ท่องเที่ยวในประเทศ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จุดชมวิวแม่น้ำสองสี วัดโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
จุดชมวิวแม่น้ำสองสี วัดโขงเจียม (Two-Color River View Point at Wat Khong Chiam) เป็นจุดที่แม่น้ำโขงกับแม่น้ำมูลไหลมาบรรจบกัน เกิดเป็นแม่น้ำสองสีที่มีความสวยงามทางธรรมชาติซึ่งเรียกว่า "โขงสีปูน มูลสีคราม" ซึ่งจะเห็นความแตกต่างของแม่น้ำทั้งสองสีที่ไหลมาบรรจบกันได้ชัดเจนที่สุดในช่วงฤดูฝน และจุดชมวิวที่ดีที่สุดจะอยู่บริเวณริมตลิ่งของวัดโขงเจียม
แก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
แก่งสะพือ (Kaeng Saphue) เป็นบึงขนาดใหญ่ที่มีก้อนหินหลากหลายขนาดกระจัดกระจายอยู่ภายในบึง โดยพื้นที่ของแก่งสะพือจะอยู่ในตำแหน่งที่ขวางทางน้ำไหลของแม่น้ำมูลพอดี ในช่วงน้ำหลากจึงเกิดความสวยงามจากกระแสน้ำที่ไหลมากระทบหินจนกระเซ็นเป็นฟองขาวและเกิดเสียงของสายน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา จึงกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี แม้ในช่วงฤดูแล้งที่กระแสน้ำลดก็ยังมีความสวยงามแปลกตาของโขดหินน้อยใหญ่ที่โผล่พ้นลำน้ำขึ้นมาให้ได้เที่ยวชมกัน
ศาลหลักเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองอุบลราชธานี (Ubon Ratchathani City Pillar Shrine) เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี และเป็นสถานที่ที่ชาวอุบลให้ความเคารพนับถือ อีกทั้งยังเป็นเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะเข้าไปสักการะเพื่อเป็นศิริมงคลให้กับตนเองและเพื่อให้เดินทางอย่างแคล้วคลาดปลอดภัย
ถนนคนเดินเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ถนนคนเดินเขมราฐ (Khemmarat Walking Street) เป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยบ้านไม้และร้านค้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีร้านขายอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ คาเฟ่สไตล์โฮมเมดเล็กๆ และร้านค้าต่างๆ ที่ขายของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างเช่นผ้าซิ่นและผ้าทอ และยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย โดยถนนบริเวณนี้จะจัดให้เป็นถนนคนเดินทุกเย็นวันเสาร์ตั้งแต่สี่โมงเย็นไปจนถึงสามทุ่ม
หาดชมดาว แก่งหินงาม จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
หาดชมดาว แก่งหินงาม (Chomdao Beach at Kaenghinngam) เป็นแนวหาดทรายและแก่งหินอันกว้างใหญ่ริมแม่น้ำโขงทอดยาวหลายร้อยเมตรซึ่งจะโผล่พ้นแม่น้ำขึ้นมาในช่วงฤดูแล้ง โดยแก่งหินจะมีรูปร่างแปลกตาเนื่องจากถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำในขณะที่จมอยู่ใต้น้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก จึงทำให้แก่งมีลักษณะเป็นเส้นริ้วซ้อนกัน บ้างก็มีรูพรุนและเป็นโพรง ซึ่งก่อให้เกิดความสวยงามของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่แปลกตา อีกยังทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและจุดชมจันทร์และดวงดาวในยามค่ำคืนอีกด้วย เพราะแสงอาทิตย์กับแสงจันทร์จะตกกระทบลงบนผิวน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับสวยงาม
สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
สามพันโบก (Sam Phan Bok) ได้รับสมญานามว่าแกรนด์แคนยอนแห่งลำน้ำโขง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามในยามแล้งเมื่อแม่น้ำแห้งขอด แก่งหินขนาดใหญ่ก็จะโผล่พ้นน้ำขึ้นมา แต่มีลักษณะไม่ธรรมดาเพราะเป็นแก่งหินที่มีแอ่งเว้าลงไปเป็นหลุมเล็กหลุมใหญ่ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำวน โดยแอ่งเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง จึงเป็นที่มาของชื่อสามพันโบก เนื่องจากคำว่า "โบก" ในภาษาท้องถิ่น หมายถึง "แอ่ง" นั่นเอง นักท่องเที่ยวที่อยากมาเที่ยวชมสามพันโบก ควรมาในช่วงน้ำลด ประมาณเดือนปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี