ค้นหา :
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ประเทศไอร์แลนด์เหนือตั้งอยู่ในทวีปยุโรปและเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์เหนือมีชื่อเสียงทางด้านภูมิประเทศที่สวยงามและทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าหลงใหล อีกทั้งยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีพิพิธภัณฑ์และสถาปัตยกรรมต่างๆ ให้เที่ยวชมมากมายโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ตามเมืองต่างๆ อย่างเช่นเมืองเบลฟาสต์ เมืองลอนดอนเดอร์รี่ และเมืองแถบชายฝั่งทะเล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ก็อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ไททานิกเบลฟาสต์ที่จัดแสดงเรื่องราวของเรือไททานิกอันโด่งดัง และไจแอนท์คอสเวย์ที่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยทาง Palanla ได้รวบรวมมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ ชายฝั่งคอสเวย์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ (National Trust Carrick-a-Rede) เป็นสะพานเชือกความยาว 20 เมตรที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ชายฝั่งกับเกาะหินคาร์ริก-อะ-รีดที่อยู่ตรงข้ามกัน ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์มหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่พร้อมกับเส้นทางผจญภัยบนสะพานเชือกที่ทอดข้ามข้ามเหวลึก 30 เมตรไปสำรวจเกาะเบื้องหน้าซึ่งเป็นที่ตั้งของกระท่อมชาวประมงเก่าแก่ที่มีอายุราวสี่ร้อยกว่าปี ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ปราสาทเบลฟาสต์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ปราสาทเบลฟาสต์ (Belfast Castle) เป็นคฤหาสน์เก่าแก่หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสกอตต์บารอนอย่างงดงาม ถือเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขาเคฟฮิลล์ในเมืองเบลฟาสต์ นอกจากปราสาทเบลฟาสต์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ เช่น งานแต่งงานและการประชุมทางธุรกิจ นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่เนินเขาที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 120 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองเบลฟาสต์จากมุมสูงอีกด้วย
ตลาดเซนต์จอร์จ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ตลาดเซนต์จอร์จ (St George’s Market) เป็นตลาดในร่มสไตล์วิคตอเรียนแห่งสุดท้ายที่ยังเปิดทำการอยู่ในเมืองเบลฟาสต์ ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงสายถึงบ่ายสอง โดยมีแผงขายอาหาร สินค้าแฮนด์เมด และสินค้าหลากหลายประเภท ท่ามกลางดนตรีสดและบรรยากาศที่คึกคัก ตลาดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองในทุกสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดเซนต์จอร์จยังได้รับรางวัลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศทางด้านผลผลิตสดใหม่ในท้องถิ่นและบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรประจำปี 2023 จาก NABMA Great British Market Awards อีกด้วย
กำแพงเมืองเดอร์รี เมืองลอนดอนเดอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
กำแพงเมืองเดอร์รี (The Derry Walls) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นกำแพงเมืองที่ยาวที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบที่เหลืออีก 30 เมืองในไอร์แลนด์อีกด้วย กำแพงเมืองเดอร์รี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำฟอยล์ มีประตูเมือง 7 ประตู ภายในกำแพงเมืองเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาท ศาลากลาง และโบสถ์ ไฮไลท์ของกำแพงเมืองแห่งนี้คือปืนใหญ่จำนวน 22 กระบอกที่เรียงรายไปตามป้อมปราการของกำแพงเมือง ปืนเหล่านี้เป็นปืนโบราณจากศตวรรษที่ 16, 17 และ 18 โดยมีปืนโรริงเมกอันโด่งดังตั้งอยู่ที่ป้อมปราการที่อยู่ใกล้ประตูบิชอป กำแพงเมืองเดอร์รี่จึงถือเป็นแหล่งมรดกที่มีความสำคัญระดับชาติและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ควรแวะเที่ยวชม
7 สถานท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์ เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียน และศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้า และการต่อเรือ ปัจจุบัน เมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันค่ะ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
กรุงสตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงของประเทศสวีเดน เมืองนี้เป็นอีกเมืองในแถบยุโรปที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันมีเอกลักษณ์ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติของท้องทะเลและหมู่เกาะต่างๆ อีกทั้งการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะก็มีความสะดวกเป็นอย่างมาก วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงสตอกโฮล์ม มาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวยุโรปกันค่ะ
13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
เอดินเบอระ เป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์ และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกในสหราชอาณาจักรที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเมืองเอดินเบอระคือการเที่ยวชมเมืองเก่า ปราสาท พระราชวัง และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรร 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเมืองเอดินเบอระมาฝากทุกท่านค่ะ
Edinburgh Bus Tours : นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ
นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ (Edinburgh Bus Tours) เป็นบริการทัวร์รอบเมืองเอดินเบอระด้วยรถบัสสองชั้นสีแดง ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ และชมแลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่ไปรอบๆ เมือง พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 9 ภาษา โดยเริ่มต้นการเดินทางที่จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ และสามารถขึ้นลงได้ถึง 13 ป้าย
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย
ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์
ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
สุสานกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
สุสานกลาสโกว์ (Glasgow Necropolis) เป็นสุสานสไตล์วิกตอเรียนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันออกของมหาวิหารกลาสโกว์ สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของคนราวห้าหมื่นคน โดยมีทั้งสุสานธรรมดาไปจนถึงสุสานที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอนุสรณ์ เช่น อนุสาวรีย์จอห์น เฮนรี อเล็กซานเดอร์ และอนุสาวรีย์ชาร์ลส์ เทนแนนต์ สุสานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสุสานไม่กี่แห่งที่เก็บบันทึกข้อมูลผู้เสียชีวิต เช่น อาชีพ อายุ เพศ และสาเหตุการเสียชีวิต ปัจจุบันสุสานกลาสโกว์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองกลาสโกว์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเยือนในแต่ละปี เพราะเป็นสุสานเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบอนุสรณ์สถานให้เที่ยวชมมากมายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสุสานแห่งนี้นั่นเอง
มหาวิหารกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
มหาวิหารกลาสโกว์ (Glasgow Cathedral) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีอายุราวหนึ่งพันปี สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญเซนต์เคนไทเกอร์ ปัจจุบันเป็นอาสนวิหารยุคกลางที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ที่รอดพ้นจากการปฏิรูปนิกายโปรเตสแตนต์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่คือการลงไปเที่ยวชมห้องใต้ดินที่เป็นสุสานของเซนต์เคนไทเกอร์ ชมธรรมาสน์ซึ่งเป็นภาพแกะสลักด้วยหินอันงดงาม และเที่ยวชมความสวยงามโดยรอบมหาวิหาร
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศสกอตแลนด์ และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ภายในบริเวณมีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของตัวอาคารขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนปราสาทยุคกลางและมีหอคอยสูงซึ่งสามารถมองเห็นได้จากในระยะไกลท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่ และยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรีอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Gallery of Modern Art (GoMA)) เป็นหอศิลป์หลักในเมืองกลาสโกว์ที่เปิดให้เข้าชมฟรี พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ดยุคแห่งเวลลิงตัน ภายในอาคารจัดแสดงผลงานของศิลปินทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนมีการจัดนิทรรศการเพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหาสังคมร่วมสมัยผ่านโครงการสำคัญปีละสองครั้ง ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่รวบรวมและจัดแสดงคอลเล็กชั่นผลงานศิลปะจากทั่วโลก และมีผู้มาเที่ยวชมแล้วกว่าล้านคน
พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เคลวินโกรฟ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เคลวินโกรฟ (Kelvingrove Art Gallery & Museum) ตั้งอยู่ภายในอาคารสไตล์บาโรกอันโอ่อ่า ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงคอลเล็กชั่นหลากหลายสาขาวิชาตั้งแต่ทางด้านชีววิทยาไปจนถึงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจจากทั่วโลก ในส่วนของหอศิลป์นั้นเป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงศิลปะยุโรปและเรอเนสซองส์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากมาย ที่นี่จึงเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและเหมาะกับทุกคนในครอบครัว
ถนนบูคานัน เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
ถนนบูคานัน (Buchanan street) เป็นถนนชอปปิงที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองกลาสโกว์ โดยเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้ามากมายทั้งร้านสินค้าแบรนด์เนมหรู และร้านค้าแบบเอาท์เล็ทต่างๆ ซึ่งมีสินค้ามากมายหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ ด้วยทิวทัศน์ของอาคารพาณิชย์สไตล์วิกตอเรียที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ถนนบูคานันจึงเป็นถนนที่มีชีวิตชีวาและน่าเดินเล่นเป็นอย่างมาก
จัตุรัสจอร์จ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
จัตุรัสจอร์จ (George Square) เป็นจัตุรัสหลักของเมืองกลาสโกว์ที่รายล้อมด้วยอาคารสำคัญของเมือง เช่น อาคารสภาเทศบาลเมืองกลาสโกว์ จัตุรัสแห่งนี้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมของเมืองตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมืองไปจนถึงงานคริสต์มาสประจำเมืองกลาสโกว์ ด้วยเอกลักษณ์ของจัตุรัสที่รายล้อมไปด้วยอาคารที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม รวมถึงรูปปั้นและอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณ ที่นี่จึงถูกใช้เป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำทีวีซีรีย์เรื่อง Outlander ในตอนที่แฟรงก์ขอแคลร์แต่งงานซึ่งเป็นฉากที่เป็นที่จดจำของแฟนซีรีย์เป็นอย่างมาก
Edinburgh Castle : ปราสาทสุดหลอนแห่งสกอตแลนด์
ปราสาทเอดินเบอระ (Edinburgh Castle) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินเบอระบริเวณเนินเขาทางด้านตะวันตก ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นที่ประทับของราชวงศ์สกอตแลนด์ รวมทั้งมีพื้นที่ของกองทหารรักษาการณ์อีกด้วย ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังเป็นโบราณสถานสำคัญที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกในฐานะเมืองมรดกโลกแห่งเอดินเบอระอีกด้วย
13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
เอดินเบอระเป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์ และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกในสหราชอาณาจักรที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเมืองเอดินเบอระคือการเที่ยวชมเมืองเก่า ปราสาท พระราชวัง และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรร 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเมืองเอดินเบอระมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อนุสาวรีย์สกอตต์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
อนุสาวรีย์สกอตต์ (The Scott Monument) เป็นแลนด์มาร์กขนาดมหึมาที่ตั้งอยู่กลางสวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดนซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักเขียนชื่อดังของสกอตแลนด์นามว่าเซอร์วอลเตอร์ สกอตต์ อนุสาวรีย์แห่งนี้มีเอกลักษณ์จากหอคอยสูงสไตล์โกธิกที่สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล ด้านบนหอคอยมีจุดชมวิวใจกลางเมืองเอดินเบอระ และด้านล่างเป็นที่ตั้งของรูปปั้นของสกอตต์และสุนัขคู่ใจของเขา
หอศิลป์แห่งชาติสกอตแลนด์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
หอศิลป์แห่งชาติสกอตแลนด์ (National Gallery of Scotland) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าชมฟรีที่น่าสนใจของสกอตแลนด์ ที่นี่เป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงคอลเล็กชันผลงานศิลปะแห่งชาติของสกอตแลนด์ตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาตอนต้นจนถึงศตวรรษที่ยี่สิบ รวมทั้งผลงานศิลปะระดับนานาชาติตั้งแต่ผลงานศิลปะของราฟาเอล เบลัซเกซ และแวร์เมียร์ ไปจนถึงโมเนต์ เซซาน และแวนโก๊ะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่คุ้มค่าต่อการเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
สวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดน เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
สวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดน (Princes Street Gardens) เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองเอดินเบอระ ซึ่งถือเป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างพื้นที่ของเมืองเก่าและเมืองใหม่ สวนแห่งนี้ได้รับการดูแลให้มีความสวยงามตลอดทั้งปี และใช้เป็นที่พบปะและพักผ่อนของชาวเมือง โดยเฉพาะบริเวณน้ำพุรอส (Ross Fountain) ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่เป็นแลนด์มาร์กของสวนสาธารณะแห่งนี้ นอกจากนี้สวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดนยังเป็นสถานที่จัดงานคริสต์มาสประจำเมืองเอดินเบอระในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีอีกด้วย
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เป็นรูปปั้นหมาที่เป็นแลนด์มาร์กเล็กๆ ของเมือง แต่มีเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่สร้างความซาบซึ้งใจให้กับชาวเอดินเบอระ หมาบ็อบบี้เป็นหมาพันธุ์สกายเทอร์เรียที่เจ้าของเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันในปีค.ศ.1858 และในทุกๆ วันหมาบ็อบบี้ก็จะมาเฝ้าหลุมศพของเจ้านายอันเป็นที่รักของมันด้วยความภักดี มันทำเช่นนี้อยู่เป็นเวลา 14 ปีจนเสียชีวิตลง และร่างของมันก็ได้รับการฝังไว้เป็นกรณีพิเศษที่สุสานเดียวกันกับเจ้าของ อีกทั้งยังมีการสร้างรูปปั้นนี้ไว้ใกล้กับสุสานเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเจ้าบ็อบบี้ หมาผู้ซื่อสัตย์แห่งเมืองเอดินเบอระ
มหาวิหารเซนต์ไจลส์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
มหาวิหารเซนต์ไจลส์ (St Giles’ Cathedral) เป็นมหาวิหารเก่าแก่กลางย่านเมืองเก่าที่มีอายุราว 900 ปี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกอย่างงดงาม ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์มาหลายยุคหลายสมัย นอกจากความเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์ของมหาวิหารแห่งนี้แล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือภายในยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ธิสเซิลอีกด้วย ซึ่งภายในโบสถ์ธิสเซิลนี้ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าเที่ยวชม นอกจากนี้มหาวิหารเซนต์ไจลส์ยังได้รับการขนามนามว่าเป็นมหาวิหารที่สวยที่สุดในเมืองเอดินเบอระอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ (National Museum of Scotland) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินเบอระ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในจัดแสดงเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งของสกอตแลนด์เองและจากทั่วทุกมุมโลก ผู้เข้าชมจะได้ค้นพบความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ตื่นตาตื่นใจกับงานศิลปะ การออกแบบ และแฟชั่นอันวิจิตรงดงามจากหลายศตวรรษ รวมทั้งได้ศึกษาเที่ยวชมตั้งแต่สิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดไปจนถึงเทคโนโลยีทางอวกาศสุดล้ำ และนวัตกรรมตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
พระราชวังโฮลีรูด เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
พระราชวังโฮลีรูด (Palace of Holyroodhouse) เป็นพระราชวังที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษเมื่อเสด็จมาพำนักที่สกอตแลนด์ โดยคำว่า Holyrood มาจากคำว่า Haly Ruid ในภาษาสกอตที่แปลว่ากางเขนศักดิ์สิทธิ์อาคารปราสาทมีอายุหลายร้อยปี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมคลาสสิกดั้งเดิม โดดเด่นด้วยหอคอยทรงกระบอกที่มีหลังคาเหมือนหมวกยอดแหลม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเอดินเบอระที่น่าจะถูกใจผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในยุโรป
ปราสาทเอดินเบอระ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
ปราสาทเอดินเบอระ (Edinburgh Castle) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินเบอระบริเวณเนินเขาทางด้านตะวันตก ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นที่ประทับของราชวงศ์สกอตแลนด์ รวมทั้งมีพื้นที่ของกองทหารรักษาการณ์อีกด้วย ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังเป็นโบราณสถานสำคัญที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกในฐานะเมืองมรดกโลกแห่งเอดินเบอระอีกด้วย
นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ (Edinburgh Bus Tours) เป็นบริการทัวร์รอบเมืองเอดินเบอระด้วยรถบัสสองชั้นสีแดง ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ และชมแลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่ไปรอบๆ เมือง พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 9 ภาษา โดยเริ่มต้นการเดินทางที่จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ และสามารถขึ้นลงได้ถึง 13 ป้าย
ถนนวิกตอเรีย และ ตลาดแกรสมาร์เก็ต เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
ถนนวิกตอเรีย (Victoria Street) เป็นถนนที่อยู่ใจกลางย่านเมืองเก่าเอดินเบอระ สองข้างทางเรียงรายด้วยอาคารเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์และหน้าร้านสีสันสดใส เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้และที่นี่ยังเป็นจุดกำเนิดของซีรีย์แฮร์รี่ พอตเตอร์อีกด้วย เพราะเป็นย่านที่เจ.เค.โรว์ลิ่งเคยอาศัยอยู่ขณะที่เขียนหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ร้านกาแฟในย่านนี้ กล่าวกันว่าตรอกไดแอกอนได้แรงบันดาลใจมาจากถนนเส้นนี้ โดยเฉพาะบริเวณหัวโค้งที่เชื่อมต่อกับทางไปตลาดแกรสมาร์เก็ต ซึ่งหากใครเป็นแฟนซีรีย์แฮร์รี่ พอตเตอร์แล้วล่ะก็ ที่นี่ก็มีทัวร์ชมถนนและอาคารร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ ให้บริการด้วยเช่นกัน ใกล้กันเป็นที่ตั้งของตลาดแกรสมาร์เก็ต (Grassmarket) ซึ่งเป็นย่านชอปปิงที่เรียงรายด้วยอาคารร้านค้า และจะมีการตั้งแผงตลาดนัดทุกวันเสาร์
ถนนเมืองเก่ารอยัลไมล์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
ถนนเมืองเก่ารอยัลไมล์ (Royal Mile – Edinburgh Old Town) เป็นถนนสายหลักในย่านเมืองเก่าที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน เพราะมีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมของอาคารเก่าแก่ที่เรียงรายอยู่สองข้างทางซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของถนนเส้นนี้ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ของเมืองเอดินเบอระอีกด้วยเพราะเคยเป็นถนนที่ราชวงศ์สกอตแลนด์ใช้เป็นเส้นทางเสด็จเมื่อในอดีต นอกจากนี้ ถนนเส้นนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพราะสามารถเดินไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้ และยังเป็นถนนที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟหลักของเมืองอีกด้วย
จุดชมวิวเขาคาลตัน เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
จุดชมวิวเขาคาลตัน (Calton Hill) เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของเมืองเอดินเบอระ เพราะจากชุดชมวิวบนเขาสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเอดินเบอระได้แบบพาโนรามา ท่ามกลางอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่กระจายตัวอยู่บนเขา เช่น อนุสาวรีย์แห่งชาติสกอตแลนด์ และอนุสาวรีย์เนลสัน ที่มีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้เขาคาลตันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก จุดชมวิวบริเวณนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มีความสวยงามน่าประทับใจอีกแห่งหนึ่งของเมืองอีกด้วย
จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ (St.Andrew Square) เป็นจัตุรัสที่เป็นสวนสาธารณะขนาดย่อม บริเวณใจกลางจัตุรัสโดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์เมลวิลล์ที่มีลักษณะเป็นเสาหินสูงทรงกลมซึ่งมองเห็นได้จากในระยะไกล รอบอนุสาวรีย์ล้อมรอบด้วยสวนอันร่มรื่นและสนามหญ้ากว้าง พื้นที่โดยรอบจัตุรัสเซนต์แอนดรูว์เป็นย่านการค้าที่มีความคึกคักเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่งของเมืองเอดินเบอระ เพราะเต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และจุดบริการทัวร์รถบัสชมเมือง อีกทั้งยังใกล้กับสถานีรถไฟที่เชื่อมระหว่างเมืองและสนามบินอีกด้วย
The Stockholm Palace : พระราชวังหลวงที่งดงามที่สุดในยุโรป
พระราชวังสตอกโฮล์ม (Stockholm Royal Palace) เป็นพระราชวังเก่าแก่ของประเทศสวีเดนที่ยังใช้เป็นที่ทรงงานของราชวงศ์ในพิธีการสำคัญต่างๆ และเป็นหนึ่งในพระราชวังสำคัญของยุโรปอีกด้วย พระราชวังแห่งนี้มีอายุราวห้าร้อยปี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกอย่างงดงาม พื้นที่ส่วนหนึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม เช่น พื้นที่ของบัลลังก์ ห้องโถง ห้องรับรอง ห้องจัดเลี้ยง รวมทั้งโซนนิทรรศการที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ เช่น ฉลองพระองค์ และเครื่องเรือนโบราณต่างๆ นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือการชมขบวนพาเหรดของทหารและการเปลี่ยนเวรยามประจำวัน
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงสตอกโฮล์มประเทศสวีเดน
กรุงสตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงของประเทศสวีเดน เมืองนี้เป็นอีกเมืองในแถบยุโรปที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันมีเอกลักษณ์ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติของท้องทะเลและหมู่เกาะต่างๆ อีกทั้งการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะก็มีความสะดวกเป็นอย่างมาก วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงสตอกโฮล์ม มาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวยุโรปกันในบทความนี้
สกายวิว กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
สกายวิว (Skyview) เป็นจุดชมวิวกรุงสตอกโฮล์มที่น่าตื่นตาตื่นใจ จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่บนด้านบนสุดของอาคารลูกโลกซึ่งเป็นอาคารทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไฮไลท์ของที่นี่คือการขึ้นไปยังจุดชมวิวด้วยลิฟต์แก้วหรือที่เรียกว่ากอนโดล่าที่ติดตั้งไว้หน้าอาคาร จุดชมวิวด้านบนสามารถชมวิวหมู่เกาะสตอกโฮล์มได้รอบทิศ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของกรุงสตอกโฮล์ม เพราะนอกจากจะได้ชมทัศนียภาพเมืองจากมุมสูงแล้ว ยังได้ชมสถาปัตยกรรมอันทันสมัยของอาคารอีกด้วย
ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮล์ม กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮล์ม (Stockholm City Hall) เป็นอาคารเก่าแก่ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของกรุงสตอกโฮล์ม ที่นี่มีเอกลักษณ์จากหอคอยสูงที่จะเปิดให้ขึ้นชมได้ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น โดยบริเวณด้านบนหอคอยสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามจากใจกลางกรุงสตอกโฮล์มได้แบบพาโนรามา และยังสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมและประติมากรรมต่างๆ ได้โดยรอบอาคารอีกด้วย
มหาวิหารสตอกโฮล์ม กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
มหาวิหารสตอกโฮล์ม (Stockholm Cathedral) เป็นมหาวิหารเก่าแก่นิกายลูเธอรันที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ตัวมหาวิหารตั้งตระหง่านอยู่ใกล้กับพระราชวังสตอกโฮล์มซึ่งสามารถมองเห็นได้จากริมฝั่ง ภายในยังคงการตกแต่งเดิมเอาไว้ นอกจากจะใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางคริสต์ศาสนาแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุในช่วงยุคกลาง เช่น รูปปั้นเซนต์จอร์จและมังกร และประติมากรรมโจเซฟแอนด์แมรี่ อีกด้วย มหาวิหารสตอกโฮล์มจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของกรุงสตอกโฮล์มที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก
พิพิธภัณฑ์วาซา กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
พิพิธภัณฑ์วาซา (Vasa Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรือเดินทะเลโบราณ ชื่อของพิพิธภัณฑ์ตั้งตามชื่อเรือวาซาซึ่งเป็นเรือรบที่ล่มและจมลงในปีค.ศ.1628 และเป็นเพียงเรือลำเดียวในยุคนั้นที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์และเก็บรักษาเอาไว้ที่นี่ ด้วยเหตุนี้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสแกนดิเนเวีย เพราะเป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงเรือเดินสมุทรโบราณในยุคต่างๆ ที่หาชมได้ยาก รวมมีการจัดแสดงทั้งประวัติและวิวัฒนาการของเรือแบบต่างๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
พิพิธภัณฑ์นอร์ดิก กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
พิพิธภัณฑ์นอร์ดิก (Nordic Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวีเดน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตและผู้คนในภูมิภาคนอร์ดิกอย่างหลากหลาย รวมทั้งเป็นสถานที่เก็บรักษาคอลเลกชั่นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าต่างๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวนอร์ดิกตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์นอร์ดิกยังได้รับรางวัล European Museum of the Year Awards 2022 อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของกรุงสตอกโฮล์มที่ไม่ควรพลาด
พิพิธภัณฑ์แอ็บบา กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
พิพิธภัณฑ์แอ็บบา (Abba The Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวของวงแอ็บบา วงดนตรีป๊อบสัญชาติสวีเดนที่เคยโด่งดังระดับโลก สมาชิกในวงประกอบด้วย Benny Andersson, Bjorn Ulvaeus, Agnetha Faltskog และ Anni-Frid Lyngstad วงแอ็บบามีเพลงฮิตครองชาร์ตยุโรปในช่วงยุค70-80 อยู่หลายเพลง เช่น Dancing Queen, Take A Chance On Me และ Mamma Mia พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวงแอ็บบา โดยจัดแสดงในรูปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่นักท่องเที่ยวสามารถลองชุด ร้องเพลง เล่นเกม และจำลองการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
พระราชวังสตอกโฮล์ม กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
พระราชวังสตอกโฮล์ม (Stockholm Royal Palace) เป็นพระราชวังเก่าแก่ของประเทศสวีเดนที่ยังใช้เป็นที่ทรงงานของราชวงศ์ในพิธีการสำคัญต่างๆ และเป็นหนึ่งในพระราชวังสำคัญของยุโรปอีกด้วย พระราชวังแห่งนี้มีอายุราวห้าร้อยปี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกอย่างงดงาม พื้นที่ส่วนหนึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม เช่น พื้นที่ของบัลลังก์ ห้องโถง ห้องรับรอง ห้องจัดเลี้ยง รวมทั้งโซนนิทรรศการที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ เช่น ฉลองพระองค์ และเครื่องเรือนโบราณต่างๆ นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือการชมขบวนพาเหรดของทหารและการเปลี่ยนเวรยามประจำวัน
ดรอทนิงกาตัน กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
ดรอทนิงกาตัน (Drottninggatan) เป็นถนนคนเดินสายหลักที่อยู่ทางเหนือของกรุงสตอกโฮล์ม มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร สองข้างทางเรียงรายไปด้วยอาคารร้านค้า และยังเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า Ahlens City ซึ่งเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดสวีเดน นอกจากนี้ ยังมีสินค้าหลากหลายแบรนด์ให้ชอปปิง รวมทั้งแบรนด์ดังของสวีเดนอย่าง H&M ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกอีกด้วย ดรอทนิงกาตันเป็นย่านที่คึกคักตลอดทั้งปี แต่จะคึกคักที่สุดในช่วงฤดูร้อนราวเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม
จุดชมวิวสะพานสเกปส์โฮลเมน กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
จุดชมวิวสะพานสเกปส์โฮลเมน (Skeppsholmen Bridge View Point) อยู่บนสะพานสเกปส์โฮลเมนที่ทอดข้ามจากเขตบลาซีโฮลเมน (Blasieholmen) ไปยังเกาะสเกปส์โฮลเมน (Skeppsholmen) ไฮไลท์ของสะพานแห่งนี้คือมงกุฎสีทองขนาดใหญ่ที่ประดับอยู่ช่วงกลางสะพาน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวกรุงสตอกโฮล์มซึ่งจะมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของอาคารและสิ่งปลูกสร้างริมฝั่งได้ในมุมกว้าง โดยจะมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
คังสแตรดการ์เดน กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
คังสแตรดการ์เดน (Kungstradgarden) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางกรุงสตอกโฮล์ม มีเอกลักษณ์จากความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ที่เรียงรายขนาบสองข้างทางเดิน ต้นไม้เหล่านี้คือต้นลินเด็นและต้นซากุระ ทำให้สวนแห่งนี้เป็นจุดชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ภายในสวนยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ น้ำพุ โรงน้ำชา และจตุรัสขนาดย่อมที่ใจกลางโดดเด่นด้วยพระบรมรูปกษัตริย์คาร์ลที่สิบสามซึ่งเป็นบริเวณที่จัดเทศกาลสเก็ตน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาวของทุกปีอีกด้วย
กัมลาสแตน กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
กัมลาสแตน (Gamla Stan) คือย่านเมืองเก่าของกรุงสตอกโฮล์ม มีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็กที่มีบรรยากาศพลุกพล่าน เอกลักษณ์ของกัมลาสแตนคืออาคารเก่าแก่สีสันสดใสที่สร้างขึ้นในช่วงยุคกลาง พื้นที่บริเวณเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น มหาวิหาร พิพิธภัณฑ์ และพระราชวังหลวง ในบริเวณกลางเกาะเป็นที่ตั้งของจัตุรัสขนาดย่อมที่มีความเก่าแก่ที่สุดของกรุงสตอกโฮล์ม นอกจากนี้ตามตรอกซอกซอยยังเต็มไปด้วยอาคารร้านค้าต่างๆ ให้เดินเที่ยวชมอีกด้วย
Binnenhof : อาคารรัฐสภาเก่าแก่ที่สุดในโลก
บินเนนฮอฟ (Binnenhof) เป็นอาคารรัฐสภาของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเฮก บินเนนฮอฟเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ และเป็นสำนักงานของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ที่ใช้ในการประชุมในวาระต่างๆ ตัวอาคารของบินเนนฮอฟสร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยสไตล์โกธิค รอบนอกมีบึงน้ำขนาดใหญ่ และตกแต่งด้วยสวนอย่างร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งจุดชมเมืองและจุดถ่ายภาพของกรุงเฮกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
กังหันลมแอเดรียน (1779) เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
กังหันลมแอเดรียน (1779) (Windmill De Adriaan (1779)) เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ริมแม่น้ำสปาร์เนอร์ และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย กังหันลมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1779 ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมีการบูรณะซ่อมแซมให้ใช้งานได้จริงอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน ภายในอาคารด้านล่างของกังหันลมเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการกังหันลมที่น่าสนใจ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวความสวยงามริมแม่น้ำจากระเบียงอาคารด้านบนได้อีกด้วย
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม (Town Hall Haarlem) เป็นอีกหนึ่งอาคารเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณจัตุรัสตลาดกลางของเมืองฮาร์เลม อาคารแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีและยังใช้เป็นที่ทำการปกครองเมืองฮาร์เลมอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพสวยๆ ของเมือง และหากมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่อีกด้วย
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม (St. Bavo Haarlem) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างวิจิตรงดงาม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาร์เล็มใกล้กับจตุรัสตลาดกลาง และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ภายในประดับด้วยกระจกสี ภาพเขียน และโบราณวัตถุต่างๆ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองฮาร์เลม
จัตุรัสตลาดกลาง เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
จัตุรัสตลาดกลาง (Grote Markt) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับมหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลมและศาลากลางเมืองฮาร์เลม บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเพราะรายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินถึงกันได้ บริเวณจัตุรัสตลาดกลางจะเปิดเป็นตลาดนัดในวันเสาร์โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น อาหาร ขนม ผักผลไม้ ดอกไม้ และของใช้ทั่วไป นอกจากการเดินชมตลาดแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย
บ้านลูกบาศก์ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับศิลปะการออกแบบภายในที่น่าสนใจ มีลักษณะเป็นบ้านทรงลูกบาศก์ที่ตั้งเอียงอยู่บนเสาทรงหกเหลี่ยม ด้านในแสดงให้เห็นถึงการออกแบบห้องต่างๆ และการจัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าและลงตัวเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมืองตามแนวคิดของ Piet Blom ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบ้านลูกบาศก์เหล่านี้
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน (Grote of Sint-Laurenskerk) เป็นโบสถ์ประจำเมืองรอตเตอร์ดัม สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคที่ผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าห้าร้อยปี โดดเด่นด้วยหอคอยสูงที่ด้านบนประดับด้วยนาฬิกา บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยสนามหญ้าและสวนอันร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยทางโบสถ์จะเปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนหอคอยได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี
สะพานอีรามัส เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สะพานอีรามัส (Erasmus Bridge) หรือสะพานหงส์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองรอตเตอร์ดัม สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ด้านบนขึงด้วยสายเคเบิลทอดข้ามแม่น้ำ Nieuwe Maas เพื่อเชื่อมพื้นที่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของเมืองรอตเตอร์ดัมเข้าไว้ด้วยกัน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถชมวิวสะพานและแม่น้ำได้แบบพาโนรามา เป็นจุดแวะเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
สถานีรอตเตอร์ดัมบลาค เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สถานีรอตเตอร์ดัมบลาค (Rotterdam Blaak) เป็นสถานีรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่มีเส้นทางวิ่งภายในเมืองรอตเตอร์ดัม และระหว่างเมืองต่างๆ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ อาคารสถานีออกแบบอย่างทันสมัย โดยมีลักษณะเหมือนจานที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 เมตรที่มีโครงหลังคาตาข่ายโค้งอยู่ด้านบน เป็นอีกหนึ่งสถานีของเนเธอร์แลนด์ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแปลกตา และเป็นอีกหนึ่งมุมแวะถ่ายภาพสวยๆ เมื่อเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองรอตเตอร์ดัม
สถานีกลาง เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สถานีกลาง (Central Station) เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองรอตเตอร์ดัมที่มีความพลุกพล่านอันดับต้นๆ ของเนเธอร์แลนด์ โดยมีผู้โดยสารเฉลี่ยราวหนึ่งแสนคนต่อวันเลยทีเดียว เนื่องจากมีเส้นทางรถไฟที่ครอบคลุมเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศภายในยุโรป นอกจากสถานีกลางจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเมืองแล้ว ที่นี่ยังเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มีลักษณะเป็นอาคารทรงสามเหลี่ยม และภายในยังมีศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว รวมถึงร้านค้าและร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
รอตเตอร์ดัมเซ็นทรัล เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
รอตเตอร์ดัมเซ็นทรัล (Rotterdam Central) เป็นย่านชอปปิงของเมืองรอตเตอร์ดัมที่อยู่ใจกลางเมือง พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และอาคารสำนักงาน ย่านชอปปิงบริเวณนี้มีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อและสามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย อีกทั้งยังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายเพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
มาร์เก็ตฮอล เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
มาร์เก็ตฮอล (Markthal) เป็นอาคารที่มีรูปทรงคล้ายเกือกม้าขนาดใหญ่ ภายในมีทั้งที่อยู่อาศัย สำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ชั้นใต้ดิน ไฮไลต์ของมาร์เก็ตฮอลอยู่ที่ผลงานศิลปะที่ชื่อว่า Hoorn des Overvloeds ซึ่งเป็นภาพขนาดใหญ่ของผักผลไม้สีสันสดใสภายใต้หลังคาโค้งของอาคารที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
พระราชวังสันติภาพ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
พระราชวังสันติภาพ (Peace Palace) เป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของกรุงเฮก พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมนีโอเรเนซองอย่างงดงามและโดดเด่นด้วยหอคอยสูง ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นบัลลังก์แห่งกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลโลก และสถาบันกฎหมายระหว่างประเทศแห่งกรุงเฮก การเที่ยวชมที่นี่ต้องจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ทางการของพระราชวังสันติภาพโดยจะมีไกด์ให้บริการเที่ยวชม
บินเนนฮอฟ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
บินเนนฮอฟ (Binnenhof) เป็นอาคารรัฐสภาของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเฮก บินเนนฮอฟเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ และเป็นสำนักงานของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ที่ใช้ในการประชุมในวาระต่างๆ ตัวอาคารของบินเนนฮอฟสร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยสไตล์โกธิค รอบนอกมีบึงน้ำขนาดใหญ่ และตกแต่งด้วยสวนอย่างร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งจุดชมเมืองและจุดถ่ายภาพของกรุงเฮกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ชายหาดชเวนนิงเงน กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
ชายหาดชเวนนิงเงน (Scheveningen Beach) เป็นชายหาดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเฮก เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่คึกคักที่สุดในช่วงฤดูร้อนราวเดือนมิถุนายนถึงกันยายน นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งอาบแดดและเล่นเรือใบ รวมทั้งนั่งชมวิวทะเลอันสวยงาม ดูพระอาทิตย์ตกดิน และทานอาหารทะเลอร่อยๆ โดยเฉพาะปลาทะเลและบาร์บีคิวริมหาด
เมืองจำลองมาดูโรดัม กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
เมืองจำลองมาดูโรดัม (Madurodam) เป็นเมืองที่จำลองสถาปัตยกรรมสำคัญต่างๆ ภายในประเทศเนเธอร์แลนด์ออกมาให้เที่ยวชมได้อย่างใกล้ชิดเสมือนย่อเนเธอร์แลนด์มาไว้ในเมืองจำลองแห่งนี้ ภายในบริเวณตั้งอยู่ท่ามกลางสวนขนาดใหญ่และแบ่งเป็นโซนต่างๆ เช่นโซนสนามบิน ท่าเรือ ขนส่งสาธารณะ อาคารทางประวัติศาสตร์ บ้านเรือน และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถใช้เวลาได้ทั้งวัน และสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งครอบครัว
เดน ฮาก เซ็นทรัล กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
เดน ฮาก เซ็นทรัล (Den Haag Central) เป็นพื้นที่ใจกลางกรุงเฮก (หรือกรุงเดนฮากในภาษาดัทช์) ภายในบริเวณมีอาคารที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยมีทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารมากมายคอยให้บริการกับนักท่องเที่ยว พื้นที่ใจกลางกรุงเฮกมีสถานีรถไฟหลักคือสถานี Den Haag Centraal ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เช่นที่เที่ยวชื่อดังที่ไม่ควรพลาดอย่างเมืองจำลองมาดูโรดัม วังสันติภาพ ชายหาดชเวนนิงเงน และบินเนนฮอฟ
มินิ ยุโรป เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
มินิ ยุโรป (Mini Europe) สถานที่ซึ่งรวบรวมแบบจำลองสำคัญทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และเทคโนโลยีของสหภาพยุโรปไว้มากมาย ในรูปแบบจำลองขนาดย่อส่วน และมีระบบอินเทอร์แอคทีฟที่ถอดมาจากต้นแบบอย่างสมจริง พร้อมป้ายแสดงข้อมูลอย่างละเอียด เรียกว่าเป็นการทัวร์ยุโรปฉบับมินิไซส์ที่สร้างความสนุกสนาน และจะได้สาระดีๆ เกี่ยวกับสหภาพยุโรปกลับไปแบบเต็มที่แน่นอน
เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์
เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ (Symphony of the Seas) ดาวเด่นแห่งท้องทะเลลำล่าสุดของโลก เพราะเป็นเรือสำราญที่ถูกยกให้เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน โดยเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ถือเป็นโครงการใหญ่ของบริษัทรอยัล แคริบเบียน อินเตอร์เนชั่นแนล (Royal Carribban International) บริษัทเดินเรือสำราญขนาดใหญ่สัญชาติอเมริกันที่ถือครองส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจเดินเรือทั่วโลกถึง 17 เปอร์เซ็น มีภาพจำสำคัญคือเรือสำราญทุกลำภายในเครือของบริษัทจะมีฉายาต่อท้ายชื่อเรือว่า “ออฟ เดอะ ซีส์” (of the Seas) เสมอ โดยผลงานชิ้นเอกลำล่าสุดของบริษัทอย่าง เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ได้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 2018 พร้อมเส้นทางเดินเรือแบบจัดเต็ม ครอบคลุมไปทั่วแถบทวีปยุโรป และอเมริกาทั้งหมด
อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างอุทิศแด่เหยื่อชาวยิวกว่าหกล้านคนในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และให้คนรุ่นหลังรำลึกถึงความหายนะในอดีต ความทรงจำอันน่าเศร้าสลด และยังเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับคนยุคใหม่อีกด้วย สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 19,000 ตารางเมตร ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ออกแบบโดย Peter Eisenman สถาปนิกชาวนิวยอร์ก ด้วยการวางแท่งคอนกรีตจำนวน 2,711 แท่งที่มีขนาดความสูงต่ำแตกต่างกันไปบนพื้นที่ที่ลาดเอียงเล็กน้อย โดยมีระยะช่องทางเดินในแต่ละช่อง เมื่อมองเผินๆ โครงสร้างโดยรวมจะคล้ายคลื่นไม่ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงไหนก็ตาม โดยสถาปัตยกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า Field of Stelae ที่นี่ยังแตกต่างจากอนุสรณ์สถานทั่วไปเพราะไม่มีจุดศูนย์กลางของสถานที่อย่างเช่น รูปปั้น หรือ เสาธง เหมือนอย่างที่อื่น เนื่องจากเป็นการออกแบบเชิงนามธรรม (Abstract) เปิดกว้างให้ผู้ที่มาเยือนตีความความรู้สึกที่สัมผัสได้เอาเอง เช่น บางคนอาจรู้สึกอึดอัด หรือบางคนอาจสัมผัสได้ถึงความไม่มั่นคง ความไม่แน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีศูนย์ข้อมูล (Information Centre) ขนาด 800 ตารางเมตรตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน จัดแสดงข้อมูลของเหยื่อ เช่น ชีวประวัติสั้นๆ รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างเช่น จดหมายอำลา หรือภาพถ่ายของสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์การทำลายล้าง และเนื่องจากศูนย์บริการข้อมูลนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง จึงมีการจำกัดอายุผู้เข้าชมสำหรับบุคคลอายุ 14 ปีขึ้นไปเท่านั้น
การขอวีซ่าเชงเก้น
นักท่องเที่ยวที่ต้องการยื่นคำร้องขอวีซ่าเชงเก้น เพื่อเดินทางท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ที่อยู่ในข้อตกลงเชงเก้น 26 ประเทศ สามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าได้โดยการยื่นผ่านสถานทูตโดยตรง หรือยื่นผ่านศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) หรือยื่นผ่านศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (BLS) ขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละประเทศ ซึ่งคำร้องขอวีซ่าทั้งหมดจะถูกส่งไปพิจารณาที่สถานทูตประเทศนั้นๆ ประจำประเทศไทยต่อไป
แท็ก
แท็กท่องเที่ยวอื่นๆที่คุณอาจสนใจ