อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

  • อ่าน (6,696)
  • By Webmaster
  • 12:12:51 | 17 ต.ค. 2562

อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

Burj Khalifa, Dubai, United Arab Emiretes


พื้นที่ด้านหน้าอาคารเบิร์จ คาลิฟาที่มีสระน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง

             อาคารเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกนับตั้งแต่เปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 2009 เป็นสิ่งก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล


แผนที่ตั้ง อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์


ประวัติ


ทัศนียภาพของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากลานน้ำพุขนาดใหญ่หน้าอาคาร 

             อาคารเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) แลนด์มาร์กสำคัญที่ปรากฏอยู่ในสื่อทุกสำนักที่มีการจัดอันดับอาคารที่สูงที่สุดในโลก โดยอาคารเบิร์จ คาลิฟา เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาเมืองขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม และสร้างรายได้ให้กับประเทศ หลังจากมีนโยบายทางเศรษฐกิจที่เน้นพึ่งพาทรัพยากรหลักของประเทศอย่างน้ำมันมากเกินไป ทำให้อาคารเบิร์จ คาลิฟา ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนผ่านแนวทางการพัฒนาประเทศครั้งใหญ่ ตัวอาคารได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกันชื่อ เอเดรียน ดี. สมิธ (Adrian D. Smith) จากสำนักงานสถาปนิกสคิดมอร์ โอวิงส์ แอนด์ เมอร์ริลล์ (SOM) บริษัทที่ออกแบบอาคารชื่อดังของโลกหลายแห่ง

           นอกจากโครงสร้างภายนอกอาคารที่สร้างสถิติใหม่หลายอย่างแล้ว พื้นที่ภายในก็อลังการไม่แพ้กันเพราะได้รับการออกแบบโดย จอร์โจ อาร์มานี (Giorgio Armani) นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี แบ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว สำนักงาน สระน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ จุดชมวิว ฯลฯ รวมทั้งหมด 163 ชั้น และยอดบนสุดของอาคารยังติดตั้งเสาอากาศสื่อสารของเจ้าหน้าที่ราชการในเมืองดูไบ โดยอาคารเปิดใช้งานครั้งแรกในวันที่ 2 ธันวาคม 2009 ใช้เวลาในการสร้างทั้งหมด 6 ปี

           ปัจจุบันอาคารเบิร์จ คาลิฟา ถือครองสถิติระดับโลกหลายสถิติ ทั้งการเป็นอาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดในโลก (163 ชั้น), มีความสูงที่สุดในโลก (828 ชั้น), มีปล่องลิฟต์ที่ยาวที่สุดในโลก (514 เมตร), ลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก (8 ม/วินาที) ฯลฯ และเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ปฏิบัติการไร้เงา (Mission: Impossible – Ghost Protocol) จนถูกยกให้เป็นอาคารที่ประสบความสำเร็จที่สุดหลังหนึ่งของโลกทั้งในด้านสถาปัตยกรรม และกลายเป็นแหล่งดึงดูรายได้จากนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ


การเดินทางจากสนามบินดูไบไปยังสถานีรถไฟหลักของเมืองดูไบ

             - รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่น

             - รถไฟ จากสนามบินให้เดินมาขึ้นรถไฟได้ทั้งด้านหน้าเทอร์มินัล 1 (Airport Terminal Station 1) และ 3 (Airport Terminal Station 3) เพื่อไปลงที่สถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่นของเมือง


การเดินทางจากสถานีรถไฟหลักของเมืองไปยังอาคารเบิร์จ คาลิฟา

             - รถยนต์ จาก Burjuman Station ไปยังอาคารเบิร์จ คาลิฟา ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที

             - รถไฟ จากสถานี Burjuman Station ให้ขึ้นรถไฟสายสีแดง ไปลงสถานี Burj Khalifa / Dubai Mall Station ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 21 นาที แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง อาคารเบิร์จ คาลิฟา


เวลาเปิด-ปิดทำการ

            เปิดให้เข้าตลอดเวลา / จุดชมวิวในชั้น 123 - 124 เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 23:00 น. / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ 10:00 น. – 24:00 น.

 
โครงสร้างสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารเบิร์จ คาลิฟา


อัตราค่าเข้าชม

            นักท่องเที่ยวเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิว และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้ทีเดียวในราคา 202 เดอร์แฮ่ม (AED) / เด็ก (4 - 12ปี) ราคา 170 เดอร์แฮ่ม (AED)

 
สถาปัตยกรรมของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากมุมต่างๆ โดยรอบอาคาร


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


นักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่นบริเวณหน้าอาคารเบิร์จ คาลิฟา


โครงสร้างของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากอีกฝั่งของตัวอาคาร


           นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว อาคารเบิร์จ คาลิฟา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

                       (Burj Khalifa, Dubai, United Arab Emiretes)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิว และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

                                    ได้ทีเดียวในราคา 202 เดอร์แฮ่ม (AED) / เด็ก (4-12ปี) ราคา 170 เดอร์แฮ่ม (AED)   

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าตลอดเวลา

                                   จุดชมวิวในชั้น 123 - 124 เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 23:00 น.

                                   พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ 10:00 น. – 24:00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์

                       โทรศัพท์ : (+971) 4-366-1688

                       เว็บไซต์ : https://www.burjkhalifa.ae/en/

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองดูไบ https://dubaiculture.gov.ae/en/Pages/default.aspx

                                        เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเมืองดูไบ https://www.dubai-online.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม

หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

อ่านต่อ

หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย

อ่านต่อ

หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน

อ่านต่อ

วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม

อ่านต่อ

วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด

อ่านต่อ

น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี

อ่านต่อ

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด

อ่านต่อ

ฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์

ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ