อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

  • อ่าน (5,193)
  • By Webmaster
  • 12:12:51 | 17 ต.ค. 2562

อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

Burj Khalifa, Dubai, United Arab Emiretes


พื้นที่ด้านหน้าอาคารเบิร์จ คาลิฟาที่มีสระน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง

             อาคารเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกนับตั้งแต่เปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 2009 เป็นสิ่งก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล


แผนที่ตั้ง อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์


ประวัติ


ทัศนียภาพของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากลานน้ำพุขนาดใหญ่หน้าอาคาร 

             อาคารเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) แลนด์มาร์กสำคัญที่ปรากฏอยู่ในสื่อทุกสำนักที่มีการจัดอันดับอาคารที่สูงที่สุดในโลก โดยอาคารเบิร์จ คาลิฟา เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาเมืองขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม และสร้างรายได้ให้กับประเทศ หลังจากมีนโยบายทางเศรษฐกิจที่เน้นพึ่งพาทรัพยากรหลักของประเทศอย่างน้ำมันมากเกินไป ทำให้อาคารเบิร์จ คาลิฟา ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนผ่านแนวทางการพัฒนาประเทศครั้งใหญ่ ตัวอาคารได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกันชื่อ เอเดรียน ดี. สมิธ (Adrian D. Smith) จากสำนักงานสถาปนิกสคิดมอร์ โอวิงส์ แอนด์ เมอร์ริลล์ (SOM) บริษัทที่ออกแบบอาคารชื่อดังของโลกหลายแห่ง

           นอกจากโครงสร้างภายนอกอาคารที่สร้างสถิติใหม่หลายอย่างแล้ว พื้นที่ภายในก็อลังการไม่แพ้กันเพราะได้รับการออกแบบโดย จอร์โจ อาร์มานี (Giorgio Armani) นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี แบ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว สำนักงาน สระน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ จุดชมวิว ฯลฯ รวมทั้งหมด 163 ชั้น และยอดบนสุดของอาคารยังติดตั้งเสาอากาศสื่อสารของเจ้าหน้าที่ราชการในเมืองดูไบ โดยอาคารเปิดใช้งานครั้งแรกในวันที่ 2 ธันวาคม 2009 ใช้เวลาในการสร้างทั้งหมด 6 ปี

           ปัจจุบันอาคารเบิร์จ คาลิฟา ถือครองสถิติระดับโลกหลายสถิติ ทั้งการเป็นอาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดในโลก (163 ชั้น), มีความสูงที่สุดในโลก (828 ชั้น), มีปล่องลิฟต์ที่ยาวที่สุดในโลก (514 เมตร), ลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก (8 ม/วินาที) ฯลฯ และเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ปฏิบัติการไร้เงา (Mission: Impossible – Ghost Protocol) จนถูกยกให้เป็นอาคารที่ประสบความสำเร็จที่สุดหลังหนึ่งของโลกทั้งในด้านสถาปัตยกรรม และกลายเป็นแหล่งดึงดูรายได้จากนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ


การเดินทางจากสนามบินดูไบไปยังสถานีรถไฟหลักของเมืองดูไบ

             - รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่น

             - รถไฟ จากสนามบินให้เดินมาขึ้นรถไฟได้ทั้งด้านหน้าเทอร์มินัล 1 (Airport Terminal Station 1) และ 3 (Airport Terminal Station 3) เพื่อไปลงที่สถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่นของเมือง


การเดินทางจากสถานีรถไฟหลักของเมืองไปยังอาคารเบิร์จ คาลิฟา

             - รถยนต์ จาก Burjuman Station ไปยังอาคารเบิร์จ คาลิฟา ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที

             - รถไฟ จากสถานี Burjuman Station ให้ขึ้นรถไฟสายสีแดง ไปลงสถานี Burj Khalifa / Dubai Mall Station ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 21 นาที แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง อาคารเบิร์จ คาลิฟา


เวลาเปิด-ปิดทำการ

            เปิดให้เข้าตลอดเวลา / จุดชมวิวในชั้น 123 - 124 เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 23:00 น. / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ 10:00 น. – 24:00 น.

 
โครงสร้างสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารเบิร์จ คาลิฟา


อัตราค่าเข้าชม

            นักท่องเที่ยวเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิว และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้ทีเดียวในราคา 202 เดอร์แฮ่ม (AED) / เด็ก (4 - 12ปี) ราคา 170 เดอร์แฮ่ม (AED)

 
สถาปัตยกรรมของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากมุมต่างๆ โดยรอบอาคาร


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


นักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่นบริเวณหน้าอาคารเบิร์จ คาลิฟา


โครงสร้างของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากอีกฝั่งของตัวอาคาร


           นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว อาคารเบิร์จ คาลิฟา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

                       (Burj Khalifa, Dubai, United Arab Emiretes)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิว และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

                                    ได้ทีเดียวในราคา 202 เดอร์แฮ่ม (AED) / เด็ก (4-12ปี) ราคา 170 เดอร์แฮ่ม (AED)   

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าตลอดเวลา

                                   จุดชมวิวในชั้น 123 - 124 เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 23:00 น.

                                   พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ 10:00 น. – 24:00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

                       โทรศัพท์ : (+971) 4-366-1688

                       เว็บไซต์ : https://www.burjkhalifa.ae/en/

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองดูไบ https://dubaiculture.gov.ae/en/Pages/default.aspx

                                        เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเมืองดูไบ https://www.dubai-online.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน

มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย

อ่านต่อ

วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน

วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม

อ่านต่อ

8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม

เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน

อ่านต่อ

หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

อ่านต่อ

สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา

อ่านต่อ

วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ