ท่องเที่ยวในประเทศ
ภาคกลาง
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารเป็นวัดที่มีสำคัญคู่บ้านคู่เมืองชาวไชยาและสุราษฎร์ธานีมานานนับแต่โบราณกาล เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกและเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังเป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของช่างศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยได้อย่างสมบูรณ์ (งานช่างในภาคใต้ของประเทศไทย เรียกว่า ศิลปะศรีวิชัย โดยนำมาจากชื่อเมืองสำคัญที่ปรากฏอยู่ในศิลาจารึก เจดีย์ของศรีวิชัย มีลักษณะเชื่อมโยงกับจันทิ (Chandi) ซึ่งเป็นศาสนสถานของของชวาในภาคกลางประเทศอินโดนีเซีย) ซึ่งนอกจากวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารจะเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในสามของโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ อันได้แก่ เจดีย์พระมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระพุทธไสยาสน์ถ้ำคูหาภิมุข จังหวัดยะลาอีกด้วย
วัดถ้ำสิงขร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
วัดถ้ำสิงขรตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม บริเวณลุ่มน้ำคลองยัน และลำน้ำคีรีรัฐ เป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำรวจพบเครื่องมือเครื่องใช้ สมัยหินกลาง สมัยหินใหม่ และ สมัยโลหะ ภายในวัดมีถ้ำขนาดใหญ่ ด้านหน้าถ้ำมีเจดีย์รูปทรงที่ได้รับอิทธิพลศิลปะสมัยศรีวิชัย (งานช่างในภาคใต้ของประเทศไทย เรียกว่า ศิลปะศรีวิชัย โดยนำมาจากชื่อเมืองสำคัญที่ปรากฏอยู่ในศิลาจารึก เจดีย์ของศรีวิชัย มีลักษณะเชื่อมโยงกับจันทิ (Chandi) ซึ่งเป็นศาสนสถานของของชวาในภาคกลางประเทศอินโดนีเซีย)
อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติเขาสกเป็นผืนป่าที่มีความยิ่งใหญ่มากเป็นลำดับต้นๆ ของภาคใต้ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 461,712.5 ไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ป่าคลองหยีและคลองพระแสง ตำบลคลองสก ตำบลพังกาญจน์ ตำบลพนม อำเภอพนม ตำบลพะแสง และตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน ที่นี่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2537 สภาพทั่วไปของอุทยานแห่งชาติเขาสกเป็นภูเขาดินและภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนและมีแนวหน้าผาสูงชัน ทางด้านทิศเหนือคือที่ตั้งของเขื่อนรัชชประภา ที่มีบรรยากาศของทะเลสาบเหนือเขื่อนสวยงาม ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของอุทยานฯ เขาสก ไม่เพียงจะทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยที่งามมากมาย แต่ที่นี่ยังเป็นป่าแหล่งอาศัยของสัตว์ป่ากว่า 415 ชนิด มีสัตว์ป่าสงวนถึง 4 ชนิด คือ เก้งหม้อ เลียงผา สมเสร็จ และแมวลายหินอ่อนอีกด้วย
ศาลหลักเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
ศาลหลักเมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุราษฎร์ เพราะถือเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองทำให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่บนถนนดอนใกล้กับตลาดบ้านดอนบริเวณริมแม่น้ำตาปี ต.ตลาด อ.เมือง ศาลหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์สมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539 และเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นหลักชัย และมิ่งขวัญ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสุราษฎร์ธานี โดยมีคณะช่างจากกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างตามศิลปกรรมศรีวิชัยด้วยการเน้นรูปลักษณ์ศิลปกรรมท้องถิ่นเดิม ได้รับอิทธิพลมาจากชวา ลังกา และเขมร ผสมกลมกลืนกัน เพื่อแสดงถึงความมั่นคงและเป็นปึกแผ่นของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองเก่าที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์สมัยศรีวิชัย และมีความความรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
วัดพัฒนาราม (วัดใหม่) พระอารามหลวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
วัดพัฒนาราม พระอารามหลวง หรือวัดใหม่ หรือที่ประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์เรียกกันว่า “วัดหลวงพ่อพัฒน์” ตั้งอยู่ถนนหน้าเมือง ตรงข้ามกับรพ. อบจ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีหลวงพ่อพัฒน์ นารโทเป็นผู้สร้างวัดและเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก โดยท่านได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นด้วยเงินเพียง 6 บาท เมื่อวันที่ 26 เมษายน ในปี พ.ศ. 2439 สร้างความเลื่อมใสศรัทธาให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก
ตลาดน้ำประชารัฐ บางใบไม้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
ตลาดน้ำบางใบไม้ประชารัฐเป็นตลาดน้ำซึ่งทางชุมชนได้เนรมิตสวนมะพร้าวให้เป็นตลาด จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์บริเวณวัดบางใบไม้ มีสินค้าตั้งแต่อาหารพื้นบ้าน ขนมไทย อาหารทะเล ผักผลไม้ รวมถึงอาหารประจำถิ่น ที่เน้นใช้วัสดุธรรมชาติเป็นภาชนะในการใส่อาหาร พร้อมจัดที่ให้นั่งบริเวณเลียบๆ ลำคลองให้นักท่องเที่ยวได้นั่งรับประทานในบรรยากาศร่มรื่นผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติแมกไม้สีเขียว แตกต่างจากตลาดน้ำที่อื่นๆ นอกจากนี้ ภายในตลาดน้ำดังยังมีจุดชมวิวอันสวยงาม จุดเลี้ยงปลาสวาย จุดถ่ายภาพ ร้านซีฟู้ดริมคลอง รวมถึงมีการแสดงพื้นบ้าน “หนังตะลุง” จากเยาวชนบางใบไม้ ซึ่งเป็นการแสดงท้องถิ่นหาชมได้ยาก และยังมีกิจกรรมล่องคลองร้อยสายด้วยเรือแจว เพื่อชมวิถีชีวิตและความงามของพื้นที่น้ำคลองร้อยสายในราคาแสนย่อมเยาอีกด้วย