ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ยุโรป
สนามบินนานาชาติซาบีฮา เกิคเช่น เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี ประเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสองทวีป เนื่องจากดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศตุรกีนั้นตั้งอยู่บนทวีปยุโรป และดินแดนอีกส่วนหนึ่งตั้งอยู่บนทวีปเอเชีย อิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทั้งยังเป็นเมืองสำคัญทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ จนหลายคนมักเข้าใจผิดว่าอิสตันบูลเป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ซึ่งเมืองหลวงที่แท้จริงแล้วคือกรุงอังการ่า (Ankara) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล
สนามบินนานาชาติอิสตันบูล เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี ประเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสองทวีป เนื่องจากดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศตุรกีนั้นตั้งอยู่บนทวีปยุโรป และดินแดนอีกส่วนหนึ่งตั้งอยู่บนทวีปเอเชีย อิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทั้งยังเป็นเมืองสำคัญทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ จนหลายคนมักเข้าใจผิดว่าอิสตันบูลเป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ซึ่งเมืองหลวงที่แท้จริงแล้วคือกรุงอังการ่า (Ankara) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เมืองเบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี (Germany) ชื่อทางการของประเทศคือ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Federal Republic of Germany) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีจำนวนประชากรมากที่สุดในประเทศ และมากเป็นอันดับสองของสหภาพยุโรปรองจากเมืองลอนดอน ทางด้านสภาพภูมิศาสตร์ ตัวเมืองเบอร์ลินตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่มีแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำชเปร (Spree) ตัดผ่านกลางตัวเมือง หนึ่งในสามของเมืองเป็นพื้นที่สีเขียวอย่างเช่น พื้นที่ป่า สวนสาธารณะ และแม่น้ำคูคลองต่างๆ ทางด้านสภาพภูมิอากาศ เบอร์ลินเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศดี มีฤดูร้อนที่อบอุ่น และฤดูหนาวที่ไม่รุนแรง โดยฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ถึง เดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยราว 23 องศาเซลเซียส และฤดูหนาวอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยราว 3 องศาเซลเซียส มีฝนตกเกือบตลอดปี ซึ่งช่วงที่มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดของปีคือช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม
สวนสาธารณะเทียร์การ์เทน เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
สวนสาธารณะเทียร์การ์เทน (Tiergarten) เป็นพื้นที่สีเขียวที่เปรียบเสมือนปอดของเมืองเบอร์ลิน ด้วยพื้นที่ครอบคลุมเนื้อที่ราว 210 เฮคตาร์ (1 เฮคตาร์ เท่ากับ 10,000 ตารางเมตร ดังนั้น 210 เฮคตาร์จึงเท่ากับพื้นที่ราว 2,100,000 ตารางเมตร) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าไฮด์พาร์ค (Hyde Park) ของเมืองลอนดอนเล็กน้อย เป็นสถานที่ที่ชาวเมืองนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ ขี่จักรยาน เล่นเสก็ตบอร์ด เดินเล่นชมสวน วิ่งออกกำลังกาย นั่งปิกนิกบนสนามหญ้า พายเรือ และเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในบริเวณสวนตามอัธยาศัย สวนนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างเช่น ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) เสาชัยชนะ (Victory Column) สวนสัตว์เบอร์ลิน (Berlin Zoo) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเบอร์ลิน (Aquarium Berlin)
จัตุรัสเจนดาร์เมนมาร์ค เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสเจนดาร์เมนมาร์ค (Gendarmenmarkt) จัดเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดในกรุงเบอร์ลิน และตั้งอยู่ในศูนย์กลางของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในบริเวณที่พลุกพล่านคึกคักของเมืองหลวง มีนักท่องเที่ยวมากกว่าล้านคนมาเยือนในแต่ละปี ด้วยทำเลที่นอกจากจะมีทั้งร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร ธนาคาร และห้างสรรพสินค้า และยังเป็นสถานที่รายล้อมด้วยอาคารที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยงาม เช่น อาคารจัดแสดงคอนเสิร์ต (Concert Hall) โบสถ์ฝรั่งเศส (French church) และโบสถ์เยอรมัน (German church) ให้เที่ยวชมและเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในที่จัดงานตลาดคริสต์มาส (Christmas market) ของเมืองเบอร์ลินอีกด้วย
สะพานโอเบอร์บวม เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
สะพานโอเบอร์บวม (Oberbaum Bridge / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Oberbaumbrücke) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำชเปร (Spree) มีลักษณะเป็นสะพานสองชั้น ชั้นบนเป็นทางรถไฟ ชั้นล่างสำหรับยานพาหนะทั่วไป และมีทางเท้าสำหรับคนสัญจรไปมา โดยสะพานแห่งนี้ได้เชื่อมพื้นที่เขต Friedrichshain ในฝั่งตะวันออก กับเขต Kreuzberg ในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเข้าไว้ด้วยกัน เหตุผลที่สะพานแห่งนี้นับเป็นจุดแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ลิน ไม่ใช่เพียงแค่มีทัศนียภาพอันสวยงาม และสถาปัตยกรรมของสะพานที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานประวัติศาสตร์ในช่วงการแบ่งแยกเยอรมนีอีกด้วย โดยสะพานโอเบอร์บวมเป็นเขตชายแดนที่เป็นจุดผ่านแดนระหว่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตก ซึ่งให้เฉพาะคนฝั่งตะวันตกผ่านเข้าฝั่งตะวันออกเท่านั้น และหลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินสะพานแห่งนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในเชิงเอกภาพที่เชื่อมกรุงเบอร์ลินทั้งสองฝั่งให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง