ค้นหา :
โอลิมเปียปาร์ค เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โอลิมเปียปาร์ค (Olympiapark) ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองมิวนิค บนพื้นที่ราว 3 ตารางกิโลเมตรที่มีสภาพเป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกันไปซึ่งก่อให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงามของเนินเขาสีเขียวที่ลาดโค้งขึ้นลงท่ามกลางต้นไม้และทะเลสาบ โดดเด่นด้วยโอลิมปิกสเตเดียม (Olympic Stadium) ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลล้อมรอบด้วยอัฒจรรย์ขนาดใหญ่ที่มีหลังคาโครงเหล็กรูปทรงคล้ายเต็นท์หลายหลัง และหอชมเมืองโอลิมปิกทาวเวอร์ (Olympic Tower) ซึ่งจัดเป็นอีกสองแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของเมืองมิวนิค เพราะที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีค.ศ. 1972 มาก่อน ปัจจุบันเป็นทั้งสวนสาธารณะ ศูนย์กีฬา และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิค
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง ประเทศเยอรมนี
เมืองมิวนิค (Munich ชื่อภาษาเยอรมันคือ München) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ในพื้นที่ของรัฐบาวาเรีย (The State of Bavaria) เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศเยอรมนี รองจากเมืองเบอร์ลิน (Berlin) และเมืองแฮมเบิร์ก (Hamburg) ทางด้านสภาพภูมิประเทศตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงตอนเหนือของรัฐบาวาเรีย แม่น้ำสายหลักของเมืองคือแม่น้ำอีซาร์ (Isar River) ทางด้านสภาพภูมิอากาศในฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่น แต่จะมีอากาศร้อนจัดในช่วงกลางปีที่มีฝนตกหนัก และในฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็น โดยจะหนาวที่สุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมและมีหิมะตกในบางพื้นที่
หมู่บ้านโอเบอแรมเมอร์เกา เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
หมู่บ้านโอเบอแรมเมอร์เกา (Oberammergau Village) ตั้งอยู่ในเมืองโอเบอแรมเมอร์เกาบริเวณเทือกเขาแอมเมอร์เกาแอลป์ (Ammergau Alps) ห่างจากเมืองมิวนิคลงมาทางใต้ประมาณ 90 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีบรรยากาศทางธรรมชาติที่สวยงามของหุบเขา และยังเป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งผนังอาคารบ้านเรือนด้วยภาพเขียนทางศาสนา และวิถีชีวิตชนบท มีศิลปาชีพท้องถิ่นเป็นงานแกะสลักไม้ที่มีความสวยงามขึ้นชื่อ และเป็นสถานที่จัดแสดงอุปรากรระดับโลกที่ชื่อว่า The Passion Play ซึ่งเป็นอุปรากรที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ที่จะจัดขึ้นสิบปีต่อหนึ่งครั้ง โดยจะจัดขึ้นที่โรงละคร The Passion Play Theater ซึ่งมีผู้เข้าชมนับแสนคนจากทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ โอเบอร์แรมเมอร์เกาจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กับเมืองมิวนิคที่ควรมาแวะชมสักครั้งเมื่อมาท่องเที่ยวในบริเวณนี้
ร้านอาหารแฮ็กซินเบาเวอร์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ร้านอาหารแฮ็กซินเบาเวอร์ (Haxnbauer Restaurant / Haxnbauer im Scholastikahaus) ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ เป็นร้านอาหารเก่าแก่ในเขตเมืองเก่าที่มีอายุนับร้อยปี ปัจจุบันเป็นหนึ่งในร้านอาหารชื่อดังของเมืองมิวนิคที่ได้รับความนิยมจากชาวมิวนิคและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยอาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ Haxengrill เป็นขาหมูเยอรมันที่หมักด้วยเกลือและสมุนไพรสูตรพิเศษไว้ 24 ชั่วโมงก่อนนำไปย่างด้วยถ่านไม้บีช ขาหมูจึงมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และมีรสชาติอร่อยแบบกรอบนอกนุ่มใน ด้วยเหตุนี้ร้านอาหารแฮ็กซินเบาเวอร์จึงเป็นร้านอาหารยอดนิยมในเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวควรลองไปชิมสักครั้งเมื่อไปเยือนเมืองมิวนิค
จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ (Marienplatz) เป็นจุดแลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองมิวนิค โดดเด่นด้วยอนุเสาวรีย์พระแม่มารีทองคำความสูง 11 เมตรใจกลางจตุรัส และสถาปัตยกรรมโกธิกอันสวยงามและยิ่งใหญ่ของศาลากลางสองหลังทางด้านเหนือและด้านตะวันออก เป็นจตุรัสที่สะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมือง และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการท่องเที่ยว ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระสันตะปาปาเคยเสด็จมาเยือนถึงสามพระองค์ (สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 6 ในปีค.ศ. 1782 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ในปีค.ศ. 1980 และสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในปีค.ศ. 2006) และยังเป็นสถานที่จัดตลาดคริสต์มาสประจำปี และเป็นที่เฉลิมฉลองวันครบรอบต่างๆ ของเมือง นอกจากนี้จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ยังเป็นสถานที่ฉลองแชมป์ของสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิคอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิค
มหาวิหารเฟราเอน เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
มหาวิหารเฟราเอน (Frauenkirche) เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก และเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองมิวนิคและรัฐบาวาเรีย โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ที่มีโดมทรงหัวหอมอยู่ที่ด้านบน เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองมิวนิคที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในย่านเมืองเก่า โดยเฉพาะบริเวณจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค ด้านในมหาวิหารตกแต่งอย่างเรียบง่าย บริเวณหอคอยทิศใต้นั้นเป็นหอชมเมืองความสูงราว 99 เมตรที่สามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองมิวนิคอันน่าประทับใจ และสามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ที่อยู่กลออกไปทางทิศใต้ได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนเมืองมิวนิค
พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) และอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ (BMW Welt) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโอลิมเปียปาร์ค ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูเป็นอาคารทรงกลมสีเงินซึ่งเรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์ทรงถ้วย (the museum bowl) ส่วนอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์มีความโดดเด่นด้วยอาคารทรงนาฬิกาทรายที่ตกแต่งด้วยกระจกรูปทรงเรขาคณิต ทั้งสองอาคารอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป จัดเป็นสองแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบด้านยานยนต์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้อมูลและยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีรอบเข้าชมที่มีบรรยายภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันให้เลือกได้ตามต้องการ ผู้เข้าชมจะได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกว่าทำไมแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูถึงเป็น หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ชั้นนำของโลก นอกจากในส่วนของพิพิธภัณฑ์แล้ว ในละแวกเดียวกันยังเป็นพื้นที่ของบีเอ็มดับเบิลยูสำนักงานใหญ่ (BMW Headquarter) และฐานการผลิต BMW Group Plant อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่ไม่ควรพลาดชม
พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ และสวนลินเดอร์ฮอฟ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ และสวนลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof Palace and Park) ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้ของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) ไม่ไกลจากเมืองมิวนิค มีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมร็อคโคโค ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส ในส่วนของสวนก็ได้จำลองมาจากสวนของแวร์ซายน์เช่นกัน พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในปราสาทของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (Ludwig II of Bavaria) ที่มีความสวยงามจนกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใกล้กับปราสาทนอยชวานสไตน์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิค
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ (Munich Residence / Residenz München) ตั้งใจอยู่ใจกลางเมืองมิวนิค แต่เดิมนั้นเป็นเขตพระราชฐานของราชอาณาจักรบาวาเรียและรัฐสภาบาวาเรียในช่วงปีค.ศ. 1508 ถึง ค.ศ.1918 ปัจจุบันเป็นพระราชวังเก่าและพิพิธภัณฑ์หลวงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะการตกแต่งภายในอันวิจิตรบรรจง และของสะสมโบราณของราชวงศ์ที่เคยครองอาณาจักรบาวาเรีย โดยพระราชวังประกอบด้วยสนามหญ้า 10 สนาม และห้องจัดแสดงอีกจำนวน 130 ห้อง ในทุกรายละเอียดภายในได้สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ และศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามและล้ำค่าของอาณาจักรบาวาเรียที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งโรจน์มาก่อนในประวัติศาสตร์ของเยอรมนี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาเยือนเมืองมิวนิค
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองมิวนิค แต่เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ บริเวณพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ (Nymphenburg Palace with Marstallmuseum) พิพิธภัณฑ์เครื่องลายคราม (Nymphenburg Porcelain Museum) และบริเวณสวนของพระราชวัง (Nymphenburg Park Pavilions) ตัวพระราชวังและสวนได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม
ปราสาทนอยชวานสไตน์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ตั้งอยู่บนหน้าผาความสูง 200 เมตรเหนือพื้นหุบเขาบนเทือกเขาแอลป์ที่อยู่บริเวณตอนใต้ของประเทศเยอรมนีใกล้กับเมืองมิวนิค เป็นพระราชวังของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) ตัวปราสาทสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ (Romanesque Revival architecture) ซึ่งมีความสวยงามโอ่อ่าอลังการในแบบสถาปัตยกรรมในยุคกลาง และถอดแบบความงดงามที่บรรยายไว้ในบทประพันธ์จากอุปรากรเรื่องอัศวินหงส์ (The Swan Knight) ของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) คีตกวีเอกชาวเยอรมันในยุคนั้น และยังเป็นคีตกวีเอกคนโปรดของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 อีกด้วย ความสวยงามของปราสาทแห่งนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) นำไปเป็นต้นแบบปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่ดิสนีย์แลนด์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ปราสาทนอยชวานสไตน์จึงถูกขนานนามว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยายนับแต่นั้นมา ที่นี่จึงจัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่มีชื่อเสียงอันโด่งดัง ซึ่งนักท่องเที่ยวแทบทุกคนที่มาเยือนเมืองมิวนิคมักจะต้องแวะมาเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้
การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ และยานพาหนะประเภทต่างๆ ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ขนส่งสาธารณะในเมืองมิวนิคมีเส้นทางที่ครอบคลุมทั้งเมือง โดยมีทั้งรถไฟฟ้า (S-Bahn) และรถไฟใต้ดิน (U-Bahn) ของบริษัท DB ที่เป็นรถไฟสายหลักของประเทศเยอรมนี และยังมีรถราง (tram) และรถประจำทาง (bus) ของบริษัท MVG ซึ่งเป็นบริษัทเดินรถท้องถิ่นในเมืองมิวนิค
โบสถ์เซนต์ไมเคิล เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michael Kirche) ตั้งอยู่ในย่านจัตุรัสคาร์ลปลาทซ์และจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ แต่เดิมเป็นโบสถ์พระเยซูอิตซึ่งเป็นนิกายเก่าแก่นิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นโบสถ์คาทอลิค โบสถ์เซนต์ไมเคิลเป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเรเนซองที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ และเป็นโบสถ์ที่มีอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมในสมัยนั้นในการนำไปต่อยอดสร้างโบสถ์ต่างๆ ด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกในพื้นที่ของเยอรมนีใต้ ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม โดดเด่นด้วยไม้กางเขนขนาดใหญ่ และแท่นบูชาสูง จึงเป็นอีกหนึ่งศาสนสถานที่ควรแวะเที่ยวชมความสวยงามเมื่อไปเที่ยวเมืองมิวนิค
ตลาดวิคทัวเลียน เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ตลาดวิคทัวเลียน (Viktualienmarkt) เป็นตลาดเก่าที่เปิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ ปัจจุบันเป็นตลาดสดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองมิวนิค เพราะมีทุกอย่างให้เลือกสรร ทั้งสินค้าท้องถิ่นและสินค้านำเข้า บนพื้นที่ราว 22,000 ตารางเมตร มีแผงและร้านค้าประมาณร้อยกว่าร้าน โดยมีสินค้าวางจำหน่ายมากมาย อย่างเช่น ผัก ผลไม้ ดอกไม้ พันธุ์พืช เนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ไข่ เนย น้ำผึ้ง อาหารแปรรูป สมุนไพร เครื่องเทศ ไวน์ และชา นอกจากนี้ที่นี่ยังสะท้อนวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวมิวนิคด้วยสัญลักษณ์เสาเต้นรำเก่าแก่ ที่เรียกว่า Maibaum หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Maypole ซึ่งเป็นเสาที่ใช้ตั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม เพื่อเต้นรำเฉลิมฉลองวันแรงงาน (May Day) ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมและเก่าแก่ของประเทศแถบยุโรป
จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ (Karlsplatz) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิวนิค เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่มีชื่อเสียงของเมืองอีกแห่งหนึ่ง บริเวณจัตุรัสมีลานน้ำพุที่มักใช้เป็นจุดนัดพบ และมีจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่คือประตูเมืองเก่าที่มีชื่อว่าประตูเมืองคาร์ลสเตอร์ (Karlstor Gate) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่บริเวณกำแพงเมืองมิวนิคที่ถูกรื้อไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 นอกจากนี้ จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ยังเป็นย่านถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง และยังทอดยาวเชื่อมต่อไปยังจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองมิวนิคอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จัตุรัสคาร์ลปลาทซ์จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิค