- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- 10 มุมสวยถ่ายภาพวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
10 มุมสวยถ่ายภาพวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
- อ่าน (19,109)
- ByWebmaster
- 14:20:16 | 20 ธ.ค. 2561
10 มุมสวยถ่ายภาพวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
10 Best Photo Spots of Wat Arun Ratchawararam Ratchawaramahawihan, Bangkok, Thailand
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดอรุณฯ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีพระปรางค์องค์ใหญ่ประดับด้วยกระเบื้องสีตั้งเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้จึงนับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ Palanla.com ได้รวบรวมพิกัดมุมต่างๆ มาฝากสำหรับผู้ที่ต้องการหามุมสวยๆ ถ่ายภาพพระปรางค์วัดอรุณฯ
1. มุมถ่ายภาพจากร้าน Eat Sight Story
“วัดอรุณฯ” ซึ่งหมายถึง ยามเช้า แห่งนี้จะมีความงดงามที่สุดในยามเย็น โดยเฉพาะเมื่อมองจากฝั่งพระนคร เนื่องจากพระอาทิตย์ที่ตกลับไปด้านหลังทางทิศตะวันตกจะฉาบทอแสงงดงาม ช่วยขับให้องค์พระปรางค์ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อถ่ายภาพแนวย้อนแสง ร้าน Eat Sight Story ร้านอาหารแนวฟิวชั่น เป็นอีกหนึ่งจุดที่จะสามารถชมความสวยงามของวัดอรุณฯ เคียงคู่ไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างใกล้ชิด โดยตัวร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดซอยท่าเตียนที่นั่งมีทั้งโซนที่เป็นห้องแอร์และแบบเปิดริมแม่น้ำ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00 น.
ช่วงเวลาถ่ายภาพที่แนะนำ : หลังพระอาทิตย์ตกเป็นต้นไป (ประมาณ 18.00 – 19.00 น. ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล)
คำแนะนำ : วิวสวยๆ อาจไม่ได้มองเห็นจากทุกโต๊ะ ควรโทรเช็กเพื่อสำรองที่นั่งล่วงหน้ากับทางร้าน
พิกัด GPS : 13°44'43.6"N 100°29'26.6"E
2. มุมถ่ายภาพจากโรงแรมศาลารัตนโกสินทร์
ร้านศาลารัตนโกสินทร์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้บริการอาหารไทยดั้งเดิม พร้อมที่นั่งรับประทานทั้งภายในร้านและกลางแจ้งเพื่อชมทัศนียภาพของวัดอรุณฯ จุดเด่นของร้านอาหารแห่งนี้คือวิวอันงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งชมพระอาทิตย์ตกริมน้ำ โดยด้านในสุดของร้านนั้นติดริมแม่น้ำ มองเห็นวิววัดอรุณฯ อันงดงามฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ไร้สิ่งบดบัง การชมวิวที่ดีที่สุดคือจากบาร์บนชั้นดาดฟ้า
ช่วงเวลาถ่ายภาพที่แนะนำ : หลังพระอาทิตย์ตกเป็นต้นไป (ประมาณ 18.00 – 19.00 น. ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล)
คำแนะนำ : วิวสวยๆ อาจไม่ได้มองเห็นจากทุกโต๊ะ ควรโทรเช็กเพื่อสำรองที่นั่งล่วงหน้ากับทางร้าน
พิกัด GPS : 13°44'42.3"N 100°29'26.9"E
3. มุมถ่ายภาพจาก ซ. ประตูนกยูง
ซอยประตูนกยูง ตัดกับถนนมหาราช เป็นซอยที่อยู่ตรงข้ามกับที่จอดรถวัดโพธิ์ จุดสังเกตคือบริเวณต้นซอยจะมีอาหารตามสั่งขาย เมื่อเดินไปจนท้ายๆ ซอยจะมีจุดที่สามารถมองเห็นวัดอรุณฯ ฝั่งตรงข้ามได้งดงามชัดเจน และเป็นจุดกึ่งกลางที่อยู่ตรงกับองค์พระปรางค์วัดอรุณฯ พอดิบพอดี โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่เงาสะท้อนและแสงไฟจากองค์พระปรางค์สะท้อนลงบนผิวน้ำเจ้าพระยา ให้ภาพถ่ายมุมกว้างที่มีมุมมองงดงามมาก
ช่วงเวลาถ่ายภาพที่แนะนำ : หลังพระอาทิตย์ตก ประมาณ 20 - 40 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศช่วงเวลานั้น โดยจะเป็นช่วงที่ท้องฟ้ามีสีน้ำเงินเป็นส่วนใหญ่
คำแนะนำ : บริเวณที่จะเข้าไปถ่ายภาพนี้ได้ นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายเงินจำนวน 100 บาท
พิกัด GPS : 13°44'41.3"N 100°29'28.8"E
4. มุมถ่ายภาพจากประตูทางเข้าออก
จุดนี้เป็นอีกมุมหนึ่งของวัดอรุณฯ ที่คนนิยมถ่ายภาพ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีองค์ประกอบภาพที่สวยงาม คือบานประตูสีแดงในลักษณะที่เปิดกว้างเข้าไปสู่ด้านใน บวกกับซุ้มเหนือบานประตูตรงกลางซึ่งเป็น ‘รูปพระเกี้ยว’ สีทอง พระราชลัญจกรประจำพระองค์ในรัชกาลที่ 5 ยิ่งหากเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นสีฟ้า ยิ่งจะทำให้ได้ภาพขององค์พระปรางค์ที่สวยงาม น่าประทับใจ ทั้งนี้พระปรางค์ที่เห็นในปัจจุบันไม่ใช่พระปรางค์องค์เดิมที่มีมาตั้งแต่แรกที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งมีความสูงเพียง 16 เมตร เท่านั้น แต่ได้มีการต่อเติมขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 3
พิกัด GPS : 13°44'37.8"N 100°29'21.4"E
5. มุมถ่ายภาพจาก ถ.วังเดิม เลียบแม่น้ำ
จากจุดนี้จะเป็นมุมที่มองเห็นโบสถ์น้อย ซึ่งหันหน้าไปทางตะวันออกเข้าหาแม่น้ำเจ้าพระยา พระปรางค์ประธาน พระปรางค์ทิศ และมณฑปทิศ โบสถ์น้อยที่อยู่ด้านซ้ายมือมีความสำคัญคือ เป็นพระอุโบสถหลังเก่าของวัดอรุณฯ มีลักษณะเป็นอาคารทรงเตี้ย ขนาด 5 ห้อง มีมุขทั้งด้านหน้าด้านหลัง หน้าบันเป็นลายกนก ลงรักปิดทองประดับกระจกสวยงาม ภายในประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสิน ให้ผู้ที่มาเยือนได้สักการะ และยังเป็นที่ตั้งของศาลสถิตดวงพระวิญญาณของพระองค์
พิกัด GPS : 13°44'39.5"N 100°29'21.4"E
6. มุมถ่ายภาพจากท่าเรือวัดอรุณฯ – วัดโพธิ์ (ท่าวัดอรุณฯ)
ท่าเรือข้ามฟากวัดอรุณฯ – วัดโพธิ์ (ท่าวัดอรุณฯ) เป็นท่าเรือที่ให้บริการเรือโดยสารข้ามฟากจากท่าเรือวัดอรุณฯ ไปยังท่าวัดโพธิ์หรือฝั่งท่าเตียน จากจุดนี้จะมองเห็นพระปรางค์ประธาน พระปรางค์ทิศ มณฑปทิศ รวมถึงศาลาท่าน้ำสีขาวทรงเก๋งจีน 8 เหลี่ยมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกหนึ่งมุมที่ทำให้เห็นภาพบรรยากาศโดยรวมของวัดอรุณฯ ที่สวยงามและรื่นรมย์จากฝั่งเดียวกับวัด ทั้งนี้ เรือข้ามฟากให้บริการระหว่างเวลา 5.00- 23.00 น. อัตราค่าโดยสาร 4 บาท
พิกัด GPS : 13°44'41.7"N 100°29'20.5"E
7. มุมถ่ายภาพจากท่าเรือวัดโพธิ์ - วัดอรุณฯ (ท่าเตียน)
ท่าเรือวัดโพธิ์ - วัดอรุณ หรือ ท่าเตียน เป็นท่าเรือที่ให้บริการเรือโดยสารข้ามฟากจากท่าวัดโพธิ์ไปยังท่าเรือวัดอรุณฯ และเป็นท่าเรือที่ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาอีกด้วย ในอดีตเคยเป็นท่าเรือที่มีเรือเมล์วิ่งไปจนถึงบางบัวทอง, อยุธยา, ชัยนาท, นครสวรรค์ จากจุดนี้สามารถมองเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ และป้อมวิไชยประสิทธิ์ได้อย่างชัดเจน เรือโดยสารข้ามฟากจากท่าเตียนไปยังท่าเรือวัดอรุณฯ ให้บริการระหว่างเวลา 5.00- 23.00 น. อัตราค่าโดยสาร 4 บาท
ช่วงเวลาถ่ายภาพที่แนะนำ : หลังพระอาทิตย์ตกเป็นต้นไป (ประมาณ 18.00 – 19.00 น. ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล)
พิกัด GPS : 13°44'46.1"N 100°29'24.4"E
8. มุมถ่ายภาพจากยักษ์ทศกัณฐ์
นอกจากองค์พระปรางค์แล้ว จุดเด่นของวัดอรุณฯ คือยักษ์ 2 ตนที่เรียกกันว่า "ยักษ์วัดแจ้ง" ในตำนานที่ยืนตระง่านอยู่บริเวณประตูซุ้มยอดมงกุฎหน้าพระอุโบสถ ตนสีขาวที่อยู่ทางขวามือชื่อ สหัสเดชะ ตนสีเขียวด้านซ้ายมือชื่อว่า ทศกัณฐ์ โดยมีเรื่องเล่าว่ายักษ์วัดโพธิ์มาตีกับยักษ์วัดแจ้งจนบ้านเมืองแถวนั้นราบเป็นหน้ากลอง เลยเรียกกันต่อมาว่าท่าเตียน การถ่ายภาพจากมุมนี้จะได้ภาพของยักษ์วัดแจ้งที่มีความสง่างาม ขึงขัง และโดดเด่น โดยมองเห็นองค์พระปรางค์อยู่ทางด้านหลัง บวกกับต้นไม้ประดับสีเขียวๆ ให้ความรู้สึกร่มรื่นสบายตา
พิกัด GPS : 13°44'40.9"N 100°29'19.2"E
9. มุมถ่ายภาพจากบนเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา
อีกหนึ่งมุมที่จะได้เห็นความงดงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ คือมุมมองจากบนเรือดินเนอร์ครุยส์ที่ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวล่องเรือชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของสถานที่สำคัญเชิงประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีการตกแต่งประดับประดาด้วยแสง ไฟสีสันงดงาม ซึ่งเส้นทางที่เรือจะแล่นผ่านนั้น แน่นอนว่าจุดหนึ่งคือ วัดอรุณฯ ที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ถ่ายภาพขององค์พระปรางค์ยามค่ำคืนในมุมมองชัดเจน งดงาม
ช่วงเวลาถ่ายภาพที่แนะนำ : หลังพระอาทิตย์ตกเป็นต้นไป (ประมาณ 18.00 – 19.00 น. ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล)
พิกัด GPS : 13°44'40.8"N 100°29'28.2"E
10. มุมถ่ายภาพจากโดรนเหนือ รร.เผือกวิทยาประสาธน์
การถ่ายภาพมุมสูงโดยใช้โดรน เป็นการถ่ายภาพอีกมุมหนึ่งที่จะสามารถบันทึกภาพองค์พระปรางค์ในมุมมองที่งดงาม แปลกตา และเผยให้เห็นละเอียดโดยรอบของวัดอรุณฯ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในขณะเดียวกัน ทั้งนี้การถ่ายภาพด้วยโดรนต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อนนำขึ้นบิน
พิกัด GPS : 13°44'39.0"N 100°29'18.9"E
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร http://www.bangkoktourist.com
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org
สกุลเงินที่ใช้ : ไทยบาท (THB)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ