เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
วัดคิโยมิซุ หรือวัดน้ำใส วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
ป่าไผ่ทาเคะ โนะ มิจิ (Take No Michi) เป็นป่าไผ่ความยาวร่วมสองกิโลเมตรในเมืองมุโค ไม่ไกลจากเกียวโต บรรยากาศของที่นี่สงบ ร่มรื่น สามารถเดินชมได้เรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน ทางเดินป่าไม้ไผ่แห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในทางเดินเท้าที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น
ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) เป็นตลาดอายุเก่าแก่กว่า 400 ปีที่ได้รับฉายาว่า "ครัวของเกียวโต"
อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานและมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 จุดชมวิวแห่งนี้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1970 จากจุดนี้สามารถมองเห็นสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ยาว 3.6 กิโลเมตร ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติกลางอ่าวมิยาซุ (Miyazu)
เกียวโต (Kyoto) มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เพราะเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นมาก่อน ที่นี่จึงเต็มไปด้วยร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ไม่ว่าจะเป็นวัดและศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีความสวยงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง Palanla ได้รวบรวม 25 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกียวโตมาให้ในบทความนี้
ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ
ญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีการจัดอันดับให้กับที่ต่างๆ อยู่มากมาย และแน่นอนว่าการจัดอันดับให้กับจุดชมวิวระดับท็อปของประเทศก็เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่อาจพลาดไปได้เช่นกัน วันนี้ Palanla จะพาไปชม 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”Nihon Sankei” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดย Hayashi Razan นักปรัชญาในสมัยรัฐบาลเอโดะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ ได้แก่ 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต 2. เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) จังหวัดฮิโรชิมะ และ 3. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยางิ
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง
วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
วัดชิออนจิ (Chion-Ji Temple) วัดพุทธนิกายเซ็นที่มีประตูทางเข้าวัดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแทงโก้ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 วัดพุทธพระโพธิสัตว์แห่งปัญญาในญี่ปุ่น นักเรียนนักศึกษานิยมมากราบขอพรเพื่อให้สอบได้
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย
ซันโจ เมเทนไก ช้อปปิ้ง อาร์เคด (Sanjo Meitengai Shopping Arcades ) เป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเกียวโต เรียกว่าเป็นโซนช้อปปิ้งที่เพลิดเพลิน เต็มไปด้วยร้านค้าและโครงสร้างเก่าแก่ ควบคู่ไปกับโลกของอาคารและร้านบูติกสมัยใหม่
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต
ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเกียวโต สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 1,100 ปีของการก่อตั้งเมืองหลวงในเกียวโต และอุทิศให้กับดวงวิญญาณของจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายที่ครองเมือง
วัดโชเรนอิน (Shoren-in Monzeki Temple) เป็นวัดของนิกายเทนไดของพุทธศาสนาญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เชิงเขาฮิกาชิยา มะของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของวัดโมเซกิของนิกายเทนไดในเกียวโต หัวหน้านักบวชในวัดเหล่านี้เป็นสมาชิกหลักของประเพณีราชวงศ์ บรรยากาศที่วัดมีความสงบและเงียบสงบคล้ายกับบรรยากาศของพระราชวังอิมพีเรียล ซึ่งสภาพแวดล้อมแบบนี้สามารถพบได้ในวัดโชเรนเท่านั้น
วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่า “วัดเงินแห่งเกียวโต” เป็นวัดในนิกายเซนถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ที่ถูกยกให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งเมืองเกียวโต และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1994
วัดโฮคันจิ (Hokan-ji Temple) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) เป็นเจดีย์สูง 46 เมตรที่มีหลังคาลาดเอียงสง่างามในแต่ละชั้นซึ่งตั้งอยู่กลางย่านเกียวโตเก่าระหว่างวัดคิโยมิซุเดระ (Kiyomizu-dera) และศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka-jinja)
วัดเซเรียวจิ (Seiryoji Temple) ตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นวัดโจโดที่รู้จักกันในนาม ซากะ-โนะ-ชากะ-โด (Saga Shakado) สร้างขึ้นเพื่อจำลอง Wutai Shan หรือ Qingliang Shan ของจีน ซึ่งรูปปั้นหลักของวัดชากาเป็นหนึ่งในสามพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น
วัดโทฟุคุจิ เป็นวัดเซ็นนิกายรินไซที่เป็นวัดหลักของคณะโทฟุกุจิ ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโตทางด้านทิศใต้ วัดแห่งนี้มีต้นไม้ที่เก่าแก่กว่า 2,000 ปี ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีสันสวยงามในฤดูใบไม้ร่วงทำให้ มีชื่อเสียงเรื่องการเป็นจุดชมใบไม้แดงที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต
วัดเอคันโดะ(Eikando Temple) หรือวัดเซ็นรินจิ(Zenrinji Temple) เป็นวัดพุทธนิกายโยโด ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองเกียวโต เป็นวัดเก่าแก่ในศาสนาพุทธนิกายโจโด มีชื่อเสียงในการเป็นสถานที่ไฮไลท์สำหรับชมใบไม้แดงที่เกียวโตมากที่สุด
วัดนันเซนจิ เป็นวัดพุทธศาสนานิกายเซนที่มีความสำคัญอย่างมากของเกียวโต พื้นที่ภายในยังประกอบไปด้วยวัดย่อยอื่นๆอีกหลายแห่ง รวมถึงมีสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ เป็นรถไฟขบวนพิเศษเพื่อชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของธรรมชาติและภูมิประเทศในบริเวณอาราชิยาม่า ซึ่งมีความงดงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู ตั้งอยู่ที่เมืองอาราชิยาม่า กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดไดโกจิ เป็นวัดสำคัญของพุทธศาสนานิกายชินงอน ภายในวัดแห่งนี้มีเจดีย์ 5 ชั้นที่มีอายุมากกว่าพันปี จนถือเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีความเก่าแก่ที่สุดในเกียวโต และเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดเท็นริวจิ เป็นหนึ่งในห้าวัดสำคัญในนิกายเซน และยังเป็นหนึ่งใน 17 สถานที่ในกรุงเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปีค.ศ. 1994 ตั้งอยู่ที่เมืองอาราชิยาม่า กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นพื้นที่เดิมของวัดเท็นริวจินั้น ในสมัยเฮอันถูกสร้างเป็นวัดชื่อว่าดันรินจิ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 400 ปี ทำให้วัดแห่งนี้ทรุดโทรมลงจนยากแก่การบูรณะ จนล่วงมาถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 จักรพรรดิโกซางะ และพระราชโอรสคือจักรพรรดิคาเมยามะ ได้เปลี่ยนพื้นที่ของวัดดันรินจิให้เป็นเขตพระราชฐาน และสร้างพระราชวังชื่อว่า”คาเมยามะ”ขึ้นมา
วัดนิชิ ฮอนกันจิ เป็นวัดศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายโจโด และเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เจดีย์ยาซากะ วัดโฮคันจิ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของกรุงเกียวโต ที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายจำนวนมาก ด้วยลักษณะเจดีย์โบราณห้าชั้นสไตล์ญี่ปุ่น โดดเด่นอยู่ท่ามกลางย่านเมืองเก่าฮิกาชิยาม่า และสามารถเดินต่อไปยังวัดน้ำใส คิโยมิซุ จึงทำให้เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ย่านกิออน เป็นย่านที่ยังคงมีเกอิชาและไมโกะ (เกอิชาฝึกหัด) พักอาศัยและทำงานอยู่จริงในปัจจุบัน บวกกับบรรยากาศของย่านที่เป็นเมืองเก่า เต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นระดับสูงมากมาย ทำให้ย่านกิออนกลายเป็นย่านที่มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม และกลายเป็นย่านที่ได้รับความนิยมจากท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดคินคะคุจิ หรืวัดทอง เป็นวัดที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของเมืองเกียวโต ด้วยตัวอาคารหลักที่มีสีทองอร่ามโดดเด่นตลอดทั้งปี และยังเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ป่าไผ่อาราชิยาม่า คือ จุดท่องเที่ยวทีมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ด้วยบรรยากาศอันสงบร่มรื่น และความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของแนวต้นไผ่จำนวนมากตลอดสองข้างทาง ตั้งอยู่ในเมืองอาราชิยาม่า กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดคิโยมิซุ หรือวัดน้ำใส วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อาราชิยาม่า คือเมืองเล็กๆทางฝั่งตะวันตกของกรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีธรรมชาติอันสวยงามทั้งแม่น้ำ ภูเขา จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของชาติญี่ปุ่น
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ซึ่งเป็นที่รู้จักจากเสาโทริอิจำนวนมากที่วางเรียงรายเป็นแนวยาวตั้งแต่บริเวณศาลเจ้าขึ้นไปบนเนินเขา ตั้งอยู่ที่เขตฟูชิมิ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดชิออนอิน เป็นวัดศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายโจโด ซึ่งเป็นนิกายที่มีชาวญี่ปุ่นนับถือมากที่สุด วัดแห่งนี้ยังสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระภิกษุโฮเน็น ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งนิกายโจโดอีกด้วย ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยาม่า กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เกียวโต เมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่น นอกจากจะแวดล้อมไปด้วยวัดวาอารามและสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้วช่วงประมาณเดือนตุลามคม – ต้นธันวาคมของทุกปี เมืองเกียวโต ยังเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่หลายคนไม่พลาดที่จะมาเยือนเพื่อมาชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่มีสีแดง สีส้ม และสีเหลือง กระจายไปทั่วทั้งเมือง เชื่อว่าใครที่มา ต้องหลงสเน่ห์เมืองนี้อย่างแน่นอน
เกียวโตนครไร้กาลเวลา แม้ประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งความทันสมัยและเทคโนโลยีชั้นเลิศ แต่เมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าแห่งประเทศญี่ปุ่นนั้นยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอดีตกาล ที่ผสมผสานไปกับจังหวะการการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ทั้งศาลเจ้าและวัดวาอารามอายุนับพันปีที่แฝงตัวอย่างกลมกลืนอยู่ท่ามกลางชุมชน การดัดแปลงโครงสร้างของมาจิยะ หรือบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่นโบราณมาเป็นร้านรวงสมัยใหม่ วิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงสวมใส่ชุดกิโมโนในชีวิตประจำวัน ทำให้ทุกย่างก้าวในเมืองเกียวโตนั้นไม่ใช่เพียงการสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตกาล แต่เป็นการซึมซาบปัจจุบันขณะที่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปสู่อนาคตอย่างแช่มช้า และงดงาม
เกียวโตเมืองมรดกโลก เมืองเล็กๆในภูมิภาคคันไซ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่เคยเป็นศูนย์กลางในการบริหารประเทศมาอย่างยาวนาน จนเป็นบ่อเกิดของศิลปวัฒนธรรมชั้นเลิศจำนวนมาก วัดวาอารามกว่าร้อยแห่งถูกสร้างขึ้นจากความศรัทธา พร้อมด้วยรากของศาสนาที่หยั่งลึกลงไปตามกาลเวลานับพันปี ส่งผลให้เกียวโตกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศาสนสถานสำคัญ จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้ภายใต้ชื่อว่า ”อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ” ประกอบไปด้วยวัด ศาลเจ้า และปราสาทรวม 17 แห่ง บางส่วนคือวัดที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง อาทิเช่นวัดน้ำใส คิโยมิซึ เดระ และวัดทอง คินคะคุจิ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญแห่งเมืองเกียวโต
วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง เป็นวัดที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของเมืองเกียวโต ด้วยตัวอาคารหลักที่มีสีทองอร่ามโดดเด่นตลอดทั้งปี ในอดีตเป็นคฤหาสน์ของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิทสึ ซึ่งมีความประสงค์ในบั้นปลายชีวิตว่า อยากอุทิศพื้นที่คฤหาสน์ของตนให้เป็นวัดในนิกายเซน ครั้นเมื่อโชกุนอาชิคางะได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ.1408 บุตรชายของเขาจึงได้สานต่อเจตนารมณ์นี้ โดยตั้งวัดในนิกายเซนขึ้นมาในชื่อว่า “วัดคินคะคุจิ” และความสวยงามของวัดแห่งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้หลานชายของโชกุนอาชิคางะ สร้าง ”วัดเงิน” หรือวัดกินคาคุจิขึ้นมาคู่กัน ความงดงามของวัดคินคะคุจิยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตจากองค์กรยูเนสโกอีกด้วย