- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- แก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
แก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
- อ่าน (6,921)
- ByWebmaster
- 15:28:28 | 21 เม.ย. 2564
แก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
Kaeng Saphue, Ubon Ratchathani, Thailand
ทัศนียภาพของแก่งสะพือและแม่น้ำมูล
แก่งสะพือ (Kaeng Saphue) เป็นบึงขนาดใหญ่ที่มีก้อนหินหลากหลายขนาดกระจัดกระจายอยู่ภายในบึง โดยพื้นที่ของแก่งสะพือจะอยู่ในตำแหน่งที่ขวางทางน้ำไหลของแม่น้ำมูลพอดี ในช่วงน้ำหลากจึงเกิดความสวยงามจากกระแสน้ำที่ไหลมากระทบหินจนกระเซ็นเป็นฟองขาวและเกิดเสียงของสายน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา จึงกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี แม้ในช่วงฤดูแล้งที่กระแสน้ำลดก็ยังมีความสวยงามแปลกตาของโขดหินน้อยใหญ่ที่โผล่พ้นลำน้ำขึ้นมาให้ได้เที่ยวชมกัน
แผนที่ตั้ง แก่งสะพือ (Kaeng Saphue) จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ประวัติ
แก่งสะพือตั้งอยู่ในอำเภอพิบูลมังสาหารภายในสวนสาธารณะแก่งสะพือ โดยชื่อแก่งสะพือนั้นเพี้ยนมาจากภาษาของชาวส่วยซึ่งเป็นคนท้องถิ่นในพื้นที่ โดยในตอนแรกเรียกกันว่า “กะไซพรืด” แปลว่างูใหญ่ ซึ่งสันนิษฐานว่าหมายถึงพญานาคตามความเชื่อของชางบ้านที่อาศัยอยู่แถบลุ่มน้ำโขง
แก่งสะพือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำกันในช่วงน้ำหลากราวเดือนมิถุนายนถึงธันวาคม สำหรับในช่วงฤดูแล้งราวเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมที่กระแสน้ำลด จะเป็นช่วงที่เราจะได้เห็นแก่งที่เต็มไปด้วยหินน้อยใหญ่โผล่พ้นลำน้ำขึ้นมา
เมื่อแก่งสะพือกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทางหน่วยงานท้องถิ่นจึงมีการปรับภูมิทัศน์บริเวณนี้ให้เป็นสวนสาธารณะอันร่มรื่น อีกทั้งยังมีร้านค้าและร้านอาหารท้องถิ่นมากมายไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
บริเวณพื้นที่ของแก่งสะพือนั้นมีทั้งสวนสาธารณะและตลาดเก่า
แก่งสะพือในช่วงน้ำลดจากฤดูแล้ง
ทิวทัศน์ของแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านแก่งสะพือ
ป้ายแสดงเขตพื้นที่ทางธรรมชาติอันควรอนุรักษ์
ความร่มรื่นภายในสวนสาธาณะแก่งสะพือ
หินที่โผล่พ้นลำน้ำขึ้นมาให้เห็นในช่วงหน้าแล้ง
การเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพ ไปยัง จังหวัดอุบลราชธานี โดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 606 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง 21 นาที
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพ ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จากกรุงเทพ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงหรือสถานีบางซื่อ ลงที่สถานีอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home
- อื่นๆ (others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 10 ชั่วโมง ลงที่สถานีขนส่งอุบลราชธานี โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์บริษัทขนส่งจำกัด (บขส) https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปแก่งสะพือ
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังแก่งสะพือมีระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะให้บริการในเส้นทางดังกล่าว นักท่องเที่ยวจึงอาจจะต้องเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังแก่งสะพือ
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดตลอดเวลา
ศาลาริมน้ำสำหรับนั่งพักผ่อนและชมทิวทัศน์ของแก่งสะพือและแม่น้ำมูล
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
ร้านค้าในบริเวณแก่งสะพือมีของขายหลากหลายทั้งเสื้อผ้าและอาหาร
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
แผงขายปลาวงและปลาน้ำจืดท้องถิ่นอื่นๆ
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว แก่งสะพือ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
แก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
(Kaeng Saphue, Ubon Ratchathani, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 045-441-115 (เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร)
เว็บไซต์ : http://i-san.tourismthailand.org/4555/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร https://phibuncity.go.th/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ https://i-san.tourismthailand.org/
เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี http://ubonratchathani.go.th/home/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ