- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (5,835)
- By Webmaster
- 03:56:05 | 2 ก.พ. 2566
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
Fushimi Inari Shrine, Kyoto, Japan
เส้นทางเดินลอดเสาโทริอิที่วางเรียงติดกันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ซึ่งเป็นที่รู้จักจากเสาโทริอิจำนวนมากที่วางเรียงรายเป็นแนวยาวตั้งแต่บริเวณศาลเจ้าขึ้นไปบนเนินเขา ตั้งอยู่ที่เขตฟูชิมิ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าอินาริ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการทำกสิกรรม และชาวญี่ปุ่นยังนับถือเทพอินาริในด้านการอุปถัมภ์ค้ำชู ส่งเสริมความเจริญในการงานและการประกอบกิจกาต่างๆมานับตั้งแต่ในสมัยโบราณ จึงเป็นที่มาของการบริจาคเงินจากห้างร้านหรือบริษัทต่างๆ เพื่อสร้างเสาโทริอิจำนวนหลายพันต้น เรียงรายขึ้นไปสู่ยอดเขา ซึ่งเป็นที่สิงสถิตย์ของเทพเจ้าและจะนำพาความสิริมงคลมาให้
ประวัติความเป็นมา
พื้นที่สำหรับขอพรภายในศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 711 โดยแต่เดิมตัวศาลเจ้านั้นสร้างขึ้นบริเวณยอดเขาอินาริยามะ (Inariyama) และในปี ค.ศ. 816 ได้ทำการย้ายลงมาอยู่บริเวณเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งในปัจจุบัน โดยศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์จากองค์พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน หลังจากนั้นจึงมีการสร้างอาคารสำคัญหลายแห่งเพิ่มเติมเรื่อยมา ทั้งตัวอาคารหลักของศาลเจ้าหลังใหม่ที่สร้างในปี ค.ศ. 1499 และเสาโทริอิขนาดมหึมาบริเวณทางเข้าศาลเจ้า ซึ่งมาจากการบริจาคทุนทรัพย์จากเหล่าขุนนางและจากโทโทมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวคนสำคัญซึ่งเป็นผู้สร้างปราสาทโอซาก้า และมีส่วนในการรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวกันในยุคสงคราม
รูปปั้นสุนัขจิ้งจอกที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าศาลเจ้า
สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งนอกจากเสาโทริอิของศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริแล้ว คือ สุนัขจิ้งจอก ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ทั้งจากรูปปั้นบริเวณทางเข้าศาลเจ้า การประดับตกแต่งต่างๆ รวมไปถึงเครื่องรางที่จำหน่ายภายในศาลเจ้า และของที่ระลึกต่างๆจากร้านขายของในบริเวณนั้นซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรูปสุนัขจิ้งจอก ซึ่งทั้งหมดนี้มีที่มาจากความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกนั้นเป็นผู้นำสาร ซึ่งนำคำขอพรจากมนุษย์ไปถึงเทพเจ้าอินาริ และยังมีตำนานหลายตำนานที่เล่ากันว่าเทพเจ้าอินารินั้นมักจะปรากฏตัวในรูปของสุนัขจิ้งจอกบ่อยครั้ง
การเดินทางไปยังศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ
- รถไฟ สาย JR Nara ลงที่สถานีรถไฟ JR Inari ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 140 เยน และสาย Keihan Main Line ลงที่สถานี Fushimi Inari ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 150 เยน
- รถบัส รถบัสสาย 南5 (ไม่ใช่สาย 5) ให้บริการตั้งแต่ Kyoto Station และวิ่งผ่านศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ค่าโดยสาร 220 เยน
- รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงเกียวโตมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 590 เยนต่อ 1.7 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้น 80 เยนทุกๆระยะทาง 324 เมตร และสำหรับรถแท็กซี่ของบริษัท MK Taxi จะมีส่วนลดให้ 10% สำหรับลูกค้าที่สวมใส่ชุดกิโมโน นักท่องเที่ยวสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.taxifarefinder.com/main.php?city=Kyoto-Japan
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
เสาโทริอิขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าศาลเจ้า
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
พื้นที่ภายในศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เนืองแน่นไปด้วยผู้คนตลอดทั้งวัน
จุดเด่นของศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ คือเสาโทริอิมากมายที่วางเรียงรายขึ้นไปบนเนินเขา นักท่องเที่ยวจึงมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ยังมีการจัดเทศกาลต่างๆที่น่าสนใจตามประเพณีและความเชื่อแทบทุกเดือน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบวันเวลาของแต่ละเทศกาลได้ที่ http://inari.jp/en/rite/
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
นักท่องเที่ยวเดินชมความงามของเส้นทางเดินลอดเสาโทริอิจำนวนมาก
แนวเสาโทริอิที่ทอดยาวตั้งแต่บริเวณหลังศาลเจ้าขึ้นไปสู่ยอดเขานั้นมีความยาวรวมประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางเดินสูงขึ้นไปตามเชิงเขา และมีศาลเจ้าเล็กๆตั้งอยู่เป็นระยะ หากต้องการเดินไปตลอดทั้งเส้นทางนี้ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งปกตินักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยนิยมเดินขึ้นไปสู่ยอดเขากันมากนัก เนื่องจากความสวยงามของเสาโทริอินั้นไม่ได้แตกต่างกันมาก
เนื่องจากศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างสูง ตลอดทั้งวันจึงมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลเดินทางมาเยือนสถานที่แห่งนี้ หากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสบรรยากาศที่สงบ และบันทึกภาพแนวทางเดินของเสาโทริอิแบบปราศจากผู้คน ควรเดินทางมาเยือนศาลเจ้าตั้งแต่เช้าตรู่
ป้ายบอกทางเดินซึ่งแบ่งช่องทางขึ้นและช่องทางลง
นอกจากนี้ เส้นทางเดินบางช่วงภายในศาลเจ้าอาจมีการแบ่งเป็นสองทาง โดยเส้นทางหนึ่งสำหรับเดินขึ้น และอีกเส้นทางหนึ่งสำหรับเดินลง นักท่องเที่ยวควรเดินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ไม่ควรเดินสวนเข้าไปในเส้นทางอื่นเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการเดินชมสถานที่แห่งนี้
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เขตฟูชิมิ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81)75 -641-7331
เว็บไซต์ : http://inari.jp/en/
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต https://kyoto.travel/th
เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวแห่งเมืองเกียวโต http://www.kyototourism.org/en/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ