ค้นหา :
ชม UNSEEN เมืองอุทัยฯ สัมผัสวิถี SLOW LIFE ริมแม่น้ำสะแกกรัง 2 วัน 1 คืน
จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจากวิถีชีวิตท้องถิ่นท่ามกลางธรรมชาติของแม่น้ำและป่าไม้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึงเมื่อต้องการมาพักผ่อนเพื่อสัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์แบบไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งหากใครพอมีเวลาอยากให้ลองมาเที่ยวอุทัยธานีดูสักครั้ง โดยวันนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปเที่ยวอุทัยธานีกันแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอุทัยธานีกันในทริปนี้
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดในภาคกลางที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แม้จะไม่ใช่เมืองหลักๆ ที่นักท่องเที่ยวจะนึกถึงนัก แต่ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม ธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชนที่เรียบง่าย ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเมืองรองที่หลายคนประทับใจ วันนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวกันยัง 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งจะมีที่ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลยค่ะ
หุบป่าตาด จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
หุบป่าตาด (Hup Pa Tat) เป็นหุบเขาที่มีสภาพเหมือนดินแดนป่าดึกดำบรรพ์และได้ชื่อว่าเป็น Unseen แห่งอุทัยธานีอีกด้วย หุบป่าตาดมีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ทอดตัวสู่ผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาดและพืชพันธุ์โบราณแปลกตาหายาก พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งอยู่ในความดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ภายในมีการจัดเส้นทางเดินชมธรรมชาติความยาวประมาณ 700 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมหินงอกหินย้อย และเดินผ่านโถงถ้ำอันมืดมิด ไปยังปลายโถงที่มีแสงสว่างส่องลงมาจากปล่องถ้ำขนาดใหญ่และพบกับป่าตาดที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในป่ายุคดึกดำบรรพ์เลยทีเดียว
แม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
แม่น้ำสะแกกรัง (Sakae Krang River) เป็นแม่น้ำสายสำคัญในจังหวัดอุทัยธานีที่ไหลผ่านพื้นที่ในสามอำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอทัพทัน และอำเภอเมืองอุทัยธานี บริเวณริมแม่น้ำเป็นจุดชมทิวทัศน์ทางธรรมชาติของลำน้ำ และวิถีชีวิตของชาวบ้านริมแม่น้ำ โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะเป็นช่วงที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งแสงอาทิตย์จะสะท้อนกับแม่น้ำเกิดเป็นทัศนียภาพอันน่างดงามประทับใจ และยังสามารถใส่บาตรได้ที่บริเวณทางเดินริมแม่น้ำใกล้กับสะพานวัดอุโบสถารามอีกด้วย
ตลาดซาวไฮ่ จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
ตลาดซาวไฮ่ (Saohai Market) เป็นตลาดเล็กๆ แนว farmer market ที่มีบรรยากาศเรียบง่ายแต่มีศิลปะในการนำเสนอ โดยเป็นการรวมกลุ่มกันของชาวไร่ชาวสวนที่ทำเกษตรอินทรีย์กับศิลปินในชุมชนเพื่อเปิดเป็นพื้นที่ขายสินค้าซึ่งมีทั้งผลิตผลทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษ และสินค้าแฮนด์เมดในแบบท้องถิ่นและแบบผสมผสานศิลปะสมัยใหม่อย่างมีสไตล์ ตลาดซาวไฮ่จะเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมและซื้อของในราคาที่ไม่แพง ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น โดยมีแผงขายสินค้ามากมาย รวมทั้งยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และมุมศิลปะสวยๆ ให้เก็บภาพความประทับใจอีกด้วย
ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง (Sakae Krang Riverside Morning Market) เป็นตลาดท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุทัยธานี ชาวบ้านจะตั้งแผงกันตั้งแต่ในช่วงเช้ามืด โดยมีสินค้าจำหน่ายมากมายไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว อาหาร ขนม ของสดต่างๆ โดยเฉพาะปลาท้องถิ่นอย่างปลาแรดที่เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดอุทัยธานี ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจึงนิยมมาจับจ่ายและซื้อหาของกินกันที่ตลาดแห่งนี้ ซึ่งนอกจากจะได้แวะชมวิวแม่น้ำและใส่บาตรยามเช้าแล้ว ตลาดเช้าแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสเน่ห์ของวิถีชีวิตชุมชนอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ (Ban Sanum Giant Tree) คือต้นเซียงยักษ์เก่าแก่อายุหลายร้อยปีที่มีขนาดเส้นรอบวงราว 40 คนโอบ และสูงประมาณ 53 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าหมากอันเขียวขจีภายในบ้านสะนำ ต้นไม้ยักษ์แห่งนี้มีความยิ่งใหญ่ และสวยงามแปลกตา โดยเมื่อไปยืนถ่ายรูปบริเวณโคนต้นจะยิ่งเห็นได้ชัดถึงความยิ่งใหญ่ ต้นไม้ยักษ์บ้านสะนำได้รับการอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดีเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติในท้องถิ่น และยังได้ชื่อว่าเป็น Unseen แห่งอำเภอบ้านไร่อีกด้วย
วัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
วัดสังกัสรัตนคีรี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 เดิมมีชื่อเรียกว่า “วัดเขาสะแกกรัง” โดยมีพระสุนทรมุนี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีเป็นผู้จัดสร้างขึ้น ตั้งอยู่บนยอดและไหล่เขาสะแกกรัง เป็นวัดที่เก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก
วัดถ้ำเขาวง จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
วัดถ้ำเขาวง ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านไร่ เป็นเขาขนาดใหญ่ ห่างจากอำเภอไป 12 กิโลเมตร ธรรมสถานเพื่อปฎิบัติธรรมที่อยู่บนเขา ลักษณะเป็นศาลาทรงไทยประยุกต์ 4 ชั้น สร้างด้วยไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมถึงไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดอยุธยา จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดลำพูน นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษ คือ ในอาคารเดียวกัน มีศาลา วิหาร กุฎิ หอระฆัง และโบสถ์เสร็จในหนึ่งเดียว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้มาชมวัดแห่งนี้ เมื่อดูเผินๆ ภายนอกจะเห็นเป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยเขาหินปูนสูงตระหง่าน เสมือนเป็นรีสอร์ทหรือที่พักสุดหรู แต่แท้ที่จริงแล้วที่นี่เป็นศาสนสถาน ที่ให้ผู้คนที่เลื่อมใสได้เข้ามาทำสมาธิ เจริญภาวนา และเคารพสักการะองค์พระพุทธรูปต่างๆ ที่ประดิษฐานอยู่โดยรอบวัด มีบ่อน้ำและสวนตกแต่งด้วยหินไม้ดัด และไม้ประดับ มูลค่าในการก่อสร้างกว่า 30 ล้านบาทเลยทีเดียว
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
"วัดจันทาราม" หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "วัดท่าซุง" เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปาก เนื่องจากในอดีตบริเวณนี้ เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญและมีการล่องซุงกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแพซุงก็มักจะแวะหยุดพักกันที่หน้าวัดนี้ และต่อจากนั้นวัดก็ไม่ได้บูรณะมานานถึง 47 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2511 พระราชพรหมยาน หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้มาริเริ่มบูรณะวัดอีกครั้ง และได้สร้างอาคารต่างๆ มากมายที่ประดับและตกแต่งอย่างวิจิตร โดยจิตรกรฝีมือดี ทำให้วัดท่าซุงแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่เลื่องชื่อในด้านความงดงาม ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของสถาปัตยกรรม ที่ถูกสร้างด้วยความประณีตตั้งอยู่ภายในวัด รวมไปถึงแรงศรัทธาต่อ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาช้านานวัดจันทารามหรือวัดท่าซุงแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดอุทัยธานีที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
วัดผาทั่ง จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
วัดผาทั่ง เริ่มก่อตั้งในปีใดไม่ปรากฏแน่ชัด แต่เดิมทีนั้น วัดผาทั่งแห่งนี้เคยตั้ง อยู่บริเวณท่าน้ำเชิงสะพานเข้าหมู่บ้าน ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ตั้งศูนย์ผ้าทอลายโบราณ บ้านผาทั่ง เนื่องจากที่ตั้งวัดเดิมนั้นคับแคบ และเป็นที่ลุ่มจึงทำให้มีน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งในราวปี พ.ศ. 2471 ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันย้ายวัดมาอยู่ที่ตั้งในปัจจุบัน ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เนื้อที่กว่า 60 ไร่ และมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของความสงบร่มรื่นภายในวัด รวมไปถึงความอลังการ ของพระพุทธรูปหลวงพ่อโต ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุทัยธานีที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดผาทั่งแห่งนี้
"วัดถ้ำเขาวง" ธรรมสถานกลางหุบเขา จ.อุทัยธานี
วัดถ้ำเขาวง ธรรมสถานเพื่อการปฎิบัติธรรมที่อยู่บนเขา มีลักษณะเป็นศาลาทรงไทยประยุกต์ 4 ชั้น สร้างด้วยไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมถึงไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดอยุธยา จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดลำพูน นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษ คือ ในอาคารเดียวกัน มีศาลา วิหาร กุฎิ หอระฆัง และโบสถ์เสร็จในหนึ่งเดียว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้มาชมวัดแห่งนี้ เมื่อดูเผินๆ ภายนอกจะเห็นเป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยเขาหินปูนสูงตระหง่าน เสมือนเป็นรีสอร์ทหรือที่พักสุดหรู แต่แท้ที่จริงแล้วที่นี่เป็นศาสนสถาน ที่ให้ผู้คนที่เลื่อมใสได้เข้ามาทำสมาธิ เจริญภาวนา และเคารพสักการะองค์พระพุทธรูปต่างๆ ที่ประดิษฐานอยู่โดยรอบวัด มีบ่อน้ำและสวนตกแต่งด้วยหินไม้ดัด และไม้ประดับ มูลค่าในการก่อสร้างกว่า 30 ล้านบาทเลยทีเดียว
ชม UNSEEN เมืองอุทัยฯ สัมผัสวิถี SLOW LIFE ริมแม่น้ำสะแกกรัง 2 วัน 1 คืน
จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจากวิถีชีวิตท้องถิ่นท่ามกลางธรรมชาติของแม่น้ำและป่าไม้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึงเมื่อต้องการมาพักผ่อนเพื่อสัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์แบบไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งหากใครพอมีเวลาอยากให้ลองมาเที่ยวอุทัยธานีดูสักครั้ง โดยวันนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปเที่ยวอุทัยธานีกันแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอุทัยธานีกันในทริปนี้
"วัดสังกัสรัตนคีรี" วัดสวยบนยอดเขาสะแกกรัง | จ.อุทัยธานี
วัดสังกัสรัตนคีรี วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง และเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวอุทัยธานี ตั้งอยู่ที่เชิงเขาสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี วัดแห่งนี้ประดิษฐาน “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” ที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือ และนิยมมากราบสักการะบูชา เพื่อขอโชคลาภ และความสำเร็จในการประกอบอาชีพ
วิหารแก้ววิจิตร...ปราสาททองอร่ามตา | วัดท่าซุง
"วัดจันทาราม" หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "วัดท่าซุง" เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปาก เนื่องจากในอดีตบริเวณนี้ เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญและมีการล่องซุงกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแพซุงก็มักจะแวะหยุดพักกันที่หน้าวัดนี้ และต่อจากนั้นวัดก็ไม่ได้บูรณะมานานถึง 47 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2511 พระราชพรหมยาน หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้มาริเริ่มบูรณะวัดอีกครั้ง และได้สร้างอาคารต่างๆ มากมายที่ประดับและตกแต่งอย่างวิจิตร โดยจิตรกรฝีมือดี ทำให้วัดท่าซุงแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่เลื่องชื่อในด้านความงดงาม ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของสถาปัตยกรรม ที่ถูกสร้างด้วยความประณีตตั้งอยู่ภายในวัด รวมไปถึงแรงศรัทธาต่อ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาช้านานวัดจันทารามหรือวัดท่าซุงแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดอุทัยธานีที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง