วัดกินคะคุจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (6,837)
  • By Webmaster
  • 04:12:19 | 2 ก.พ. 2566

วัดกินคะคุจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

Gingakuji Temple, Kyoto, Japan


Gingakuji Temple

             วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่า “วัดเงินแห่งเกียวโต” เป็นวัดในนิกายเซนถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ที่ถูกยกให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งเมืองเกียวโต และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1994


แผนที่ตั้งวัด Gingakuji Temple จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติและความเป็นมา


สวนหินภายในวัดกินคะคุจิ

             วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ซึ่งวัดกินคะคุจิเป็นวัดนิกายเซน ถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอชิกากะ โยชิมาสะ หลานชายของท่านโชกุน ที่สร้างวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าวัดทอง


ดอกซากุระที่กำลังผลิบาน

           สำหรับอาคารของวัดเงินสร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกัน เพียงแต่จะไม่ได้มีสีทอง เป็นอาคาร 2 ชั้น และมีนกฟินิกซ์อยู่บนหลังคาอาคารเช่นเดียวกัน อาณาบริเวณของวัดซึ่งอยู่บนเขายังคงสภาพความเป็นธรรมชาติป่าอย่างสมบูรณ์แบบ มีต้นไม้นานาพรรณ ในแบบสวนญี่ปุ่น เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นเย็นสบาย


สวนหินอีกมุมหนึ่งของวัดกินคะคุจิ

           ทั้งนี้ยังมีลานสวนหินทราย หรือที่เรียกว่า “Sea of Silver Sand” และกรวยหินทรายที่ถูกก่อขึ้น เรียกว่า “Moon Viewing Platform” ซึ่งจุดประสงค์ของการสร้างลานสวนหินทราย คือ เพื่อให้แสงของดวงจันทร์กระทบกับลานหินทรายในยามค่ำคืน และเมื่อแสงของดวงจันทร์กระทบกับลานหินทรายแสงที่ตกกระทบก็จะสว่างไปทั่วบริเวณหน้าอาคาร เช่นเดียวกับแสงแดดในเวลากลางวันที่กระทบกับสีเงินของหินทรายจะส่องประกายอย่างระยิบระยับไปทั่วบริเวณนั้นเช่นกัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่วัดนี้


การเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังตัวเมืองเกียวโต

             - รถไฟด่วน (Kansai International Airport Express Haruka) สายฮารุกะประจำสนามบินนานาชาติคันไซ ซึ่งมีตัวสถานีที่เชื่อมต่อกับตัวอาคารผู้โดยสารของสนามบินโดยตรง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังสถานีประมาณ 500 เมตร โดยขึ้นที่ Kansai Kuko Daiichi Terminal มุ่งตรงเข้าเมืองเกียวโตลงที่สถานี Kyoto Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยราคาตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่ง 2,770 เยน ตั๋วแบบระบุที่นั่ง 3,080 เยน


การเดินทางไปยังวัดกินคะคุจิ

             - รถไฟ จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) นั่งรถไฟสาย Kasasuma Line (สีเขียว) ลงที่สถานี Imadegawa Station เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถประจำทางสาย 203 นั่งไปลงที่ป้ายรถประจำทาง Ginkakujimae Bus Stop แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร

             - รถประจำทาง จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ให้เดินไปอีกประมาณเล็กน้อยจะเจอป้ายรถประจำทางเกียวโต (Kyoto Ekimae Bus Stop) ขึ้นรถประจำทางสาย 17 หรือ 5 นั่งไปลงที่ป้ายรถประจำทาง Ginkakujimae Bus Stop แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงวัดกินคะคุจิ


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


ทางเดินด้านหน้าวัดที่เต็มไปด้วยต้นซากุระทั้งสองข้างทาง

           เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. ทั้งนี้ในเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ จะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น.


การซื้อบัตรเข้าชม


สวนภายในวัดกินคะคุจิอีกมุมหนึ่ง

           อัตราค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน แต่สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา – มัธยมศึกษาตอนต้น อัตราค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 300 เยน


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว


ร้านขายของบริเวณด้านหน้าวัดกินคะคุจิ

           ช่วงที่เหมาะสมในการเดินทางไปท่องเที่ยวยังวัดกินคะคุจิมากที่สุด คือช่วงฤดูใบไม้ผลิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม เนื่องจากสองข้างทางจะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระที่กำลังผลิบานทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสวยงาม แต่ทั้งนี้นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางมาได้ตลอดทั้งปี


สองข้างทางเต็มไปด้วยสีชมพูจากดอกซากุระที่กำลังผลิบาน

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/


ข้อมูลที่ควรรู้


สวนหินภายในบริเวณวัด

           วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า “วัดเงิน” นั้น ถูกสร้างขึ้นมาตามต้นแบบวัดทอง (Kinkakuji Temple) โดยวัดทองเดิมทีนั้นถูกสร้างมาเพื่อเป็นบ้านพักของโชกุนอชิกากะ โยชิมิสุ (Ashikaga Yoshimitsu) และยังมีไว้เพื่อรับรองแขกระดับสำคัญ ซึ่งภายหลังที่ท่านเสียชีวิตจึงได้ยกที่พักแห่งนี้ให้กลายมาเป็นวัดในนิกายเซน ต่อมาได้กลายเป็นวัดคินคะคุจิอย่างปัจจุบัน และด้วยความงดงามตระการตาจึงกลายมาเป็นต้นแบบของวัดกินคะคุจิหรือวัดเงินที่ถูกสร้างโดยหลานชายของโชกุนในเวลาต่อมา


บรรยากาศสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ

           ทั้งนี้เอกลักษณ์ที่ทำให้วัดคินคะกุจิหรือวัดทองเป็นที่โดดเด่นในเมืองเกียวโตจนได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1994 เนื่องจาก วัดคินคะคุจิมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่งดงามด้วยอาคารสีทองทั้งหลัง การตกแต่งอย่างมีสไตล์โบราณแบบญี่ปุ่นอีกทั้งยังได้รับการผลักดันให้กลายเป็นวัดที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งที่อาคารหลายส่วนนั้นเคยถูกเผาทำลายในช่วงสงครามโอนิน (Onin)


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดกินคะคุจิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดกินคะคุจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

                       (Gingakuji Temple, Kyoto, Japan)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน แต่สำหรับนักเรียนประถม – มัธยม 300 เยน

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงฤดูใบไม้ผลิ(เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม)

                       สถานที่ตั้ง : จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

                       เว็บไซต์ : http://www.shokoku-ji.jp/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                       เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองเกียวโต https://kyoto.travel/th

                                       เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวเกียวโต http://www.kyototourism.org/en/

                                       เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เช็คตารางเวลารถ http://highway-buses.jp/fuji/

                                       เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม

หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

อ่านต่อ

หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย

อ่านต่อ

หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน

อ่านต่อ

วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม

อ่านต่อ

วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด

อ่านต่อ

น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี

อ่านต่อ

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด

อ่านต่อ

ฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์

ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ