- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ล่องบอลลูนที่คัปปาโดเชีย จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
ล่องบอลลูนที่คัปปาโดเชีย จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
- อ่าน (6,118)
- By Webmaster
- 16:51:07 | 12 พ.ย. 2562
ล่องบอลลูนที่คัปปาโดเชีย จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
Balloons in Cappadocia, Nevshir, Turkey
ล่องบอลลูนที่คัปปาโดเชีย (Balloons in Cappadocia) เป็นกิจกรรมการล่องบอลลูนลมร้อนที่มีชื่อเสียง และได้รับการโหวตให้เป็นการล่องบอลลูนลมร้อนที่ดีที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง การล่องบอลลูนเหนือเมืองคัปปาโดเชียนักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามและน่าอัศจรรย์ของ “ดินแดนแห่งปล่องไฟนางฟ้า” จากมุมสูง หากมาเที่ยวมาคัปปาโดเชียแล้วพลาดการล่องบอลลูนเหนือท้องฟ้า ก็คงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่าเท่ากับยังมาไม่ถึง
ประวัติ
เมืองคัปปาโดเชีย (Cappadocia) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องของการล่องบอลลูนลมร้อน บอลลูนหลากสีลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือดินแดนซึ่งมีภูมิประเทศสวยงามไม่เหมือนที่อื่นใดคือภาพซึ่งเป็นที่จดจำอันเป็นเอกลักษณ์ของคัปปาโดเชีย ประเทศตุรกี
เมืองนี้มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือภูมิประเทศที่แปลกตา โดยพื้นที่ของเมืองคัปปาโดเชียนั้นเต็มไปด้วยแท่งหินปูนที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3 ล้านปีก่อน แล้วลาวาเหล่านั้นได้ก่อตัวเป็นชั้นแผ่นดินใหม่ โดนกระแสลมและน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นรูปกรวยคว่ำ เป็นทรงคล้ายกระโจมกระจายอยู่ทั่วไป จึงถูกขนานนามว่า “ดินแดนแห่งปล่องไฟนางฟ้า”
บอลลูนลมร้อนมีหลักการทำงานคือไอร้อนจากหัวจุดเชื้อเพลิงจะส่งให้บอลลูนลูกโตลอยสูงเหนือพื้นดิน กัปตันจะเป็นผู้บังคับบอลลูนให้ค่อยๆ ลอยตัวไปเรื่อยๆ ผ่านภูมิทัศน์แปลกตาหลายแห่ง อาทิ Devrent Valley, Red Valley, Pasabag Valley และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกหลายแห่ง โดยกัปตันจะเป็นผู้บังคับบอลลูนให้ลอยต่ำลัดเลาะไปตามซอกเขาเพื่อให้ลูกทัวร์ในกระเช้าได้ชมรายละเอียดของหินผาได้ชัดเจน ทัศนียภาพด้านบนเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจและอลังการพอๆ กับความเล็กจิ๋วของสิ่งที่อยู่เบื้องล่างเมื่อมองจากมุมสูง เรียกว่าบรรยากาศและทัศนียภาพของการล่องบอลลูนชมคัปปาโดเชียนั้นสวยงามจนใครหลายๆ คนอยากหยุดเวลาเอาไว้
ลักษณะที่เป็นมาตรฐานของการทัวร์ล่องบอลลูนที่คัปปาโดเชียโดยทั่วไปคือ มีบริการรถตู้รับ - ส่งที่โรงแรมตั้งแต่เวลาประมาณตี 4 หรือตี 5 ไปยังจุดปล่อยตัวบอลลูน ซึ่งที่จุดปล่อยบอลลูนนั้นจะมีอาหารเช้าง่ายๆ อาทิ กาแฟ ขนมปังไว้บริการ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จพอถึงเวลาประมาณ 6 โมงก็ได้เวลาขึ้นบอลลูน โดยบอลลูนแต่ละกระเช้าจะสามารถจุนักท่องเที่ยวได้ 16 - 24 คน การล่องบอลลูนนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยจะลงจอดที่พื้นในเวลาประมาณ 7 โมง การทัวร์ล่องบอลลูนนั้นจะมีธรรมเนียมการเปิดแชมเปญจน์เฉลิมฉลองเมื่อบอลลูนลงจอดและมีประกาศนียบัตรมอบให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย
ทัวร์บอลลูนมีให้บริการเกือบทุกวัน วิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับการจองทัวร์บอลลูนคือติดต่อจองผ่านโรงแรมที่นักท่องเที่ยวพักได้เลย เนื่องจากบริษัททัวร์จะได้จัดเวลาและรถมารับที่โรงแรมได้ถูกต้อง อย่างไรก็ดี แนะนำว่านักท่องเที่ยวควรวางแผนและเช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนไป เนื่องจากว่าหากช่วงไหนอากาศไม่เหมาะสมก็จะไม่สามารถขึ้นบอลลูนได้ แม้นักท่องเที่ยวจะได้รับสิทธิ์ในการที่สามารถกลับมาขึ้นบอลลูนได้ใหม่ในวันถัดไป แต่บางท่านก็อาจไม่ได้มีเวลาสำรองไว้สำหรับการท่องเที่ยวที่นานขึ้น ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบวันเวลาที่ให้บริการและแพ็คเก็จราคาทัวร์บอลลูนได้ที่ http://www.cappadociaturkey.net/cappadocia_tours.htm
บริเวณที่รถขนบอลลูนและรถรับส่งนักท่องเที่ยวจะมาจอด
โต๊ะบริการอาหารเช้าแก่นักท่องเที่ยว
ขั้นตอนการอัดลมร้อนเข้าเพื่อให้บอลลูนลอยขึ้น
บอลลูนลมร้อนมีหลักการทำงานคือไอร้อนจากหัวจุดเชื้อเพลิงจะส่งให้บอลลูนลูกโตลอยสูงเหนือพื้นดิน
นักท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ในกระเช้าบอลลูนเตรียมพร้อมสู่การลอยขึ้น
บอลลูนหนึ่งกระเช้าจุคนได้สูงสุดประมาณ 16 - 24 คน
บอลลูนลอยเหนือภูมิประเทศที่เป็นภูเขาหินของคัปปาโดเชีย
บอลลูนลูกยักษ์หลากสี
กัปตันจะเป็นผู้บังคับให้บอลลูนลอยไปเรื่อยๆ ตามทิศทางที่ควรจะเป็น
พื้นที่ของคัปปาโดเชียนั้นเต็มไปด้วยแท่งหินปูนที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3 ล้านปีก่อน
บางช่วงกัปตันจะบังคับบอลลูนให้ลอยต่ำลัดเลาะไปตามซอกเขาเพื่อให้ลูกทัวร์ในกระเช้าได้ชมรายละเอียดของหินผาได้ชัดเจน
บอลลูนลูกยักษ์หลากสีลอยล่องอยู่เหนือท้องฟ้าในยามเช้า
ปราสาทหินทรงกรวยคว่ำ
คัปปาโดเชียเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยปราสาทหินจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องไฟนางฟ้า”
กิจกรรมการล่องบอลลูนลมร้อนที่คัปปาโดเชียที่มีชื่อเสียงและได้รับการโหวตให้เป็นการล่องบอลลูนลมร้อนที่ดีที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง
การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Neveshir
- เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเนฟเชียร์มีระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Neveshir Kapadokya Airport ที่จังหวัดเนฟเชียร์ ให้บริการ 4 – 6 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m./m/08nnz6.2019-11-01*/m/08nnz6./m/09949m.2019-11-05;c:THB;e:1;sd:1;t:f
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เนฟเชียร์ นั้นเริ่มต้นที่ 120 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้จากอิสตันบูลไปยังเนฟเชียร์จะมีรถให้บริการอยู่เพียงไม่กี่เที่ยว โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถคือ ONCU นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/sybgbd?outbound_date=2019-10-18&adults=1
- รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/
การเดินทางจากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town (Goreme)
- รถยนต์ (Car) จากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town หรือ Goreme ซึ่งเป็นศูนย์กลางของที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า บริการรถแท็กซี่ และบริษัทนำเที่ยวในคัปปาโดเชีย นั้นมีระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที
- ชัตเทิลบัส (Shuttle Bus) ที่บริเวณหน้าสนามบินมีรถชัตเทิลบัสให้บริการไปยังตัวเมือง Goreme ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที โดยรถจะพาผู้โดยสารไปส่งถึงหน้าโรงแรมของแต่ละคน ค่าโดยสาร 40 ลีราตุรกีโดยประมาณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://argeus.com/airport-transfers
การเดินทางไปยังจุดปล่อยบอลลูน Balloons in Cappadocia
- รถยนต์ (Car) จาก Cappadocia Old Town หรือ Goreme ไปจุดปล่อยตัว Balloons in Cappadocia มีระยะทาง 4.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 6 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
การทัวร์ล่องบอลลูนจะใช้ระยะเวลาอยู่เหนือท้องฟ้า 1 ชั่วโมง คือระหว่างเวลาประมาณ 6.00 – 7.00 น. ทั้งนี้ จะมีรถตู้ไปรับนักท่องเที่ยวที่โรงแรมตั้งแต่เวลาประมาณตี 4 จากนั้นรับประทานอาหารเช้าที่มีไว้บริการเสร็จประมาณตี 5 ขึ้นบอลลูนเวลา 6 โมง และลงจอดที่พื้นเวลาประมาณ 7 โมง
การล่องบอลลูนใช้เวลา 1 ชั่วโมง โดยเริ่มลอยขึ้นประมาณ 6 โมงและลงจอดที่พื้นในเวลาประมาณ 7 โมง
อัตราค่าเข้าชม
ราคาตั๋วขึ้นกระเช้าบอลลูนอยู่ที่ราคา 1,000 – 1,300 ลีราตุรกี ขึ้นอยู่กับทัวร์ที่เลือก และจำนวนสมาชิกในบอลลูนแต่ละกระเช้า
ภูมิทัศน์โดยรอบ
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวล่อง Balloons in Cappadocia
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปล่องบอลลูนที่คัปปาโดเชียคือการบันทึกภาพสวยๆ ของทัศนียภาพเหนือท้องฟ้าขณะล่องบอลลูนลัดเลาะไปตามที่ต่างๆ และไม่ลืมที่จะรับประกาศนียบัตรเก็บไว้เป็นความทรงจำหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมการล่องบอลลูน
ประกาศนียบัตร
นักท่องเที่ยวชื่นชมกับประกาศนียบัตรที่ได้รับหลังเสร็จสิ้นการล่องบอลลูน
หลังบอลลูนลงจอดจะมีการเปิดแชมเปญจน์เฉลิมฉลอง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถล่องบอลลูนลมร้อนที่คัปปาโดเชีย ได้เกือบทุกวัน ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนกันยายน - ตุลาคม) ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่กลางวันสั้นและมีโอกาสเกิดฝนตก
บอลลูนลูกยักษ์ทำให้คนดูเล็กลงไปถนัดตา
แต่ละบริษัทผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนจะมีรถกระบะของตัวเองที่ขนบอลลูนมา
นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ขึ้นล่องบอลลูนแต่ต้องการชมวิวสวยๆ ของบอลลูนหลากสีที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็สามารถไปรอชมได้ที่จุดชมวิวบอลลูนจุดต่างๆ ของเกอเรเม่ได้เช่นกัน
บอลลูนลูกโตลอยต่ำลัดเลาะไปตามภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยเสาหิน
บรรยากาศอันสวยงามและสงบในยามเช้า
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
นักท่องเที่ยวควรเตรียมเครื่องแต่งกายให้พร้อมและเหมาะสมกับสภาพอากาศในช่วงฤดูที่ไป เนื่องจากอากาศในยามเช้าส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่ยังค่อนข้างหนาวเย็น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางออกจากที่พักตั้งแต่เช้ามืด ประมาณตี 4 กระทั่งเสร็จกิจกรรมในเวลาประมาณ 7 โมง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ขึ้นล่องบอลลูน แต่ต้องการชมวิวสวยๆ ของบอลลูนหลากสีที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็สามารถไปรอชมได้ที่จุดชมวิวบอลลูน ซึ่งจุดชมวิวบอลลูนนั้นมีอยู่หลายจุดด้วยกัน อาทิ Goreme Panorama เป็นจุดชมวิวบอลลูนที่สวยมากๆ แห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมี Goreme Sunset and Sunrise Viewpoint ซึ่งมีจุดชมวิวบอลลูนแบบระยะประชิดและเป็นจุดชมวิวบอลลูนที่สวยที่สุดอีกจุดหนึ่ง เดินทางสะดวกและมีระยะทางใกล้ที่สุดจากหมู่บ้าน Goreme ทั้งนี้ การไปจุดชมวิวบอลลูนต้องไปก่อนที่บอลลูนจะปล่อยคือก่อน 6 โมงเช้า
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Balloons in Cappadocia สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ล่องบอลลูนที่คัปปาโดเชีย จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
(Balloons in Cappadocia, Nevsehir, Turkey)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 1,000 – 1,300 ลีราตุรกี
เวลาเปิด – ปิด : 6.00 – 7.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : Cappadocia, Nevshir, Turkey
โทรศัพท์ : (+90) 384 271 2271
เว็บไซต์ : https://cappadoxtour.com
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเกอเรเม่ https://www.goreme.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ