- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- คลองดูไบ รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
คลองดูไบ รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
- อ่าน (4,981)
- By Webmaster
- 11:04:39 | 17 ต.ค. 2562
คลองดูไบ รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
Dubai Creek, Dubai, United Arab Emiretes
เรือไม้รับจ้างประจำคลองดูไบ
คลองดูไบ (Dubai Creek) แหล่งน้ำที่แบ่งเมืองดูไบออกเป็นสองฝั่งแห่งนี้ ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเมืองมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ทำให้พื้นที่ริมคลองดูไบแห่งนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตน่าสนใจของชาวเมืองที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ชาวอาหรับกลุ่มแรกเข้ามาตั้งรกรากที่เมืองแห่งนี้
แผนที่ตั้ง คลองดูไบ รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
ประวัติ
บรรยากาศริมคลองดูไบฝั่งเมืองเก่า
คลองดูไบ (Dubai Creek) เป็นคลองน้ำเค็มผืนใหญ่ที่ต้นน้ำเชื่อมต่อมาจาก อ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf) ซึ่งไหลลงมาเป็นคลองที่แบ่งพื้นที่ของเมืองออกเป็นสองฝั่งมานับตั้งแต่ชาวอาหรับเริ่มมาตั้งรกรากในเมืองแห่งนี้ โดยคลองดูไบถือเป็นศูนย์กลางทางอาชีพ การใช้ชีวิต วัฒนธรรมของชาวเมืองมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยสมัยศตวรรษที่ 19 เมื่อชาวอาหรับกลุ่มแรกเริ่มเข้ามาอยู่อาศัย แหล่งน้ำของคลองดูไบถูกใช้เป็นพื้นที่ทำการประมงของ และการงมไข่มุก ซึ่งชาวอาหรับนั้นถือเป็นชนชาติแรกที่มีการนำไข่มุกมาค้าขายจนกลายเป็นอัญมณีที่มีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดอัญมณีทั่วโลก จนไข่มุกกลายเป็นสินค้าส่งออกที่ทำให้เมืองดูไบกลายเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคตะวันออกกลางในตอนนั้น
ห้องนิทรรศการที่พูดถึงเรื่องการทำประมงและงมไข่มุกของชาวอาหรับในสมัยโบราณ
อาคารบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมคลองดูไบ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1888 ประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาฟาร์มเลี้ยงหอยมุกขึ้นมาได้สำเร็จ ทำให้สามารถเข้ามาแย่งพื้นที่ตลาดการส่งออกไข่มุกของชาวอาหรับได้อย่างมาก เป็นเหตุให้ไข่มุกกลายเป็นอัญมณีที่มีมากเกินความต้องการของตลาดจนราคาถูกลงเรื่อยๆ จนชาวเมืองดูไบต้องปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจากการส่งออกสินค้าประมงและไข่มุกมาเป็นเมืองท่าเชิงพาณิชย์ในปี ค.ศ. 1995 โดยเริ่มจากการขุดลอกคลองให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีการสร้างเขื่อนและท่าเรือสำหรับขนถ่ายสินค้าให้ได้มาตรฐาน และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีการขุดพบทรัพยากรที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งของโลกอย่างน้ำมันนั่นเอง ส่งผลให้ประเทศอาหรับเอมิเรตส์กลายเป็นประเทศที่มั่งคั่ง และมีอำนาจในการต่อรองมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลกในชั่วข้ามคืน
สถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่ริมคลองดูไบ
เรือไม้รับจ้างที่จอดยาวอยู่ตลอดฝั่งคลองดูไบ
โดยปัจจุบันเมืองดูไบถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือเดียร่า (Deira) ย่านเมืองเก่าที่ยังคงมีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เริ่มมีการมาตั้งรกราก ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองฝั่งนี้จะเป็นย่านชุมชน ตลาดเครื่องเทศ ร้านอาหารท้องถิ่น ส่วนเบอร์ ดูไบ (Dur Dubai) จะเป็นฝั่งเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยอาคารทันสมัย สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ศูนย์รวมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยนักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งของเมืองได้ผ่านเรือไม้รับจ้างที่คอยรับส่งผู้คนในเมืองดูไบมายาวนาน และยังมีการพาชมทัศนียภาพสวยๆ ของเมืองดูไบผ่านการแล่นเรือไปตามลำคลองดูไบสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการล่องเรืออีกด้วย
การเดินทางจากสนามบินดูไบไปยังสถานีรถไฟหลักของเมืองดูไบ
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่น
- รถไฟ จากสนามบินให้เดินมาขึ้นรถไฟได้ทั้งด้านหน้าเทอร์มินัล 1 (Airport Terminal Station 1) และ 3 (Airport Terminal Station 3) เพื่อไปลงที่สถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่นของเมือง
การเดินจากสถานีรถไฟหลักของเมืองไปยังคลองดูไบ
- รถยนต์ จาก Burjuman Station ไปยังคลองดูไบ ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที
- รถไฟ จาก Burjuman Station ให้ขึ้นรถไฟสายสีเขียวไปลงที่สถานี AI Ras Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงคลองดูไบ
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดตลอดเวลา
ท่าเรือประจำคลองดูไบฝั่งเมืองเก่า
อัตราค่าเข้าชม
สามารถเที่ยวชมพื้นที่ริมสองฝั่งของคลองดูไบได้ฟรี / ค่าโดยสารเรือไม้รับจ้างข้ามฝั่งเมือง ราคา 1 เดอร์แฮ่ม (AED)
เรือไม้รับจ้างที่เข้ามาจอดเทียบท่าเรือ
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ทิวทัศน์สวยๆ ของคลองดูไบ
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว คลองดูไบ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
คลองดูไบ รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
(Dubai Creek, Dubai, United Arab Emiretes)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : สามารถเที่ยวชมพื้นที่ริมสองฝั่งของคลองดูไบได้ฟรี
ค่าโดยสารเรือไม่รับจ้างข้ามฝั่งเมือง ราคา 1 เดอร์แฮ่ม (AED)
เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองดูไบ https://dubaiculture.gov.ae/en/Pages/default.aspx
เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเมืองดูไบ https://www.dubai-online.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ