ค้นหา :
มหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา (Basilica di Santa Maria Novella) เป็นมหาวิหารที่มีลวดลายฝาผนังหรือ Façade ที่งดงามที่สุดในฟลอเรนซ์และอิตาลี ฝีมือช่างสกุลฟลอเรนทีน ประดับด้วยหินอ่อนสีขาว สีเขียว และชมพูศิลปะโกธิกและเรอนาสซองส์ ภายในมีจิตรกรรม Fresco ของศิลปินชื่อดังแห่งยุคเรอนาสซองส์ตาม Chapels (โบสถ์น้อยหรือที่ฝังศพ) ของผู้มีชื่อเสียง และที่โดดเด่นคือพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน (Crucifix) ผลงานของโดเมนิโก กีร์ลันดายโย (Domenico Ghirlandaio) และฟิลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo Brunelleschi) รวมถึงภาพเขียนสี The Holy Trinity ของมาซัซโซ (Masaccio) ที่มีชื่อเสียงมาก
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ (Basilica di San Lorenzo) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและเก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีอายุกว่า 300 ปี นักท่องเที่ยวจะได้เห็นสถาปัตยกรรมภายนอกที่แม้ดูเรียบง่ายเนื่องจาก Façade ที่สวยงามไม่ได้ถูกประดับ แต่ภายในเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญในตระกูลเมดิซี โดยเฉพาะ Chapel of the Princes ที่ฝังศพแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี Cosimo III de' Medici ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนอย่างหรูหรา รวมถึงสถาปัตยกรรมภายในมหาวิหาร ห้องสมุด ห้องเก็บสมบัติเก่า และห้องเก็บสมบัติใหม่ เป็นดั่งที่รวมผลงานของยอดฝีมือทางสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมยุคเรอนาสซองส์ไว้ จึงเป็นอีกสถานที่ไม่ควรพลาดมาชมอีกแห่งหนึ่ง
มหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซันตา โกรเช (Basilica di Santa Croce) เป็นมหาวิหารที่สร้างขึ้นโดยนักบุญฟรานซิสและเป็นโบสถ์ฟรานซิสกัน (โบสถ์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักบวชคาทอลิกของนักบุญฟรานซิส) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบโดยสถาปนิกอาร์นอลโฟ ดิ แคมบิโอ (Arnolfo di Cambio) โดดเด่นด้วย 16 Chapels หรือโบสถ์น้อยสำหรับฝังศพบุคคลที่มีชื่อเสียงของเมืองฟลอเรนซ์ โดยแต่ละ Chapel มีสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และภาพจิตรกรรมศิลปะปูนเปียก (Fresco) โดยศิลปินเอกแห่งยุค ที่นี่จึงเป็นเหมือนที่รวมงานศิลปะอันทรงคุณค่าให้นักท่องเที่ยวได้มาชมอยู่มากมาย
มหาวิหารซานมาร์โค และ พิพิธภัณฑ์ซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานมาร์โค หรือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (Basilica di San Marco / St. Mark's Basilica) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสเปียซซาซานมาร์โค หรือ จตุรัสเซนต์มาร์ค (Piazza San Marco / St. Mark's Square) มหาวิหารแห่งนี้เป็นมหาวิหารประจำเมืองเวนิส ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานร่างของนักบุญซานมาร์โค หรือ นักบุญมาร์ค อัครสาวกของพระเยซูคริสต์ ที่นี่จึงเป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี เป็นศูนย์รวมใจของคริสตศาสนิกชน และเป็นแลนด์มาร์กที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานที่สวยงามล้ำค่า โดดเด่นด้วยรูปปั้นนักบุญมาร์คที่ด้านบนจั่วและสัญลักษณ์สิงโตทองมีปีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวนิส นอกจากนี้ยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ซานมาร์โค หรือ พิพิธภัณฑ์เซนต์มาร์ค (Museo di San Marco / St. Mark’s Museum) ที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ และศิลปะเชิงประวัติศาสตร์มากมายที่หาดูได้ยาก ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชม
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี (Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari) มักเรียกสั้นๆ ว่าโบสถ์ฟรารี เป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกแบบเรียบง่าย ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับจัตุรัสแคมโปเดอีฟรารี (Campo dei Frari) ในพื้นที่ของเขตซานโปโล (San Polo) สถานที่แห่งนี้เป็น ศาสนสถานเชิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุหลายร้อยปี ปัจจุบันเป็นทั้งโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก และสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานศิลปะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคริสตศาสนาจำนวนหลายชิ้น โดยเฉพาะงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับพระแม่มารี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต (Basilica di Santa Maria della Salute / Basilica of Saint Mary of Health) มักเรียกกันสั้นๆ ว่าโบสถ์ซาลูเต เป็นโบสถ์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีหลังคาโดมขนาดใหญ่ และมีรูปปั้นพระแม่มารีประดิษฐานอยู่ด้านบน มหาวิหารแห่งนี้เป็นดั่งศรัทธาของเมืองเวนิส เพราะสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระแม่มารีที่ช่วยพิทักษ์รักษาเมืองเวนิสให้รอดพ้นจากโรคระบาดในช่วงศตวรรษที่ 16 มหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงประจำเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี อีกทั้งด้วยตำแหน่งที่ตั้งของมหาวิหารที่อยู่ริมชายฝั่งติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะปันตาเดลล่าโดกานา (Punta della Dogana) ซึ่งเป็นบริเวณที่คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) และคลองจิวเดคก้า (Giudecca Canal) มาบรรจบกันที่อ่าวซันมาร์โก (San Marco Basin) เกิดเป็นความสวยงามทางธรรมชาติของสายน้ำที่มีเรือแล่นผ่านไปมาโดยมีฉากหลังเป็นมหาวิหารอันยิ่งใหญ่