“คลองร้อยสาย” เป็นชื่อเรียกของลำน้ำเล็กๆ ที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำตาปีซึ่งมีคลองเล็กคลองน้อยนับร้อยคลอง คลองร้อยสายประกอบไปด้วยพื้นที่ 6 ตำบลของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ได้แก่ บางใบไม้ บางชนะ คลองฉนาก บางไทร คลองน้อย และบางโพธิ์ ชุมชนเหล่านี้เป็นชุมชนชนบทที่แฝงอยู่ในอำเภอเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและทำสวน

คลองน้ำใสหรือที่คนในท้องถิ่นเรียกกันว่าคลองหลอกตา ชื่อซึ่งมีที่มาจากเมื่อใดก็ตามที่คนผิวดำลงไปเล่นน้ำตัวจะดูขาวนวลขึ้นทันตา แต่พอขึ้นจากน้ำสีผิวก็จะกลับมาเป็นปกติดังเดิม ชาวบ้านจึงเรียกคลองนี้ในอีกชื่อว่า “คลองหลอกตา” คลองน้ำใสหรือคลองหลอกตาเป็นลำธารขนาดเล็กที่มีน้ำใสมากซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ภูเขาขนาดเล็ก บริเวณรอยต่อของตำบลถ้ำสิงขรและตำบลย่านยาว อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากอำเภอคีรีรัฐนิคมประมาณ 11 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 51 กิโลเมตร

วัดบางใบไม้ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2325 ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเกิดจากการรวมวัด 2 วัด คือ วัดนอกและวัดใน ตามประวัติคือ ชุมชนบางใบไม้เป็นชุมชนเก่าแก่เริ่มแรกของชาวในบาง มีความเป็นมายาวนานกว่าสองร้อยปี สมัยพระยาตากสินยกทัพมาตีเมืองนครศรีธรรมราช ขุนประจันศึกประชิดซึ่งเป็นทหารคู่ใจของเจ้าเมืองนครฯ รักษาหัวเมืองทางด้านทิศเหนือเห็นว่าพระยานครสู้ทัพพระยาตากสินไม่ได้ จึงสั่งให้ทหารลงเรือเพื่อจะหนีพระยาตากสิน ขุนประจันศึกประชิดพร้อมทหารคู่ใจและครอบครัวหลบหนีมาทางแม่น้ำหลวง ผ่านบ้านดอนเพื่อจะไปเมืองไชยา แต่ปรากฏว่าเมืองไชยาก็โดนพระยาตากสินยกทัพมาตีแตก ขุนประจันศึกประชิดจึงถอยร่นลงมาในลำคลองเล็กๆ ซึ่งเหมาะกับการตั้งบ้านเรือน โดยสร้างบ้านหลังใหญ่ประมาณห้าหลัง และตั้งชื่อว่าหมู่บ้านใหญ่และกลายเป็นตำบลบางใบไม้ในปัจจุบัน

วัดไทร เป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเขตป่าต้นไทรในอดีต เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธ์เป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองสุราษฎร์อีกวัดหนึ่ง จากหลักฐานการขุดค้นพบโบราณวัตถุจำนวนมากในวัดแห่งนี้ คาดว่าวัดไทรน่าจะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย คือ ระหว่าง พ.ศ. 1300 ถึง 1800 วัตถุโบราณหลักๆ ที่ค้นพบในวัดไทรนั้น เป็นองค์พระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายศิลปะศรีวิชัยซึ่งได้นำมาประดิษฐานที่พระอุโบสถในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีสิ่งก่อสร้าง ศิลปวัตถุ และซากปรักหักพังของวัดในอดีตที่ได้รวบรวมเก็บไว้ภายใต้ฐานพระอุโบสถที่สร้างขึ้นมาในปี พ.ศ. 2474 เนื่องจากพระอุโบสถเดิมทรุดโทรมมากเกินจะบูรณะขึ้นมาใหม่

ถนนคนเดินสุราษฎร์ธานี ( Walking Street ) เป็นอีกสีสันหนึ่งของเมืองสุราษฎร์ทุกค่ำคืนวันเสาร์ ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำตาปี บริเวณหอสมุดสุราษฎร์ธานี จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในเขตเมืองและจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยทางจังหวัดได้จัดให้มีอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 - 22.00 น. ถนนคนเดิน เป็นหนึ่งในแนวคิดการพัฒนาเมือง และกำหนดใช้พื้นที่ในเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้มีการปรับปรุงบริเวณสะพานนริศ ใหม่ให้มีความสวยงาม เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจริมแม่น้ำ หรือเดินเล่นที่ถนนคนเดินในทุกๆ ตอนเย็นวันเสาร์ ซึ่งจะมีสินค้ามากมาย ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของกิน สินค้า OTOP และงานหัตถกรรม รวมถึงกิจกรรมสำหรับครอบครัวหลายอย่าง

ตลาดสะพานโค้ง 100 ปี เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เอกลักษณ์คือเป็นบ้านเรือนโบราณ และมีสะพานเชื่อมระหว่างอาคาร อายุนับ 100 ปี ในสไตล์ชิโน - โปรตุกีส บนถนนเศรษฐภักดี ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใกล้ๆ กับถนนคนเดินริมแม่น้ำตาปี