ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ยุโรป
จัตุรัสเจนดาร์เมนมาร์ค เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสเจนดาร์เมนมาร์ค (Gendarmenmarkt) จัดเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดในกรุงเบอร์ลิน และตั้งอยู่ในศูนย์กลางของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในบริเวณที่พลุกพล่านคึกคักของเมืองหลวง มีนักท่องเที่ยวมากกว่าล้านคนมาเยือนในแต่ละปี ด้วยทำเลที่นอกจากจะมีทั้งร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร ธนาคาร และห้างสรรพสินค้า และยังเป็นสถานที่รายล้อมด้วยอาคารที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยงาม เช่น อาคารจัดแสดงคอนเสิร์ต (Concert Hall) โบสถ์ฝรั่งเศส (French church) และโบสถ์เยอรมัน (German church) ให้เที่ยวชมและเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในที่จัดงานตลาดคริสต์มาส (Christmas market) ของเมืองเบอร์ลินอีกด้วย
สะพานโอเบอร์บวม เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
สะพานโอเบอร์บวม (Oberbaum Bridge / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Oberbaumbrücke) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำชเปร (Spree) มีลักษณะเป็นสะพานสองชั้น ชั้นบนเป็นทางรถไฟ ชั้นล่างสำหรับยานพาหนะทั่วไป และมีทางเท้าสำหรับคนสัญจรไปมา โดยสะพานแห่งนี้ได้เชื่อมพื้นที่เขต Friedrichshain ในฝั่งตะวันออก กับเขต Kreuzberg ในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเข้าไว้ด้วยกัน เหตุผลที่สะพานแห่งนี้นับเป็นจุดแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ลิน ไม่ใช่เพียงแค่มีทัศนียภาพอันสวยงาม และสถาปัตยกรรมของสะพานที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานประวัติศาสตร์ในช่วงการแบ่งแยกเยอรมนีอีกด้วย โดยสะพานโอเบอร์บวมเป็นเขตชายแดนที่เป็นจุดผ่านแดนระหว่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตก ซึ่งให้เฉพาะคนฝั่งตะวันตกผ่านเข้าฝั่งตะวันออกเท่านั้น และหลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินสะพานแห่งนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในเชิงเอกภาพที่เชื่อมกรุงเบอร์ลินทั้งสองฝั่งให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง
หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ (TV Tower / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Berliner Fernsehturm) สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ด้วยความสูงเสียดฟ้าถึง 368 เมตรรวมเสาอากาศจึงเป็นแลนด์มาร์กที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดของเมือง และจัดเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในยุโรปที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ด้านบนเป็นที่ตั้งของหอชมเมืองที่ระดับความสูง 203 เมตรที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพในมุมมอง 360 องศารอบเมืองเบอร์ลินและเมืองใกล้เคียงในระยะประมาณ 60 กิโลเมตรในวันที่ท้องฟ้าเปิด ภายในหอคอยยังมีห้องอาหารที่ระดับความสูง 207 เมตรที่จะหมุนรอบตัวเอง 360 องศาภายในเวลาครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ให้แขกที่มาเยือนได้นั่งรับประทานอาหารไปและชมวิวไปพร้อมกัน
ศาลากลางสีแดง เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ศาลากลางสีแดง (Rotes Rathaus) คือ ศาลากลางประจำเมืองเบอร์ลิน (Berlin City Hall) เป็นทั้งสำนักงานของนายกเทศมนตรี และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ลิน ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐสีแดงจึงเป็นที่มาของชื่ออาคารว่า Rotes Rathaus (ภาษาเยอรมัน rotes แปลว่า สีแดง และ rathaus แปลว่า ศาลากลาง) ศาลากลางนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Alexanderplatz และ TV Tower ภายในอาคารมีห้องโถงและห้องจัดนิทรรศการที่ตกแต่งอย่างสวยงามหลายห้องไว้สำหรับจัดงานพิธีสำคัญต่างๆ และไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม
เสาชัยชนะ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เสาชัยชนะ (Victory Culumn / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Siegessäule) เป็นอนุเสาวรีย์ที่มีความสูง 67 เมตร ด้านบนสุดประดับด้วยรูปปั้นเทพีวิกตอเรียสีทอง ซึ่งเป็นเทพีแห่งชัยชนะในตำนานของกรีกโรมันโบราณ ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามของปรัสเซีย ปัจจุบันถือเป็นจุดแลนด์มาร์กยอดนิยมอีกแห่งของเมืองเบอร์ลินที่มีจุดชมวิวแบบพาโนรามา เสาชัยชนะตั้งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะเทียร์การ์เทน (Tiergarten) บริเวณเกาะกลางของวงเวียน Der Große Stern (The Great Star) ที่มีถนนห้าสายมาบรรจบกัน ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่นายบารัค โอบามา ได้มากล่าวสุนทรพจน์ในปีค.ศ. 2008 ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างอุทิศแด่เหยื่อชาวยิวกว่าหกล้านคนในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และให้คนรุ่นหลังรำลึกถึงความหายนะในอดีต ความทรงจำอันน่าเศร้าสลด และยังเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับคนยุคใหม่อีกด้วย สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 19,000 ตารางเมตร ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ออกแบบโดย Peter Eisenman สถาปนิกชาวนิวยอร์ก ด้วยการวางแท่งคอนกรีตจำนวน 2,711 แท่งที่มีขนาดความสูงต่ำแตกต่างกันไปบนพื้นที่ที่ลาดเอียงเล็กน้อย โดยมีระยะช่องทางเดินในแต่ละช่อง เมื่อมองเผินๆ โครงสร้างโดยรวมจะคล้ายคลื่นไม่ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงไหนก็ตาม โดยสถาปัตยกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า Field of Stelae ที่นี่ยังแตกต่างจากอนุสรณ์สถานทั่วไปเพราะไม่มีจุดศูนย์กลางของสถานที่อย่างเช่น รูปปั้น หรือ เสาธง เหมือนอย่างที่อื่น เนื่องจากเป็นการออกแบบเชิงนามธรรม (Abstract) เปิดกว้างให้ผู้ที่มาเยือนตีความความรู้สึกที่สัมผัสได้เอาเอง เช่น บางคนอาจรู้สึกอึดอัด หรือบางคนอาจสัมผัสได้ถึงความไม่มั่นคง ความไม่แน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีศูนย์ข้อมูล (Information Centre) ขนาด 800 ตารางเมตรตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน จัดแสดงข้อมูลของเหยื่อ เช่น ชีวประวัติสั้นๆ รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างเช่น จดหมายอำลา หรือภาพถ่ายของสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์การทำลายล้าง และเนื่องจากศูนย์บริการข้อมูลนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง จึงมีการจำกัดอายุผู้เข้าชมสำหรับบุคคลอายุ 14 ปีขึ้นไปเท่านั้น