- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
- อ่าน (4,195)
- By Webmaster
- 16:09:34 | 12 พ.ย. 2562
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
Avanos Pottery Center, Nevsehir, Turkey
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส (Avanos Pottery Center / Cappadocia Underground Ceramic Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาใต้ดินที่ขุดเจาะจากหินแห่งแรกของโลก (The World’s first rock-carved underground ceramic museum) ที่จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาหรือเซรามิกร่วม 500 ชิ้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของการทำเครื่องปั้นดินเผาในเอวานอส แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาคุณภาพดีและขึ้นชื่อของประเทศตุรกีที่ทำสืบทอดกันมายาวนานกว่า 2,000 ปี
ประวัติ
นอกเหนือจากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของบรรดาหินรูปทรงแปลกประหลาดที่คัปปาโดเชียซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาที่นี่เพื่อชมภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์ สวยงาม น่าค้นหาแล้ว ที่เมือง Avanos ของคัปปาโดเชียยังมีหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าเครื่องปั้นดินเผาโบราณชั้นเยี่ยมของตุรกี และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาใต้ดินที่ขุดเจาะจากหินแห่งแรกของโลก (The World’s first rock-carved underground ceramic museum) จัดแสดงผลงานเครื่องปั้นเซรามิกร่วม 500 ชิ้น
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Avanos บริเวณ Kızılırmak (Red River) โดยอยู่ห่างจาก Goreme ราวๆ 10 กิโลเมตร ปัจจุบัน Avanos เป็นศูนย์กลางการทำเครื่องปั้นดินเผาเพียงแห่งเดียวในคัปปาโดเชีย แม้จะไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าการทำเครื่องปั้นดินเผาได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด แต่จากแหล่งข้อมูลบางแห่งพบว่าการทำเครื่องปั้นดินเผาโบราณที่นี่ได้ทำสืบทอดกันมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว โดยการทำเครื่องปั้นดินเผาในอนาโตเลียนั้นเริ่มต้นในยุคหินหรือในสหัสวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราช โดยชาวอัสซีเรีย (Assyrians) ที่มาจากเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ในช่วงสหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราชได้สอนศิลปะให้กับชาวฮิตไทต์ (Hittites)ในสมัยโบราณซึ่งก็คือชาวเอวานอสในปัจจุบัน การทำเครื่องปั้นดินเผาในยุคแรกๆ นั้นทำโดยการหล่อด้วยวิธีการพันห่อและอบด้วยไฟแบบเปิด ก่อนที่จะพัฒนามาสู่การหล่อขึ้นรูปโดยโดยแป้นหมุนและอบในเตาเผา
แม้การผลิตเครื่องปั้นดินเผาในเอวานอสมีอายุยาวนานย้อนหลังไปถึงยุคของชาวฮิตไทต์กว่า 2,000 ปีก่อนคริสตกาล และยังมีครอบครัวเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมากที่สืบสานดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งที่เป็นสมบัติทางภูมิปัญญาเหล่านี้ของชาวเอวานอสเหล่านี้ กระทั่ง Güray Tüysüz ในวัย 20 ปีซึ่งมาจากครอบครัวที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาและกระถางมาถึงห้าชั่วอายุคนในเอวานอสซึ่งมีความฝันต้องการที่จะให้มีสถานที่จัดแสดงเรื่องราวอันทรงคุณค่าของชาวเอวานอสได้ริเริ่มขุดเจาะหินใต้โรงงานเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน วันนี้จึงมีพิพิธภัณฑ์เซรามิกแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร และอยู่ลึก 15 เมตรจากพื้นดิน ทำหน้าที่เป็นสถานที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการผลิตเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่สมัยก่อนในอนาโตเลีย โดยพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอสแห่งนี้ได้เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนเมษายน ค.ศ. 2014
ทั้งนี้ แม้ว่าที่เมืองเอวานอสจะเต็มไปด้วยโรงแรมบูติกและอ่างอาบน้ำแบบตุรกี แต่เหตุผลหลักที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อเยี่ยมชมการทำเครื่องปั้นดินเผาโบราณซึ่งได้ทำสืบทอดกันมานานนับพันๆ ปี โดยนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้กระบวนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของชาวท้องถิ่นในเอวานอสผ่านการชมการสาธิตและเวิร์คช็อป รวมถึงได้ชมรหัสและตัวอักษรอันน่าอัศจรรย์ที่ถูกทักทอลงบนพรมเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่โรงงานผลิตพรมในหมู่บ้านแห่งนี้
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส หรือ พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาใต้ดินคัปปาโดเชีย
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร
ผลงานเครื่องปั้นดินเผาที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์มีทั้งหมดร่วม 500 ชิ้น
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาใต้ดินแห่งนี้อยู่ลึกถึง 15 เมตรจากพื้นดิน
เครื่องปั้นดินเผาโบราณที่เอวานอสได้ทำสืบทอดกันมานานกว่า 2,000 ปี
การทำเครื่องปั้นดินเผาในอนาโตเลียนั้นเริ่มต้นในยุคหินหรือในสหัสวรรษที่ 8 ก่อนศักราช
ที่วางผลงานที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ทำโดยการสกัดเข้าไปในผนังถ้ำสำหรับเป็นชั้นวาง
การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Neveshir
- เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเนฟเชียร์มีระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Neveshir Kapadokya Airport ที่จังหวัดเนฟเชียร์ ให้บริการ 4 – 6 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m./m/08nnz6.2019-11-01*/m/08nnz6./m/09949m.2019-11-05;c:THB;e:1;sd:1;t:f
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เนฟเชียร์ นั้นเริ่มต้นที่ 120 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้จากอิสตันบูลไปยังเนฟเชียร์จะมีรถให้บริการอยู่เพียงไม่กี่เที่ยว โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถคือ ONCU นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/sybgbd?outbound_date=2019-10-18&adults=1
- รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/
การเดินทางจากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town (Goreme)
- รถยนต์ (Car) จากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town หรือ Goreme ซึ่งเป็นศูนย์กลางของที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า บริการรถแท็กซี่ และบริษัทนำเที่ยวในคัปปาโดเชีย นั้นมีระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที
- ชัตเทิลบัส (Shuttle Bus) ที่บริเวณหน้าสนามบินมีรถชัตเทิลบัสให้บริการไปยังตัวเมือง Goreme ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที โดยรถจะพาผู้โดยสารไปส่งถึงหน้าโรงแรมของแต่ละคน ค่าโดยสาร 40 ลีราตุรกีโดยประมาณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://argeus.com/airport-transfers
การเดินทางไป Avanos Potery Center
- รถยนต์ (Car) จาก Cappadocia Old Town หรือ Goreme ไป Avanos Pottery Center มีระยะทาง 9.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 16 นาที
ทั้งนี้ วิธีเดินทางท่องเที่ยวใน Cappadocia มีอยู่ 2 วิธีหลักๆ (ส่วนการล่องบอลลูนนั้นจะเป็นกิจกรรมสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง) คือ 1. การเช่ารถขับเที่ยวเอง และ 2. การซื้อทัวร์ โดยทั่วไปโปรแกรมทัวร์ของบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการจะแบ่งเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่
Green Tour : Panorama of Goreme, Underground City, Lunch in Ihlara, Walking in Ihlara Valley, Selime Monastery, Pigeon Valley, Onyx Factory
Red Tour : Uchisar Castle, Love Valley, Goreme Open Air Museum, Pasabag Fairy Chimneys, Avanos-Pottery Demo, Lunch in Avanos, Devrent Magic Valley, Urgup Family Chimneys, Carpet Manufacturer
South Cappadocia Tour : Maskendir Valley, Red Valley, Rose Valley, Cavusin Valley, Underground City, Pigeon Valley Uchisar Castle, Panorama Love Valley
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อทัวร์ตามเส้นทางที่สนใจ โดย Avanos Pottery Center จะอยู่ในเส้นทางสายแดงที่เรียกว่า Red Tour ซึ่งราคาของทัวร์จะอยู่ที่คนละประมาณ 120 ลีราตุรกี เป็นราคาที่รวมรถรับส่งจากที่พักและอาหารกลางวันแล้ว โดยรถจะมารับที่โรงแรมที่พักในตอนเช้า เวลาประมาณ 9.00 – 9.30 น. และกลับมาส่งยังที่พักในช่วงเย็นเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมในเวลาประมาณ 16.00 – 18.00 น. ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการซื้อทัวร์มากกว่าหนึ่งเส้นทางจึงต้องไปคนละวันกัน
เวลาทำการเปิด – ปิด
วันจันทร์ – ศุกร์ เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 9.00 – 19.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 9.00 – 18.00 น.
การทำเครื่องปั้นดินเผาในยุคแรกๆ นั้นทำโดยการหล่อด้วยวิธีการพันห่อและอบด้วยไฟแบบเปิด
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Avanos Pottery Center
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Avanos Pottery Center คือให้เวลากับการชมส่วนจัดแสดงต่างๆ ที่น่าสนใจให้ครบทั้ง 3 ส่วน ได้แก่
ส่วนแรกเป็นยุคโบราณ จัดแสดงโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ดั้งเดิมจากอนาโตเลียและตะวันออกใกล้ตั้งแต่ยุคแรกจนถึงศตวรรษที่ 20 ที่ครอบครัวของ Güray ได้รวบรวมไว้ในรอบ 20 ปี ซึ่งสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดของห้องโถงเครื่องปั้นดินเผาโบราณแห่งนี้เป็นผลงานที่ย้อนกลับไปถึงยุคทองแดง (Chalcolithic) ซึ่งเป็นยุคสมัยในพัฒนาการของเทคโนโลยีมนุษย์ก่อนยุคสำริด
ส่วนที่สองเป็นยุคสมัยใหม่ จัดแสดงชิ้นส่วนจากศตวรรษที่ผ่านมาโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกและข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตและการทำงานของพวกเขา
ส่วนที่สามเป็นห้องโถงสำหรับจัดนิทรรศการหรืองานศิลปะ โดยในช่วงเช้าจะเปิดให้บริการเป็นพิพิธภัณฑ์ และในตอนเย็นจะใช้สำหรับเป็นสถานที่จัดงาน ประชุม สัมมนา คอนเสิร์ตหรือแสดงดนตรี และให้บริการดินเนอร์แบบส่วนตัว นอกจากนี้ในส่วนนี้ของพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านกาแฟและห้องสมุดซึ่งผู้เข้าชมสามารถพักผ่อนข้างเตาผิง พร้อมเพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม และอ่านหนังสือเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา
เครื่องปั้นดินเผาโบราณ
สีสันและลวดลายที่สวยงามแบบเตอร์กิช
เครื่องเคลือบในลวดลายที่เน้นโทนสีฟ้า น้ำเงิน ขาว
ภายในพิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่สำหรับสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน
สีและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับเพ้นท์ลวดลายลงบนเครื่องปั้น
บรรยากาศบางส่วนภายในพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส
ผลงานที่จัดแสดงอยู่เหล่านี้จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อด้วย แม้การเข้าชมพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอสจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ภายในนั้นมากไปด้วยสินค้าเครื่องปั้นดินเผามากมายที่พร้อมจะเรียกเงินจากกระเป๋าของนักท่องเที่ยว
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Avanos Pottery Center ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนกันยายน - ตุลาคม) ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่กลางวันสั้นและมีโอกาสเกิดฝนตก
จานชาม เครื่องปั้นเพ้นท์สีสันลวดลายสวยงามตามแบบอนาโตเลีย
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
นอกจากเที่ยวพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาใต้ดินนี้แล้ว ระหว่างการมาเที่ยวชมเมืองนี้นักท่องเที่ยวจะเห็นว่าที่เมืองเอวานอสยังมีครอบครัวที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาอยู่เป็นจำนวนมาก หากต้องการซื้อเครื่องปั้นดินเผากลับไป ให้พยายามหลีกเลี่ยงร้านจำหน่ายสินค้าเครื่องปั้นดินเผาสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากจะโดดขูดรีดในราคาที่สูงกว่าควรจะเป็น
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Avanos Pottery Center สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาเอวานอส จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
(Avanos Pottery Center, Nevsehir, Turkey)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 9.00 – 19.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 9.00 – 18.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : Yeni mahalle Dereyamanli sok No 44, Avanos, Turkey
โทรศัพท์ : (+90) 384 511 23 74
เว็บไซต์ : http://www.turkishceramics.org/Blog/58
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเกอเรเม่ https://www.goreme.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อหมู่บ้านไรเนอร์ หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านไรเนอร์ (Reine) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ที่ซ่อนความงดงามและเสน่ห์อันไม่เหมือนใคร จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน และสวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์
อ่านต่อล่องเรือชมฟยอร์ดไกแรงเกอร์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาสูงชัน น้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ด ทำให้ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนอร์เวย์
อ่านต่อ