- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย

- อ่าน (7,056)
- ByWebmaster
- 17:49:57 | 10 พ.ย. 2560
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
Wat Chantaram (Wat Tha Sung), Uthai Thani Province, Thailand
วัดจันทารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัดอุทัยธานี
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เป็นศาสนสถานที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามทางสถาปัตยกรรม ที่ถูกสร้างด้วยความประณีตและตั้งอยู่ภายในวัด รวมไปถึงแรงศรัทธาต่อ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” ที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาช้านาน จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดอุทัยธานีที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
ประวัติความเป็นมาของวัดจันทาราม(วัดท่าซุง)
“วัดจันทาราม” หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “วัดท่าซุง” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปาก เนื่องจากในอดีตบริเวณนี้ เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญ และมีการล่องซุงกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแพซุงก็มักจะแวะหยุดพักกันที่หน้าวัดนี้ ต่อจากนั้นวัดก็ไม่ได้บูรณะมานานถึง 47 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2511 พระราชพรหมยาน หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในนาม “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” ได้มาริเริ่มบูรณะวัดอีกครั้ง และได้สร้างอาคารต่างๆ มากมายที่ประดับ และตกแต่งอย่างวิจิตร โดยจิตรกรฝีมือดี ทำให้วัดท่าซุงแห่งนี้เป็นสถานที่ทางศาสนา ที่คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมมาท่องเที่ยวและกราบสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต (สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: http://thebest.uthaithani.go.th/th/home.html)
หนึ่งในอาคารที่สร้างขึ้นอย่างประณีตภายในวัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
องค์พระประธานภายในพระอุโบสถ
บริเวณพื้นที่สักการะพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
การเดินทางไปจังหวัดอุทัยธานี
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุทัยธานี มีระยะทาง 227 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
การเดินทางไป วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
- รถโดยสารประจำทาง การเดินทางภายในจังหวัดสามารถเดินทางได้โดยใช้บริการรถสองแถว ซึ่งสามารถขึ้นรถได้ที่ ตลาดสดในเมืองอุทัยธานี และสถานีขนส่งของจังหวัดอุทัยธานี
- รถยนต์ส่วนตัว การเดินทางจาก อ.เมือง ไปยัง วัดจันทาราม(วัดท่าซุง) ด้วยระยะทาง 13.7 กิโลเมตร วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 3265 มาเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรโดยประมาณ ก็จะถึงวัดจันทาราม(วัดท่าซุง)
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสถานที่ภายในแต่ละพื้นที่ ตามเวลาดังนี้
- วิหารแก้ว 100 เมตร : ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. - 11.30 น. ช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. - 16.00 น.
- วิหารสมเด็จองค์ปฐม - มณฑปพระศรีอาริย์ : ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. - 10.30 น. ช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. - 16.00 น.
(วันเสาร์ - อาทิตย์ เปิด 09.00 น. - 16.00 น.)
- ศาลานวราช : ช่วงเช้า เวลา 08.00 น. - 10.30 น. ช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. - 16.00 น.
จุดที่น่าสนใจภายใน
- วิหารพระศรีอาริยเมตไตรย
พระศรีอาริยเมตไตรย
วิหารพระศรีอาริยเมตไตรย วิหาร 2 ชั้น ประดับด้วยกระจกรอบด้าน ชั้นบนประดิษฐานรูปหล่อเสมือนของ “พระศรีอาริยเมตไตรย” ตามความเชื่อที่ว่าจะจุติมาเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต ที่โลกจะมีแต่ความสงบสุข และพระศาสนาจะมีความรุ่งเรืองกว่าปัจจุบัน มีจุดเด่นเป็นรูปประทับยืน ทรงเครื่องเทวดา ปิดทองคำเปลวและแผ่นเงินโดยรอบ ในลักษณะปล่อยแขนลงทั้งสองข้าง โดยมือขวาถือจักร หมายถึง ธรรมจักร ใช้ในการปราบผู้ที่มีกิเลสหนา และทิฏฐิมาก ส่วนมือซ้ายถือพระขรรค์ ใช้ปราบผู้มีกิเลสน้อย มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม เหมาะแก่การเข้ามาสักการะเพื่อเป็นมงคลให้กับชีวิต
- พระวิหารสมเด็จองค์ปฐม
สมเด็จองค์ปฐม
พระวิหารสมเด็จองค์ปฐม เป็นที่ประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าพระองค์แรก โดยเมื่อปี พ.ศ. 2511 หลวงพ่อได้ทำสมาธิกรรมฐาน และได้เกิดปาฏิหาริย์ปรากฏองค์พระพุทธเจ้า หลวงพ่อจึงสร้างรูปท่าน เพื่อเป็นการสำนึกพระคุณของ สมเด็จองค์ปฐม โดยบรรยากาศด้านในยังคงตกแต่งด้วยลายแก้วที่เป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างสวยงาม
- พระยืน 30 ศอก
พระยืน 30 ศอก
พระยืนขนาดความสูง 30 ศอก หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา ประดิษฐานอยู่ที่ด้านหน้าหอพระไตรปิฏก โดยรวบรวมปัจจัยจากประชาชนที่มาร่วมทำบุญก่อสร้างอย่างล้นหลาม จึงเป็นที่มาของชื่อ “หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา” โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวว่า พระยืนองค์นี้บันดาลลาภให้กับผู้ที่มีแรงอธิษฐานที่ดี นักท่องเที่ยวจึงนิยมมากราบไหว้ขอพร เพื่อความมั่งคั่งและเป็นสิริมงคลกันเป็นจำนวนมาก
- เจดีย์พุดตาล
เจดีย์พุดตาล
เจดีย์พุดตาล เจดีย์ฐาน 8 เหลี่ยม ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ พระยืน 30 ศอก ถูกสร้างด้วยปูน ประดับด้วยลวดลายดอกพุดตาล ข้างในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และวัตถุมงคลอีกมากมาย ตลอดจนแก้วแหวนเงินทอง เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ควรค่าแก่การสักการะเป็นอย่างยิ่ง
- ปราสาททองคำ
ด้านในปราสาททองคำ
ปราสาททองคำ สร้างด้วยการประดับลวดลายไทย ปิดทองคำเปลวติดกระจก รอบปราสาท มีซุ้มพระยืน 8 ศอก ประดิษฐานตั้งอยู่บนยอดของปราสาท โดยปราสาททองคำสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ 50 โดยภายในปราสาททองคำมี 3 ชั้นด้วยกัน
ชั้นแรก เป็นอาคารสมบัติพ่อให้ โดยมีประวัติของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่างๆ ให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เข้าไปศึกษา
ปราสาททองคำชั้นที่ 1
ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 เป็นสถานที่เก็บพระพุทธรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวาย แต่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม เนื่องจากยังไม่เสร็จสมบูรณ์
- มหาวิหารแก้ว 100 เมตร
ไฮไลท์สำคัญของวัดท่าซุง คือ “มหาวิหารแก้ว 100 เมตร” วิหารสำคัญที่ด้านหน้ามีพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 ปั้นด้วยปูนปิดทองคำเปลวทั้งองค์ และป้ายพระบรมฉายาลักษณ์จารึกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ด้านในมหาวิหารแก้ว 100 เมตร
องค์พระพุทธรูปภายในวิหาร
สรีระของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ซึ่งทันทีที่เข้าไปก็จะสัมผัสได้ถึงความวิจิตรตระการตา เพราะภายในประดับด้วยกระจก และโมเสคแก้วใสแวววับ บนเพดานวิหารประดับด้วยช่อไฟระย้าทั้งขนาดเล็กและใหญ่รวมกว่า 119 ช่อ สร้างเป็นทางยาว 100 เมตร และมีเสาเรียงรายสวยงามนำสายตาไปสู่องค์พระประธาน คือ “พระพุทธชินราช” จำลอง และอีกฟากหนึ่งจะมีสรีระของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อยไว้ในโลงแก้วให้สักการะบูชา
อัตราค่าเข้าชม
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะบูชา และทำพิธีทางศาสนาพุทธอยู่เป็นประจำ จึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกฤดูกาล หากนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บภาพบรรยากาศ สามารถ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง ได้ที่เว็บไซต์ พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยววัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สำคัญทางศาสนา ดังนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่สถานที่
เวลาเปิด-ปิดของแต่ละสถานที่ในวัดท่าซุง มีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ควรศึกษาเวลาเปิด-ปิดให้ดีก่อนเข้าชม
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
(Wat Chantaram (Wat Tha Sung), Uthai Thani Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ฟรีค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 08.00 - 16.00 น.
วันเสาร์-วันอาทิตย์ 08.00 - 16.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
ตั้งอยู่ที่ : หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
โทรศัพท์ : (+66)56-502655
เว็บไซด์ : http://www.watthasung.com/home.php
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
จองตั๋วรถโดยสารประจำทาง http://www.busticket.in.th
จองตั๋วรถไฟ https://www.thairailwayticket.com/
จองตั๋วรถตู้ http://van.itthailand.net
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ
อ่านต่อ
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน
อ่านต่อ
วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) Wat Nong Pho (Wat Luang Por Derm) วัดดังอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นที่รู้จักในฐานะวัดของพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) พระเกจิชื่อดังกับมงคลของท่านคือมีดหมอ
อ่านต่อ
บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
บึงบอระเพ็ด (Bueng Borraped Swamp) บึงชื่อคุ้นหูในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นบึงทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บึงอันกว้างใหญ่แห่งนี้มีไฮไลต์คือทุ่งดอกบัวสีสันสวยงาม และบรรดานกน้ำหลากสายพันธุ์ที่มีให้ได้ชมกันอยู่โดยตลอด ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีนอพยพจากทางตอนเหนือของโลกมาอาศัยอยู่รอบบึงแห่งนี้
อ่านต่อ
ตลาดร้อยปีชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
ตลาดร้อยปีชุมแสง (Chum Saeng 100 Years Market) ชุมชนตลาดใกล้สถานีรถไฟชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี กับบรรยากาศที่ยังคงอบอวลไปด้วยความสวยงามคลาสสิก และของกินอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลอง
อ่านต่อ
พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
เมื่อมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) (King Ramathibodi 1 Monument) ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดมาสักการะปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกรุงเก่า
อ่านต่อ
11 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
จังหวัดพิษณุโลกตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ภูเขาและป่าไม้ขนาดใหญ่จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะหน้าผา น้ำตก และทุ่งดอกไม้ภายในอุทยานแห่งชาติ นอกจากนี้จังหวัดพิษณุโลกยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีว่าพื้นที่บริเวณนี้มีการตั้งรกรากมาตั้งแต่ก่อนกรุงสุโขทัย ด้วยเหตุนี้จังหวัดพิษณุโลกจึงมีโบราณสถานและวัดวาอารามเก่าแก่ให้เที่ยวชมอีกด้วย ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลกมาฝากทุกท่านกันวันนี้เพื่อเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวในวันหยุดครั้งหน้ากัน
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (Thung Salaeng Luang National Park) อุทยานฯ เก่าแก่อันดับ 3 ของประเทศ ฉายา “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” กับพื้นที่กว้างขวางครอบคลุม 2 จังหวัด อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด
อ่านต่อ
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย (Wooden Swing at Ban Suan Chom View) จุดชมวิวบนต้นไม้ที่สามารถชมวิวสวยๆ ของทิวเขาและพื้นที่ราบรอยต่อของ 5 จังหวัด
อ่านต่อ
จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย
จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ (Khao Ta Kean Ngo View Point) ฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์หรือสมรภูมิรบภูมิเขาค้อในอดีต ปัจจุบันถือเป็นจุดชมวิว 360 องศาที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์
อ่านต่อ