- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (6,999)
- By Webmaster
- 13:38:43 | 31 มี.ค. 2566
วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
Kiyomizu Dera Temple, Kyoto, Japan
อาคารหลักของวัดน้ำใสซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก
วัดคิโยมิซุ หรือวัดน้ำใส วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมาของวัดคิโยมิซุ
ตำนานในการสร้างวัดแห่งนี้กล่าวว่า ในปี ค.ศ. 776 มีพระภิกษุนามว่า “เคนชิน” ซึ่งจำวัดอยู่ในเมืองนารา เขาฝันว่าได้พบกับชายชราคนหนึ่งซึ่งบอกให้พระภิกษุเคนชินออกเดินทางไปยังทิศเหนือ เพื่อค้นหาน้ำตกที่มีน้ำใสสะอาด พระภิกษุเคนชินจึงออกเดินทางไปตามที่ตนเองฝันเห็น จนไปถึงภูเขาโอโตวะ และได้พบกับน้ำตกที่มีน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ นอกจากนี้พระภิกษุเคนชินยังได้พบกับพระภิกษุรูปหนึ่งนามว่า “เกียวเอโกจิ” ซึ่งได้บอกให้พระภิกษุเคนชินแกะสลักไม้เป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่กวนอิม จากนั้นพระภิกษุเกียวเอโกจิก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
พระภิกษุเคนชินได้แกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือขึ้น และจำวัดอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นเรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่งมีซามูไรนามว่าซากาโนะอุเอะได้เดินทางเข้ามาในป่าเพื่อล่าสัตว์ และพบกับพระภิกษุเคนชินเข้า พระภิกษุเคนชินได้ขอให้ซามูไรคนนั้นละเว้นการฆ่าสัตว์ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่กวนอิม และได้เทศนาพระธรรมให้แก่ซามูไรคนนั้นจนเกิดความนับถือเลื่อมใส จึงได้ก่อสร้างวัดขึ้นมาเพื่อประดิษฐานรูปสลักเจ้าแม่กวนอิมพันมือ และตั้งชื่อวัดว่า “คิโยมิซุ” ซึ่งแปลว่า “วัดที่มีน้ำใสบริสุทธิ์”
พื้นที่บริเวณทางเข้าวัดซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คนในยามเย็น
ทัศนียภาพสวยๆ ของวัดน้ำใส
บรรยากาศรอบๆ บริเวณวัดมองจากด้านบน
การเดินทางไปยังวัดคิโยมิซุ
- รถบัส สาย 100 และ 206 ลงป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi จากนั้นเดินขึ้นเนินไปสู่ตัววัดอีกประมาณ 900 เมตร ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 210 เยน
- รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงเกียวโตมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 590 เยนต่อ 1.7 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้น 80 เยนทุกๆระยะทาง 324 เมตร และสำหรับรถแท็กซี่ของบริษัท MK Taxi จะมีส่วนลดให้ 10% สำหรับลูกค้าที่สวมใส่ชุดกิโมโน นักท่องเที่ยวสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.taxifarefinder.com/main.php?city=Kyoto-Japan
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
วัดคิโยมิซุเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น. และอาจมีการขยายเวลาปิดทำการในช่วงที่มีงานเทศกาลต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kiyomizudera.or.jp/en/
ด้วยชื่อเสียงและความศักดิ์สิทธิ์ของวัดน้ำใส ทำให้วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนตลอดทั้งวัน
บรรยากาศนักท่องเที่ยวคึกคักภายในวัดน้ำใส
การซื้อบัตรเข้าชม
บริเวณวัดเข้าชมฟรี และมีค่าเข้า 300 เยนสำหรับการเข้าไปในบริเวณอาคารหลัก (Main Hall)
จุดจำหน่ายบัตรเข้าชมในส่วนของอาคารหลัก
ชื่อของวัดคิโยมิซุ มีความหมายว่า “วัดที่มีน้ำใสบริสุทธิ์”
ความเชื่อและความศรัทธาของวัดคิโยมิซุ
ที่มาของคำว่า”น้ำใส”ในชื่อวัดแห่งนี้นั้น มีที่มาจากสายน้ำ 3 สายซึ่งไหลมาจากน้ำตกโอโตวะชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ดื่มน้ำใสที่วัดคิโยมิสึเดระ จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ โดยสายน้ำ 3 สายนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันออกไป ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมดื่มน้ำทั้ง 3 สายรวมกัน
หากดื่มน้ำสายที่ 1 จะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา
หากดื่มน้ำสายที่ 2 จะสมหวังเรื่องความรัก
หากดื่มน้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรงทำให้มีอายุยืนยาว
นอกจากการดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ภายในบริเวณวัดน้ำใสยังมีศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพโอคุนินุชิโนะ มิโกโตะ (Okuninushino Mikoto) ซึ่งเป็นเทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ภายในศาลเจ้าแห่งนี้จะมีก้อนหินแห่งความรัก 2 ก้อน ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร โดยเชื่อกันว่าหากใครสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนแรก ไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้โดยไม่หลงทิศทาง คนคนนั้นก็จะสมปรารถนาในความรัก
นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติทำพิธีชำระล้างก่อนจะเข้าไปในวัด
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเยือนวัดคิโยมิซุได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้บริเวณวัดคิโยมิซุจะมีความสวยงามเป็นอย่างมากในช่วงดอกซากุระผลิบานระหว่างฤดูใบไม้ผลิ ประมาณปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายนของทุกปี และอีกฤดูหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กันคือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
บริเวณทางเดินในวัดซึ่งมีความงามระหว่างฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
จากบริเวณถนนใหญ่ หรือจากป้ายรถเมล์ Kiyomizu-michi นักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องเดินต่อมาอีกประมาณ 700 เมตรจึงจะถึงตัววัด โดยเส้นทางเดินจะเป็นทางขึ้นเนินมาเรื่อยๆ นักท่องเที่ยวจึงควรสวมรองเท้าที่สามารถเดินได้อย่างสะดวกสบาย หรือใช้บริการรถแท็กซี่ในกรณีที่มีผู้สูงอายุร่วมเดินทาง
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน วัดน้ำใสมีการปิดอาคารหลัก (Main Hall) รวมถึงพื้นที่อื่นๆเพื่อทำการบูรณะซ่อมแซมยาวไปจนถึงปี ค.ศ. 2020 นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบความคืบหน้าของการบูรณะก่อนเดินทางไปเยือนวัดแห่งนี้ได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e3901.html
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดคิโยมิซุ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
(Kiyomizu Dera Temple, Kyoto, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บริเวณวัดเข้าชมฟรี และ 300 เยนสำหรับการเข้าไปในบริเวณอาคารหลัก (Main Hall)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงดอกซากุระผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ ประมาณปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
สถานที่ตั้ง : ย่านฮิกาชิยาม่า กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81)75-551-1234
เว็บไซต์ : http://www.kiyomizudera.or.jp/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต https://kyoto.travel/th
เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต http://www.kyototourism.org/en/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ