- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- วัดเอคันโดะ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดเอคันโดะ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (4,268)
- By Webmaster
- 04:12:46 | 2 ก.พ. 2566
วัดเอคันโดะ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
Eikando Temple, Kyoto, Japan
วัดเอคันโดะ (Eikando Temple) หรือวัดเซ็นรินจิ (Zenrinji Temple)
วัดเอคันโดะ (Eikando Temple) หรือวัดเซ็นรินจิ (Zenrinji Temple) เป็นวัดพุทธนิกายโยโด ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองเกียวโต เป็นวัดเก่าแก่ในศาสนาพุทธนิกายโจโด มีชื่อเสียงในการเป็นสถานที่ไฮไลท์สำหรับชมใบไม้แดงที่เกียวโตมากที่สุด
แผนที่ตั้ง วัดเอคันโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมา
มุมมหาชนของวัดนี้ กับวิวริมบ่อน้ำขนาดใหญ่ บ่อแห่งนี้มีชื่อว่า "Hojo Pond"
วัดเอคันโดะ (Eikando Temple) หรือวัดเซ็นรินจิ (Zenrinji Temple) ในสมัยเฮอัน (ค.ศ. 853) ได้มีการสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่ตำแหน่งปัจจุบันของวัดเอคันโด ต่อมาได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิ์ ให้ก่อตั้งเป็นวัดเซ็นรินจิ ซึ่งช่วงที่เป็นวัด มีเจ้าอาวาสท่านหนึ่งชื่อเอคัน เป็นพระที่ได้รับการนับถือจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ช่วงนั้นมาก็มีการเรียกชื่อวัดเป็นวัดเอคันโด (Eikando)
ต่อมาในปีค.ศ. 1467-1469 เกิดสงครามโอนิน (Onin war) ตัววัดเอคันโดะได้รับความเสียหายจากสงครามเป็นอย่างมาก หลังจากสงครามสิ้นสุด จึงได้มีการซ่อมแซม และสร้างอาคารต่างๆ ในวัดพิ่มขึ้นมากมาย ดังที่เห็นในปัจจุบัน
การเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังตัวเมืองเกียวโต
- รถไฟด่วน (Kansai International Airport Express Haruka) สายฮารุกะประจำสนามบินนานาชาติคันไซ ซึ่งมีตัวสถานีที่เชื่อมต่อกับตัวอาคารผู้โดยสารของสนามบินโดยตรง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังสถานีประมาณ 500 เมตร โดยขึ้นที่ Kansai Kuko Daiichi Terminal มุ่งตรงเข้าเมืองเกียวโตลงที่สถานี Kyoto Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยราคาตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่ง 2,770 เยน ตั๋วแบบระบุที่นั่ง 3,080 เยน
การเดินทางจากตัวเมืองไปยังวัดเอคันโดะ
- รถไฟ จากสถานีรถไฟฟ้า Kyoto Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Karasuma-Oike ลงที่สถานี Marutamachi Station เดินต่อไปเล็กน้อยแล้วขึ้นรถประจำทางสาย 204 หรือ 93 ลงที่ป้ายรถประจำทาง Higashitennocho Bus Stop แล้วเดินต่อเล็กน้อย
- รถประจำทาง จากสถานีรถไฟฟ้า Kyoto Station ขึ้นรถประจำทางที่ Kyoto Ekimae Bus Stop สาย 100 ลงที่ Miyanomaecho Bus Stop แล้วเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร ทั้งนี้จากสถานีเกียวโต สามารถนั่งรถโดยสารได้หลายสาย (สาย 5, 93, 204) แต่สาย 5 จะผ่านใกล้วัดที่สุด ลงที่ป้าย Nanzenji-Eikando-michi จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
ประตูทางเดินเข้าวัด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. ยกเว้นช่วงใบไม้แดง(ฤดูใบไม้ร่วง) จะมีการแสดงไฟโดยเปิดให้เข้าชมต่อถึงประมาณ 21.00 น.
การซื้อบัตรเข้าชม
ช่วงใบไม้แดงจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมชมที่วัดแห่งนี้ จนได้ชื่อว่า "The Temple of Maple Leave"
อัตราค่าเข้าชมสำหรับช่วงปกติจะอยู่ที่คนละ 600 เยน ทั้งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อัตราค่าเข้าชมในเวลากลางวัน 1,000 เยน และกลางคืน 600 เยน
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
สระน้ำโฮโจ
สระน้ำโฮโจ (Hojo Pond) เป็นสระน้ำสระเดียวภายในวัดอิคันโด ซึ่งมีสวนสวยอยู่รอบๆสระ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาดูใบไม้เปลี่ยนสีรอบๆ สระโฮโจ
เจดีย์ทาโฮโต
ทั้งนี้ยังมีเจดีย์ทาโฮโต (Tahoto Pagoda) เป็นเจดีย์ 2 ชั้น สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1928 ตั้งอยู่บนเนินเขา จุดที่สูงที่สุดของวัด เจดีย์นี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของวัด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังเจดีย์ได้ เมื่ออยู่บนเจดีย์จะมองเห็นเมืองเกียวโตในมุมสูง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
อาคารวัดเอคันโด
ช่วงที่เหมาะสมในการเดินทางไปท่องเที่ยวยังวัดอิคันโดมากที่สุด คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวพืชผล เป็นเวลาชมความสวยงามของใบไม้แดงและสีสันของธรรมชาติก่อนลมหนาวมาเยือนนับว่าเป็นอีกช่วงเด่นของการเดินทางแห่งปีโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางที่ไม่ชอบอากาศร้อนแต่ก็กลัวความหนาว
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณวัดเอคันโด
ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง คือตั้งแต่เดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ตามปกติใบไม้ส่วนใหญ่ จะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองส้มและสีแดง ก่อนที่จะร่วงหล่นไปจนหมด โดยการเปลี่ยนสีจะเริ่มไล่จากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่น ช่วงเวลาเปลี่ยนสีอาจคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิในปีนั้นๆ ทั้งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น อุณหภูมิจะเริ่มเย็นสบาย โดยเฉลี่ย 15-25 องศาเซลเซียส
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดเอคันโดะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดเอคันโดะ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
(Eikando Temple, Kyoto, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ราคา 600 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
สถานที่ตั้ง : จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองเกียวโต https://kyoto.travel/th
เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวเกียวโต http://www.kyototourism.org/en/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เช็คตารางเวลารถ http://highway-buses.jp/fuji/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หน้าผาโทจินโบ จังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น
หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ทางภาคตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยความงามของหน้าผาที่สูงชันและวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง และไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามจากธรรมชาติ แต่ยังแฝงไปด้วยตำนานและความเชื่อที่ลึกซึ้งด้วย
อ่านต่อเมจิจิงกูไกเอ็น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เมจิจิงกูไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien) หรือ สวนด้านนอกศาลเจ้าเมจิ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในย่านชินจูกุและอาโอยามะของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สวนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองที่สวยงาม ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
อ่านต่อปราสาทฮิโกเนะ จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชิงะ
อ่านต่อถนนทิวสนเมตาซีคัวญา จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ถนนทิวสนเมตาซีคัวญา (Metasequoia Namiki Avenue) ในจังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น คือถนนที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 ถนนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดชมธรรมชาติที่ผู้คนหลั่งไหลมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทิวสนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามตลอดสองข้างถนน
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อ