- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- นครใต้ดินไคมักลี จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
นครใต้ดินไคมักลี จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
- อ่าน (7,025)
- By Webmaster
- 10:39:15 | 1 ธ.ค. 2566
นครใต้ดินไคมักลี จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
Kaymakli Underground City, Nevsehir, Turkey
นครใต้ดินเมืองไคมักลี (Kaymakli Underground City) หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งคือ นครใต้ดินเดอรินคุยู (Underground City Derinkuyu) เป็นนครใต้ดินที่น่าอัศจรรย์ ขึ้นชื่อและมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียนเยอะที่สุดในบรรดานครใต้ดินของคัปปาโดเชียที่มีอยู่มากมายกว่า 40 แห่ง
ประวัติ
นครใต้ดินเมืองไคมักลี ปัจจุบันเป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ถ้ำธรรมชาติใต้ดิน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดเนฟเชียร์ โดยอยู่ห่างจากเกอเรเม่ประมาณ 25 กิโลเมตร สันนิษฐานว่าช่วงแรกสร้างขึ้นเพื่อใช้หนีทหารโรมันเช่นเดียวกับเกอเรเม แต่ขยายใหญ่ขึ้นในช่วงเวลาที่ชาวเติร์กหรืออาณาจักรออตโตมัน (Ottoman Empire) เริ่มรุกราน โดยมีความลึกกว่า 10 ชั้น ความลึกที่สุดอยู่ที่ 85 เมตร โดยมีความยาวอุโมงค์รวมระยะทางได้ถึง 80 กิโลเมตร
ไม่เพียงแต่ขุดเจาะลงไปใต้ดินเท่านั้น แต่ภายในนครใต้ดินแห่งนี้ยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพแวดล้อมที่เพียบพร้อมสำหรับการดำรงชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นห้องโถง ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ โรงเรียน หลุมฝังศพ ที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ รวมถึงทางเข้าออกฉุกเฉิน นครใต้ดินแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนหลายหมื่นคนในสมัยนั้น
ด้านในของนครใต้ดินไคมักลีมีพื้นที่กว้างขวางและอากาศถ่ายเทสะดวก ทั้งหมดมี 10 ชั้นแต่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้จะมีเพียง 4 ชั้นเท่านั้น ทุกห้องของแต่ละชั้นเชื่อมต่อถึงกัน โดยด้านนอกชั้นหนึ่งเป็นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ มีหลุมใส่น้ำ อาหาร และที่สำหรับไว้ผูกสัตว์เลี้ยง ถัดลงไปแต่ละชั้นแบ่งเป็นห้องสำหรับใช้เก็บอาหาร เก็บไวน์ หลุมฝังศพ โบสถ์ และโรงเรียน เรียกว่าภายในนครใต้ดินไคมักลีนั้นมีครบทุกอย่างที่พร้อมสำหรับการดำรงชีวิต ทั้งห้องนอน ห้องส้วม หลุมตะเกียงน้ำมัน ชั้นวางของ ในครัวมีเตาสำหรับทำอาหาร มีช่องระบายควันเชื่อมต่อกับระบบระบายอากาศส่วนกลางซึ่งสามารถใช้เป็นทางเข้าออกฉุกเฉิน และมีบ่อน้ำมากถึง 200 บ่อไว้สำหรับอุปโภคและบริโภคด้วย
วิถีชีวิตของชาวนครใต้ดินมักไคลีในตอนกลางวันนั้นมักจะอาศัยอยู่ในถ้ำ พักผ่อน ทำไวน์ หมักเบียร์ และเลี้ยงสัตว์เล็กจำพวกเป็ดและไก่ เมื่อพระอาทิตย์ตกพวกเขาจะออกไปทำกสิกรรมและเก็บเกี่ยวผลผลิตมากักตุนไว้เป็นเสบียงในยามถูกข้าศึกโจมตี ความน่าอัศจรรย์ของนครใต้ดินแห่งนี้คือทุกตารางนิ้วในถ้ำที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตอยู่ ล้วนแต่สร้างขึ้นจากแรงกายของคนในสมัยก่อนกว่า 2,000 ปีมาแล้วโดยปราศจากเครื่องจักรหรือเครื่องทุ่นแรงใดๆ
ทางเดินภายในถ้ำ มีความสูงเพียงราวๆ 150 เซนติเมตรและเดินได้ทีละคน
ทางเดินภายในถ้ำ
นครไต้ดินไคมัคลีมีความลึกขนาดตึก 10 ชั้น
นครใต้ดินไคมักลีถือเป็นเมืองใต้ดินที่ลึกที่สุดใน 40 เมืองที่ขุดพบ
นครใต้ดินแห่งนี้ถูกสร้างเป็นห้องๆ ได้อย่างน่าทึ่ง โดยแต่ละห้องมีการใช้งานที่แตกต่างกัน อาทิ ห้องอาหาร โรงเรียน ห้องนอน โรงพยาบาล ฯลฯ
Stone Door เป็นหินก้อนกลมแบนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.50 เมตร หนา 50 เซนติเมตร หนัก 300 กิโลกรัม ใช้สำหรับปิดอุโมงค์ทางเดินเป็นช่วงๆ ทำหน้าที่แทนประตู และมีรูเล็กๆ ไว้สื่อสารเพื่อเตือนภัยกันในยามฉุกเฉิน
Stone Door ที่จะสามารถพบได้เป็นระยะ
ห้องต่างๆ ถูกแบ่งเป็นสัดส่วน
การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Neveshir
- เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเนฟเชียร์มีระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Neveshir Kapadokya Airport ที่จังหวัดเนฟเชียร์ ให้บริการ 4 – 6 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m./m/08nnz6.2019-11-01*/m/08nnz6./m/09949m.2019-11-05;c:THB;e:1;sd:1;t:f
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เนฟเชียร์ นั้นเริ่มต้นที่ 120 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้จากอิสตันบูลไปยังเนฟเชียร์จะมีรถให้บริการอยู่เพียงไม่กี่เที่ยว โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถคือ ONCU นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/sybgbd?outbound_date=2019-10-18&adults=1
- รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/
การเดินทางจากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town (Goreme)
- รถยนต์ (Car) จากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town หรือ Goreme ซึ่งเป็นศูนย์กลางของที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า บริการรถแท็กซี่ และบริษัทนำเที่ยวในคัปปาโดเชีย นั้นมีระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที
- ชัตเทิลบัส (Shuttle Bus) ที่บริเวณหน้าสนามบินมีรถชัตเทิลบัสให้บริการไปยังตัวเมือง Goreme ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที โดยรถจะพาผู้โดยสารไปส่งถึงหน้าโรงแรมของแต่ละคน ค่าโดยสาร 40 ลีราตุรกีโดยประมาณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://argeus.com/airport-transfers
การเดินทางไป Keymakli Underground City
- รถยนต์ (Car) จาก Cappadocia Old Town หรือ Goreme ไป Keymakli Underground City มีระยะทาง 29.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที
ทั้งนี้ วิธีเดินทางท่องเที่ยวใน Cappadocia มีอยู่ 2 วิธีหลักๆ (ส่วนการล่องบอลลูนนั้นจะเป็นกิจกรรมสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง) คือ 1. การเช่ารถขับเที่ยวเอง และ 2. การซื้อทัวร์ โดยทั่วไปโปรแกรมทัวร์ของบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการจะแบ่งเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่
Green Tour : Panorama of Goreme, Underground City, Lunch in Ihlara, Walking in Ihlara Valley, Selime Monastery, Pigeon Valley, Onyx Factory
Red Tour : Uchisar Castle, Love Valley, Goreme Open Air Museum, Pasabag Fairy Chimneys, Avanos-Pottery Demo, Lunch in Avanos, Devrent Magic Valley, Urgup Family Chimneys, Carpet Manufacturer
South Cappadocia Tour : Maskendir Valley, Red Valley, Rose Valley, Cavusin Valley, Underground City, Pigeon Valley Uchisar Castle, Panorama Love Valley
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อทัวร์ตามเส้นทางที่สนใจ โดย Keymakli Underground City จะอยู่ในเส้นทางสายสีเขียว และสีฟ้า ที่เรียกว่า Green Tour และ South Cappadocia Tour ซึ่งราคาของทัวร์จะอยู่ที่คนละประมาณ 120 ลีราตุรกี เป็นราคาที่รวมรถรับส่งจากที่พักและอาหารกลางวันแล้ว โดยรถจะมารับที่โรงแรมที่พักในตอนเช้า เวลาประมาณ 9.00 – 9.30 น. และกลับมาส่งยังที่พักในช่วงเย็นเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมในเวลาประมาณ 16.00 – 18.00 น. ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการซื้อทัวร์มากกว่าหนึ่งเส้นทางจึงต้องไปคนละวันกัน
เวลาทำการเปิด – ปิด
ฤดูร้อนนครใต้ดินเปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 8.00 – 19.00 น.
ฤดูหนาวเปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 8.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม 25 ลีราตุรกี
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Keymakli Underground City
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวนครใต้ดินไคมักลีคือการชมห้องต่างๆ ในนครใต้ดินที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน อาทิ ห้องอาหาร โรงเรียน ห้องนอน โรงพยาบาล โดยที่แต่ละห้องนั้นต่างเชื่อมถึงกัน และมีหินก้อนกลมแบนขนาดใหญ่ที่คนในสมัยก่อนยกมาไว้ใช้สำหรับปิดอุโมงค์ทางเดินเป็นช่วงๆ แทนประตู เหมือนบ้านในการ์ตูนเรื่อง The Flinstones
นักท่องเที่ยวกับบรรยากาศภายในนครใต้ดิน
ทางเดินบางช่วงนักท่องเที่ยวต้องย่อตัวจึงจะสามารถเดินลอดไปได้
นักท่องเที่ยวสนุกสนานกับการเที่ยวชมนครใต้ดินไคมักลี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Keymakli Underground City ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนกันยายน - ตุลาคม) ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่กลางวันสั้นและมีโอกาสเกิดฝนตก
ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์
นักท่องเที่ยวให้ความสนใจรับชมวิดีทัศน์เกี่ยวกับนครไต้ดินแห่งนี้
บรรยากาศโดยรอบ
ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก
บรรยากาศรอบนอกรายล้อมไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมทั่ว Keymakli Underground City โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง – 1 ชั่วโมงครึ่งอุ ทั้งนี้ โมงค์ที่ Kaymakli Underground City จะมีลักษณะยาวๆ ที่ต้องก้มเดินไปจนสุด นักท่องเที่ยวที่มีปัญหาด้านสุขภาพอาจไม่สามารถเข้าเมืองใต้ดินซึ่งเป็นที่แคบและอากาศน้อยได้
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Keymakli Underground City สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
นครใต้ดินไคมักลี จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
(Keymakli Underground City, Nevsehir, Turkey)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 25 ลีราตุรกี
เวลาเปิด – ปิด : ฤดูร้อนนครใต้ดินเปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 8.00 – 19.00 น. ฤดูหนาวเปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 8.00 – 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : Kaymaklı, Nevsehir Merkez, Nevsehir, Turkey
เว็บไซต์ : https://www.goreme.com/kaymakli-underground-city.php
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเกอเรเม่ https://www.goreme.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ