ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ยุโรป
พระราชวังชาร์ล็อทเทินบวร์ค เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พระราชวังชาร์ล็อทเทินบวร์ค (Schloss Charlottenburg) เป็นพระราชวังเก่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อน สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมรอคโคโค (Rococo architecture) ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะฝรั่งเศสผสมผสานกับสถาปัตยกรรมบาโรก เป็นการออกแบบตกแต่งที่เน้นความโอ่อ่าและหรูหรา ออกแบบโดยนายสถาปนิกโยฮัน อาร์น็อลท์ เนริง (Johann Arnold Nering) ชื่อของพระราชวังตั้งตามพระนามของพระนางโซฟี ชาร์ล็อท (Sophie Charlotte) พระชายาองค์แรกของพระเจ้าฟรีดริชที่ 3 แห่งนครบรันเดินบวร์คและดยุคแห่งรัฐปรัสเซีย ปัจจุบันเป็นพระราชวังที่งดงามและใหญ่โตที่สุดในกรุงเบอร์ลิน และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเบอร์ลินอีกด้วย
รัฐสภาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
รัฐสภาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (German Bundestag / ภาษาเยอรมันคือ Deutscher Bundestag) เป็นที่ประชุมสภาของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ที่อาคารไรชส์ทาค (Reichstag Building) ในกรุงเบอร์ลิน สิ่งที่น่าสนใจของอาคารไรชส์ทาคแห่งนี้คือโดมแก้วขนาดใหญ่ (Reichstag Dome) ด้านบนสุดของอาคารที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามและทันสมัย โดยมีระบบกระจกที่สามารถควบคุมแสงและพลังงานความร้อนได้ตามสภาพอากาศ และไม่เพียงแค่สามารถมองเห็นวิว 360 องศาของเมืองเบอร์ลิน แต่ยังสามารถมองเห็นห้องประชุมสภาที่อยู่ด้านล่างได้อีกด้วย นอกจากนี้ภายในโดมแก้วยังมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับรัฐสภาให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ โดยบริเวณโดมเปิดให้เข้าชมฟรีแต่ต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้าในเว็บไซต์ ที่นี่จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงเบอร์ลินอีกแห่งหนึ่ง
เช็คพอยท์ชาร์ลี เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) หรือด่านชาร์ลี แต่เดิมเป็นด่านตรวจเข้าออกพรมแดนระหว่างเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตกในช่วงสงครามเย็น (Cold War) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนฟรีดริชสตราสเซอ (Friedrichstraße) และซิมเมอร์สตราสเซอ (Zimmerstraße) และยังเป็นบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การเผชิญหน้ากันของรถถังอเมริกากับโซเวียตในปี ค.ศ. 1961 ในปัจจุบันเช็คพอยท์ชาร์ลีเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในกรุงเบอร์ลิน โดยมีการจำลองด่าน ธงชาติ ป้ายประกาศ และแผงกระสอบทรายกันกระสุนไว้ตรงที่เดิม พร้อมนักแสดงที่ใส่ชุดทหารประกอบ เพื่อสร้างบรรยากาศในยุคนั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่คึกคักของอาคารร้านค้าสองข้างทางในยุคนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับการแต่งนวนิยายแนวสืบสวนชื่อดังอย่างเช่นเรื่อง James Bond in Octopussy ไปจนถึง The Spy Who Came In From The Cold
ประตูบรันเดินบวร์ค เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate / ภาษาเยอรมันคือ Brandenburger Tor) เป็นประตูเมืองเก่าที่ปัจจุบันเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเบอร์ลิน และเป็นฉากหลังของประวัติศาสตร์สำคัญมากมายมานับร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นในยุคสงคราม ยุคแบ่งแยกประเทศ จนถึงวันรวมชาติเยอรมนี จึงได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเอกภาพและสันติภาพ สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่17 ตามพระราชโองการของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 แห่งปรัสเซีย (Friedrich Wilhelm II, Emperor of Prussia) ออกแบบโดย คาร์ล ก็อทท์ฮาร์ด แลงฮานส์ (Carl Gotthard Langhans) โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมกรีกโรมันโบราณ (Neoclassical Architecture) ให้มีลักษณะคล้ายกับประตูเอเธนส์ (Athens) โดยประกอบด้วยเสาหินทราย ขนาดใหญ่ ฝั่งละ 6 ต้น รวม จำนวน 12 ต้น มีทางเข้าออก 5 ทาง ด้านบนของประตูประดับด้วยประติมากรรมควอดริกา (Quardriga) เป็นรูปปั้นของเทพีวิกตอเรีย (Victoria) เทพีแห่งชัยชนะของโรมัน ประทับอยู่บนราชรถเทียมม้าสี่ตัว ประตูแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงเบอร์ลิน
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล (Berlin Wall Memorial หรือในภาษาเยอรมันคือ Gedenkstätte Berliner Mauer) เป็นอนุสรณ์สถานให้ระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งแบ่งแยกประเทศเยอรมนีด้วยกำแพงเบอร์ลิน อนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศ ริมถนน Bernauer Strasse (Bernauer Straße) มีความยาว 1.4 กิโลเมตร อนุสรณ์สถานแห่งนี้ประกอบด้วยส่วนของนิทรรศการกลางแจ้งจัดแสดงชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่ของกำแพงเบอร์ลินพร้อมกับพื้นที่ที่อยู่ลึกไปด้านหลังกำแพงประมาณ 60 เมตรเพื่อถ่ายทอดให้เห็นภาพเรื่องราวในอดีตจนกระทั่งถึงยุคล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน นอกจากนี้ยังมีส่วนของศูนย์การเรียนรู้ที่จัดแสดงข้อมูลและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของกำแพงเบอร์ลินซึ่งช่วยให้ผู้ที่มาเที่ยวชมเข้าใจประวัติศาสตร์ของการแบ่งแยกเยอรมนีได้ง่ายขึ้น และยังมีหอสวด (The Chapel of Reconciliation) ที่สร้างขึ้นบริเวณเดียวกันกับโบสถ์ (Reconciliation Church) ที่ถูกรื้อถอนไปในสมัยก่อน อนุสรณ์สถานแห่งนี้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall Foundation)
เบอร์ลินวอลอีสท์ไซด์แกลเลอรี่ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เบอร์ลินวอลอีสท์ไซอีสท์ไซด์แกลลอรี (Berlin Wall East Side Gallery) คือชิ้นส่วนกำแพงที่ยาวที่สุดของกำแพงเบอร์ลินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในรูปแบบแกลเลอรี่กลางแจ้ง ตั้งอยู่บนถนนมูห์เลนสตราบ (Mühlenstraße / Mühlenstrasse) ใกล้กับสะพานโอเบอร์บวม (Oberbaum Bridge) แกลเลอรี่กลางแจ้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ด้วยจำนวนศิลปิน 118 คนจาก 21 ประเทศ ได้ออกแบบผลงานศิลปะลงบนชิ้นส่วนกำแพงขนาดยาว 1.3 กิโลเมตรที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเขตพรมแดน ให้เป็นแกลเลอรี่กลางแจ้งที่ยาวที่สุดในโลก อนุสรณ์สถานในรูปแบบแกลเลอรี่กลางแจ้งแห่งนี้เป็นทั้งสัญลักษณ์แห่งความสุขในการสิ้นสุดการแบ่งแยกประเทศเยอรมนีและยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ให้หวนระลึกถึงความไร้มนุษยธรรมของระบอบการปกครองของเยอรมันตะวันออกในยุคนั้น ปัจจุบันนี้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเบอร์ลิน โดยเปิดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และไม่เสียค่าเข้าชม