ทริปนี้ Palanla จะพาทุกคนไปเที่ยวกันถึงสุดเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคอีสานตอนล่างและมีพรมแดนติดกับประเทศลาวโดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างสองประเทศเอาไว้ จังหวัดอุบลราชธานีมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามมากมาย และมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งทั้งทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งถ้ามีเวลาว่างสักสองสามวัน อยากให้ลองมาเที่ยวที่จังหวัดอุบลราชธานีดูสักครั้ง แล้วจะพบว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าไปท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก

ทุกๆ ฤดูหนาว ดอกนางพญาเสือโคร่ง (Wild Himalayan Cherry Blossom) หรือซากุระเมืองไทยจะพร้อมใจกันเบ่งบาน ย้อมพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ของภูลมโล ในเขตพื้นที่ภูหินร่องกล้า จังหวัดเลย ให้กลายเป็นสีชมพูจนได้รับฉายาว่า “หุบเขาสีชมพู” ซึ่งถือเป็นสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดในประเทศไทย

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท (Phu Prabhat Historical Park) หนึ่งในสถานที่ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดของจังหวัดอุดรธานี เพราะนอกจากรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนเทือกเขาแห่งนี้แล้ว ยังมีเสาหินและเพิงหินขนาดใหญ่ที่เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติที่กัดเซาะมาเป็นเวลาหลายล้านปีกระจายตัวอยู่ทั่วไป เป็นสภาพภูมิประเทศที่สวยงามแปลกตา

หนองประจักษ์ (Prachak Lake) หนองน้ำขนาดใหญ่มี่มีมาตั้งแต่ก่อนตั้งเมืองอุดรธานี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังของชาวอุดรมายาวนาน ว่ากันว่าถ้ามาเมืองอุดรแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปกับเป็ดเหลืองที่หนองประจักษ์ ก็เหมือนมาไม่ถึงจุดเช็คอิน

ศาลเจ้าปู่ย่า (Chao Pu-Ya Shrine) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนให้ความเคารพนับถือมายาวนาน เป็นจุดศูนย์รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ท่ามกลางสถาปัตยกรรมและบรรยากาศที่สวยงามควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม

วัดผาตากเสื้อ (Wat Pha Tak Suea) นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้วยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่ถือได้ว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งด้วย โดยเป็นจุดที่แม่น้ำจากประเทศลาวไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง แบ่งเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศพอดีเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม