 18.30 น.
พิกัด GPS : 51°29'57.3"N 0°07'33.8"W
3. มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย เมืองบาเซโลนา ประเทศสเปน
(Sagrada Familia, Barcelona, Spain)
มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) มหาวิหารที่ใช้เวลาสร้างยาวนานที่สุดในโลก และมีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนา มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1882 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2026 ชื่อของมหาวิหาร ซากราดา แฟมิเลีย นั้นมีความหมายถึง ครอบครัวของพระเยซู โดยโครงสร้างอันยิ่งใหญ่ งดงามสุดอลังการแห่งนี้ เป็นผลงานการออกแบบชิ้นสุดท้ายของสถาปนิกชื่อดัง อันโตนี เกาดี (Antoni Gaudí) ก่อนที่จะเสียชีวิตลง แม้ว่าปัจจุบันมหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย ยังคงสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่มหาวิหารแห่งนี้กลับได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกแล้วเมื่อปี ค.ศ. 2005
เวลาทำการเปิด - ปิด : วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 09.00 – 20.00 น. และ วันอาทิตย์ เวลา 10.30 – 20.00 น.
พิกัด GPS : 41°24'11.6"N 2°10'30.2"E
4. มหาวิหารน็อทร์-ดาม เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
(Notre-Dame Cathedral, Paris, France)
มหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral) เป็นสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นคู่กับเมืองปารีสมากกว่า 850 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานชิ้นเอกในศิลปะโกธิค ประติมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ ที่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก สถาปนิกคนสำคัญของฝรั่งเศส และได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์รวมความศรัทธาต่อศาสนาคริสต์ที่สำคัญอย่างยิ่งของเมืองปารีสมานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากความหมายในเชิงศิลปะ และความศรัทธาแล้ว มหาวิหารแห่งนี้ ยังมีบทบาทต่อวรรณกรรม อย่างการเป็นฉากหลัง และแรงบันดาลใจให้กับผลงานเรื่อง “คนค่อมแห่งนอเทรอดาม” (The Hunchback of Notre Dame) ของวิกเตอร์ อูโก นักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อดัง ซึ่งภายหลังโด่งดังไปทั่วโลกทั้งในฐานะของภาพยนตร์และการ์ตูนอนิเมชั่น ของวอลล์ ดีสนีย์
เวลาทำการเปิด - ปิด : วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 – 18.45 น. และ วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 19.45 น.
พิกัด GPS : 48°51'09.8"N 2°20'59.5"E
5. มหาวิหารโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
(Cologne Cathedral, Cologne, Germany)
มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) มหาวิหารแห่งพลังศรัทธาของคริสศาสนิกชน สร้างอย่างยิ่งใหญ่ และยาวนานด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ความสูง 157.38 เมตรที่ตั้งตระหง่านเป็นแลนด์มาร์กแห่งเมืองโคโลญ คู่กับสะพานโฮเอินซอลเลิร์นที่ทอดข้ามแม่น้ำไรน์ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของหีบสามกษัตริย์อันล้ำค่าตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ รวมถึงเป็นแหล่งเก็บสะสมและจัดแสดงผลงานประติมากรรม โบราณวัตถุ และศิลปะเก่าแก่ทางศาสนาอันประเมินค่าไม่ได้ พร้อมหอชมเมืองข้างบนหอคอยทิศใต้ให้คุณได้ชมทัศนียภาพเมืองโคโลญอันน่าประทับใจ
เวลาทำการเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น.
พิกัด GPS : 50°56'27.6"N 6°57'32.3"E
6. มหาวิหารมิลาน เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
(Milan Cathedral, Milan, Italy)
มหาวิหารมิลาน (Milan Cathedral) หรือ มหาวิหารดูโอโม่ เป็นวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน โดยเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1386 ในขณะการก่อสร้างก็ประสบปัญหาต่างๆทั้งด้านการเมือง และการเงิน จนเกิดการล่าช้า รวมระยะเวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 579 ปี และเปิดใช้ในปี ค.ศ.1965 รูปแบบสถาปัตยกรรมของมหาวิหารแห่งนี้ เป็นหินอ่อนแบบกอธิค มีโครงสร้างสูงถึง 157 เมตร และกว้าง 92 เมตร ภายนอกโดดเด่นเป็นสง่า ด้วยรูปปั้นทองของพระแม่มาดอนน่า ขนาด 4 เมตร ที่อยู่บนปลายยอด รายล้อมด้วยหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด และรูปปั้นหินอ่อน กว่า 3,000 ชิ้น จนได้รับฉายาว่า “วิหารเม่น” ภายในประดับประดาด้วยรูปปั้นของนักบุญ ภาพเรื่องราวจากพระคัมภีร์ และแสตนกลาสสีสันงดงามวิจิตร จนได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรป และเป็นมหาวิหารอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองมิลาน
เวลาทำการเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น.
พิกัด GPS : 45°27'49.9"N 9°11'32.8"E
7. มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เมืองโรม ประเทศอิตาลี
(St. Peter’s Basilica, Rome, Italy)
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Saint Peter’s Basilica) ศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และมีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี มหาวิหารแห่งนี้คือสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ประจำนครรัฐวาติกัน ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1626 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทรงโดมสูงที่มีความงดงามวิจิตร ภายในอาคารนั้นประดับตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนัง และโมเสค ซึ่งเป็นผลงานของแบร์นินี (Bernini) และจอตโต (Giotto) สถาปนิกและจิตรกรระดับโลกชาวอิตาลีจากเมืองฟลอเรนซ์ รวมถึงผลงานศิลปะล้ำค่าอีกจำนวนมาก อาทิ งานประติมากรรมรูปปั้นผลงานของไมเคิล แอนเจโล (Michael Angelo) และประติมากรรมรูปนักบุญปีเตอร์ ซึ่งเป็นผลงานของอาร์โนลโฟ ดี กัมบิโอ (Arnolfo di Cambio) ในปัจจุบัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระสันตะปาปา ที่ถือว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นอันดับแรกๆ ของโลกก็ว่าได้
เวลาทำการเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น.
พิกัด GPS : 41°54'07.9"N 12°27'22.5"E
8. ฮายาโซฟีอา เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
(Hagia Sophia, Istanbul, Turkey)
ฮายาโซฟีอา (Hagia Sophia) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง และเป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นเวลาเกือบพันปี ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์เดิมเคยมีสถานะเป็นโบสถ์คริสต์ เปลี่ยนมาเป็นมัสยิดหลวง และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่ภายในมีกระเบื้องโมเสกไอคอนภาพพระคริสต์ที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลายาวนาน แม้ตลอดระยะเวลา 1,400 ปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายครั้ง สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นศาสนสถานที่บ่งบอกถึงความเชื่อ ความศรัทธาของศาสนาคริสต์และอิสลามเป็นอย่างดี จนปี ค.ศ. 2020 ฮายาโซฟีอา ก็ได้กลับมาเป็นมัสยิดหลวงอีกครั้ง และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ถึง 3 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว
เวลาทำการเปิด - ปิด : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 41°00'30.4"N 28°58'49.1"E
9. โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ เมืองเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล
(Church of the Holy Sepulchre, Jerusalem, Israel)
โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ (Church of the Holy Sepulchre) หรือโบสถ์การคืนพระชนม์ เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,700 ปี ตั้งอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล เป็นสถานที่ตรึงกางเขนพระเยซู สถานที่ฝังศพของพระเยซู และที่ฟื้นคืนชีพของพระเยซู ภายในโบสถ์ จะมีแท่นหินศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่วางพระศพของพระเยซูหลังตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์ ทำให้ชาวคริสต์จะต้องมาที่นี่ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต และนำหน้าผากแตะที่แท่นหิน รำลึกถึงท่านศาสดาพระเยซู และเชื่อกันว่าที่ด้านในสุดของวิหาร ยังเป็นที่ฝังพระศพของพระเยซู ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกของศาสนาคริสต์
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ช่วงเดือนเมษายน – เดือนกันยายน เปิดตั้งแต่เวลา 05.00 – 20.00 น.
ช่วงเดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม เปิดตั้งแต่เวลา 05.00 – 19.00 น.
พิกัด GPS : 31°46'41.2"N 35°13'45.6"E
10. มหาวิหารแห่งลาส ลาจาส ประเทศโคลอมเบีย
(Las Lajas Sanctuary, Ipiales, Colombia)
มหาวิหารแห่งลาส ลาจาส (Las Lajas Sanctuary) ปาฏิหาริย์ของพระเจ้าในหุบเหว ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาแอนดีส ก่อนที่จะสร้างเป็นโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้ขึ้นมา มีเรื่องราวน่าอัศจรรย์ของ 2 แม่ลูก ที่ลูกสาวนั้นเป็นใบ้หูหนวก ในขณะที่หลบฝนและพายุอยู่ในป่าลึกแห่งนี้ ผู้ที่เป็นลูกสาวได้เห็นการปรากฏตัวของพระแม่มารีอยู่ที่บริเวณหิน พร้อมตะโกนบอกแม่ออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ จึงเป็นเหตุที่ทำให้มีการก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1754 และกลายเป็นที่แสวงบุญยอดนิยมในเวลาต่อมา รูปแบบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นสไตล์นีโอกอธิคที่มีการสร้างขึ้นหลายต่อหลายครั้งจนใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและมีการสร้างสะพานเชื่อมไปยังโบสถ์ และได้รับการเลื่อนสถานะเป็นรองมหาวิหารในปี ค.ศ.1994 อีกด้วย
เวลาทำการเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 0°48'19.3"N 77°35'08.9"W
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อหมู่บ้านไรเนอร์ หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านไรเนอร์ (Reine) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ที่ซ่อนความงดงามและเสน่ห์อันไม่เหมือนใคร จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน และสวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์
อ่านต่อล่องเรือชมฟยอร์ดไกแรงเกอร์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาสูงชัน น้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ด ทำให้ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนอร์เวย์
อ่านต่อ