10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว

  • อ่าน (5,887)
  • By Webmaster
  • 13:24:23 | 30 ม.ค. 2567

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว

Top 10 Travel Destinations in Luang Prabang, Laos

           หลวงพระบางเมืองมรดกโลกที่ขึ้นชื่อ ด้วยวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคานที่ไหลมาบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบางจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นดินแดนแห่งความศรัทธา


แผนที่แสดงระยะทางจากวัดพูสี (ใจกลางเมือง) ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

 

1. วัดพระธาตุพูสี (Wat Phu Si) พระธาตุสวยเด่นเป็นสง่าบนยอดเขา

             วัดพระธาตุพูสี อีกชื่อหนึ่งคือ “พูสวง” หรือ “พูซวง” แต่เมื่อมีฤาษีไปอาศัยอยู่ชาวบ้านจึงเรียกว่าพูฤาษี หรือ “พูษี” มาจนถึงปัจจุบัน ตั้งตระหง่านอยู่บนเขากลางเมืองซัว หรือหลวงพระบาง เป็นยอดเขาที่มีความสูงราว 150 เมตร การได้เดินขึ้นไปบนยอดภูษีทำให้เห็นเมืองหลวงพระบางได้โดยรอบ และเห็นสายน้ำโขงยาวไปจนสุดสายตา เป็นที่กล่าวกันว่ามาหลวงพระบาง ถ้าไม่ได้ขึ้นพูสี ก็เท่ากับว่ามาไม่ถึงหลวงพระบาง 

           ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง มีประเพณีสำคัญอย่างหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับพูสี คือ การย่ำกลองบอกโมงยาม โดยตีกลองจากหอกลองบนยอดพูสีเพื่อบอกเวลาให้กับชาวเมืองหลวงพระบาง ซึ่งจะตีทุก 1 ชั่วยาม

ข้อมูลการเดินทาง

             - รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) นักท่องเที่ยวสามารถเรียกรถหลังจากลงเครื่องที่สนามบินได้เลย ส่วนมากเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงและมีสัมภาระมาก โดยระบุจุดหมายเป็นหลวงพระบางเนื่องจากพระธาตุพูสีตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง จุดที่รถจะนำนักท่องเที่ยวมาส่งเป็นปกติ อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 50,000 กีบ/รอบ หลังจากนั้นการเดินขึ้นไปนมัสการพระธาตุ นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าขึ้นบันได 328 ขั้น

อัตราค่าเข้าชม : ราคา 20,000 กีบ/คน

เวลาเปิด–ปิด : เวลา 06.30 น. - 18.30 น.

พิกัด GPS : 19°53'24.8"N 102°08'13.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระธาตุพูสี ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=222
 

2. วัดใหม่สุวันนะพูมาราม (Vat May Souvannapoumaram)

             วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่คนลาวเรียกสั้นๆ ว่า “วัดใหม่” เป็นวัดที่มีกำแพงหน้าอุโบสถสวยงามที่สุด กำแพงสีทองอร่ามนี้บอกเล่าเรื่องราวของพระเวชสันดรชาดกและรามเกียรติ์ได้อย่างดี ทำให้วัดใหม่สุวรรณภูมารามดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นตั้งแต่เดินขึ้นมาที่ระเบียงอุโบสถ สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 และได้รับการอุปถัมภ์จากกษัตริย์จึงทำให้มีการบูรณะและสร้างเพิ่มเติมหลายครั้ง

ข้อมูลการเดินทาง

             - รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) สามารถเรียกรถได้จากบริเวณโดยรอบ เนื่องจากเป็นบริเวณตัวเมืองจึงมีรถวิ่งผ่านให้เลือกได้ตลอด โดยราคาค่าแท็กซี่อยู่ที่ประมาณ 20,000 กีบ

             - รถจักรยานยนต์ (เช่า) อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ที่ชอบอิสระในการเดินทางด้วยตัวเอง สามารถเช่ารถได้ตามที่พักต่างๆ หรือซอยโจมา ซอยที่พักที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปใช้บริการเนื่องจากมีราคาค่อนข้างถูก ราคา 50,000 กีบ/วัน

อัตราค่าเข้าชม : ราคา 10,000 กีบ/คน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 น. – 17.00 น.

พิกัด GPS : 19°53'26.0"N 102°08'05.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดใหม่สุวรรณภูมาราม ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=190

 

3. วัดวิชุนราช (Visounnarath Temple) พระธาตุรูปทรงแปลกที่สุด

             วัดวิชุนราช วัดเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง ประตูไม้มีเอกลักษณ์ที่แกะสลักไว้อย่างสวยงาม และมีสถาปัตยกรรมแบบขอมที่ได้แบบมาจากปราสาทวัดภูแขวงจำปาศักดิ์ ในเขตลาวภาคใต้ จุดเด่นของวัดนี้คือพระธาตุหมากโม ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าทรงแตงโมผ่าครึ่ง วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2058 และในปี พ.ศ. 2343 เกิดการโจมตีจากพวกโจรธงดำ ทำให้วัดถูกทำลายไปส่วนหนึ่ง

ข้อมูลการเดินทาง

             - รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) สามารถเรียกรถได้จากบริเวณโดยรอบ เนื่องจากเป็นบริเวณตัวเมืองจึงมีรถวิ่งผ่านให้เลือกได้ตลอด ราคาค่าโดยสาร 5,000 กีบ โดยประมาณ

             - รถจักรยานยนต์ (เช่า) ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว ที่ชอบอิสระในการเดินทางด้วยตัวเอง สามารถเช่ารถได้ตามที่พักต่างๆ ราคาอยู่ที่ 50,000 กีบ/วัน

             - เดินเท้า เนื่องจากวัดพระธาตุหมากโมตั้งอยู่ใกล้กับพระธาตุพูสี ด้านฝั่งแม่น้ำคาน ไม่ได้ไกลจากตั้งเมือง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินไปได้ โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที

อัตราค่าเข้าชม : คนละ 20,000 กีบ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 40 บาท

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 น. – 17.00 น.

พิกัด GPS : 19°53'14.0"N 102°08'20.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดวิชุนราช ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=189
 

4. วัดเชียงทอง (Xieng Thong Temple) อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง

 

             วัดเชียงทอง นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของการมาเยือนเมืองมรดกโลกนี้ โดยเป็นวัดที่มีความสวยงามอลังการจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่ง “อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง” ที่งดงามที่สุดในดินแดนลาว

           นอกจากนี้ยังเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428 สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ เช่น พระอุโบสถ พระธาตุ ฯลฯ ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน และสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกประการ นับเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุด

ข้อมูลการเดินทาง

              - รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) สามารถเรียกรถได้จากบริเวณโดยรอบในตัวเมือง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายและไม่คุ้นเคยกับเส้นทางหรือมีสัมภาระมาก ราคาค่าโดยสาร 20,000 กีบ โดยประมาณ

              - รถจักรยานยนต์ (เช่า) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบอิสระในการเดินทางด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะไปสถานที่ไหนหรือแวะพักเมื่อไรก็ได้ สามารถเช่ารถได้ตามที่พักต่างๆ หรือซอยโจมา ราคาอยู่ที่ 50,000กีบ/วัน โดยประมาณ

อัตราค่าเข้าชม : ราคา 20,000 กีบ/คน

เวลาเปิด–ปิด : เวลา 06.00 น. – 17.30 น.

พิกัด GPS : 19°53'51.1"N 102°08'35.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดเชียงทอง ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=188
 

5. พระบรมมหาราชวัง/พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (Royal Palace Museum)

             พระราชวังหลวง ปัจจุบันถูกปรับให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์หลวง โดยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงโบราณวัตถุและของมีค่า เช่น บัลลังก์ ธรรมาสน์ เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิต พระพุทธรูป และวัตถุโบราณ รวมถึงของขวัญจากประเทศต่างๆ ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ลักษณะอาคารเป็นชั้นเดี่ยวยกพื้นสูง ผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาว ภายในห้องยังมีฉากลับแลผ้าไหมปักลวดลาย ด้วยฝีมือ ประณีต และงาช้างแกะสลักอีกไม่น้อย ที่เหลือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ภาพบุคคล บรรณาการจากต่างชาติ และ งานศิลปะมากมายประดับกระเบื้องอยู่รอบตัวอาคาร

ข้อมูลการเดินทาง

             รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มนั่งมาได้หลังจากลงเครื่องที่สนามบินแล้ว ส่วนมากเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงและมีสัมภาระมาก โดยระบุจุดหมายเป็นหลวงพระบางเนื่องจากพระราชวังหลวงตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพระธาตุพูสีซึ่งเป็นบริเวณใจกลางเมือง จุดที่รถจะนำนักท่องเที่ยวมาส่งเป็นปกติ อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 50,000 กีบ/รอบ

อัตราค่าเข้าชม : ราคา 30,000 กีบ/คน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร

          ช่วงเช้า  8.00 น. - 11.30 น. ปิดขายบัตรเข้าชมสำหรับภาคเช้าเวลา 11.00 น.

          ช่วงบ่าย 13.30 น. - 16.00 น. ปิดขายบัตรเข้าชมสำหรับภาคบ่ายเวลา 15.30 น.

พิกัด GPS : 19°53'32.1"N 102°08'07.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระบรมมหาราชวัง ได้ที่ http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=186
 

6. น้ำตกตาดกวางสี (Tat Kuang Si Waterfalls) สวรรค์แห่งหลวงพระบาง

             น้ำตกตาดกวางสี หรือ น้ำตกกวางสี เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวแถบยุโรปนิยมมาผจญภัย มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆน้ำตกและสามารถเลาะข้างน้ำตกไปชมน้ำตกชั้นบน สามารถเล่นน้ำบริเวณลำธารได้

           นอกจากนี้ยังมีศูนย์อนุรักษ์หมี ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมหมีจากการช่วยเหลือจากการค้าสัตว์ป่าในสถานที่ต่าง ๆ และจากการล่าสัตว์ของชาวบ้านในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ซึ่งค่าเข้าชมน้ำตกกวางสีในส่วนหนึ่งก็เพื่อนำมาอนุรักษ์บำรุงหมี

ข้อมูลการเดินทาง

             - รถจักรยานยนต์ (เช่า) ให้ขับไปตามถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 1 ทางทิศใต้ของหลวงพระบาง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปโดยประมาณ 30 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบอิสระในการเดินทาง ที่จะหยุดพักได้อย่างตามใจ ราคาอยู่ที่ 50,000 กีบ/วัน

             - รถจัมโบ้/สองแถว (เหมา) ซึ่งจะออกจากตลาดชาวเขาหรือตลาดม้ง ตรงสี่แยกใจกลางเมืองหลวงพระบาง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการขับรถเอง หรือมากันเป็นกลุ่ม ราคาตามตกลง

อัตราค่าเข้าชม :  ราคา 20,000 กีบ/คน

เวลาเปิด–ปิด : ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 17.30 น.

พิกัด GPS : 19°44'58.2"N 101°59'30.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตาดกวางสี ได้ที่ http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=219
 

7. ถ้ำปากอู (Pak Ou Caves)

             ถ้ำปากอู หรือ ถ้ำติ่ง เป็นถ้ำที่อยู่ปากทางสบอู ตั้งอยู่กลางภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง ประมาณ 25 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามบ้านปากอู เป็นจุดเชื่อมของแม่น้ำ สองสาย คือแม่น้ำโขง และแม่น้ำอู มาบรรจบกัน จึงเป็นที่มาของ ชื่อ "ถ้าปากอู" แห่งนี้ ซึ่งถ้ำนี้มีความสำคัญมานานกับชาวลาว เพราะถือได้ว่าเป็นเทวสถานของเจ้าที่แม่น้ำ และสมัยโบราณใช้เป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ  

ข้อมูลการเดินทาง

             รถจักรยานยนต์ (เช่า) นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถจักรยานยนต์ได้ตามที่พักหรือในซอยโจมา ซอยยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แล้วขับไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 13 ระยะทางโดยประมาณ 30 กิโลเมตร เลียบแม่น้ำโขงไปเรื่อยๆ จนถึงหมู่บ้านปากอูเพื่อขึ้นเรือข้ามไปยังถ้ำปากอู ราคาค่าเช่ารถอยู่ที่ 50,000 กีบ/วัน

             - เรือ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เดินเรือบริเวณท่าเรือปากอูหรือท่าเรือช่างไหเพื่อเดินทางข้ามฝั่งไปยังถ้ำติ่งได้เลย โดยราคาค่าเรือประมาณ 5,000 กีบ/คน

อัตราค่าเข้าชม : ราคา 20,000 กีบ/คน

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น.

พิกัด GPS : 20°02'58.7"N 102°12'36.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถ้ำปากอ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=221
 

8. ตักบาตรข้าวเหนียว (Almsgiving with sticky rice) วัฒนธรรมอันเลื่องลือ

             การตักบาตรข้าวเหนียว ตอนเช้าในหลวงพระบาง ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยังคงสืบทอดยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน นอกเหนือจากมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม และเพราะเหตุผลนี้ หลวงพระบางจึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก ด้านวัฒนธรรม

           นอกจากนี้การตักบาตรด้วยข้าวเหนียวมีมาตั้งแต่ศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ เพราะชาวหลวงพระบางรับประทานข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก มีข้าวเจ้าหรือข้าวสวยน้อยมาก นานๆ จึงจะมีการหุงข้าวเจ้า ยกเว้นในสมัยนี้

ข้อมูลการเดินทาง

             - เดินเท้า เนื่องจากเส้นทางที่พระเดินบิณฑบาตกันนั้นอยู่บริเวณใจกลางเมืองหลวงพระบางอยู่แล้ว จะพบเห็นพระบิณฑบาตจำนวนค่อนข้างมาก นักท่องเที่ยวจึงสามารถเข้าร่วมตักบาตรข้าวเหนียว ประเพณีที่เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของหลวงพระบางได้เลย ณ บริเวณใจกลางเมือง

อัตราค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย

เวลาในการตักบาตร : 05.00 น. – 06.00 น.

ข้อควรปฏิบัติ : นักท่องเที่ยวควรอยู่ในท่าทีสำรวม และสุภาพ

พิกัด GPS : 19°53'10.9"N 102°08'09.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การตักบาตรข้าวเหนียว ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=218
 

9. ตลาดเช้าหลวงพระบาง (Morning Market) มนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิต

             ตลาดเช้าหลวงพระบาง เป็นตลาดสดแบบดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศลาว ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านหลวงพระบาง ทั้งยังสามารถหาอาหารมื้อเช้ากินในราคาประหยัด ซึ่งส่วนมากนักท่องเที่ยวที่ใส่บาตรข้าวเหนียวเสร็จแล้ว จะนิยมแวะเดินชมตลาดเช้าหลวงพระบางก่อนไปเที่ยวต่อเนื่องจากอยู่ในเส้นทางที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น พระธาตุพูสี พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง

ข้อมูลการเดินทาง

             - รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) นักท่องเที่ยวสามารถเรียกรถได้จากบริเวณโดยรอบหรือจุดที่นักท่องเที่ยวอยู่ได้ตลอดเวลา เนื่องจากรถสกายแล็ปจะมีวิ่งอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้การเดินทางด้วยรถนี้เป็นที่นิยมและสะดวกสบาย โดยนักท่องเที่ยวต้องนั่งไปลงที่วัดใหม่ฯและเดินเท้าเข้าที่ตัวตลาดเอง

             - เดินเท้า เนื่องจากตลาดเช้าหลวงพระบางตั้งอยู่ขนานกับถนนสีสว่างวงศ์ ข้างโรงแรมรามายนะ และวัดใหม่สุวันนะพูมาราม ซึ่งเป็นบริเวณใจกลางหลวงพระบางจึงทำให้สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายและเดินเท้าไปยังตลาดเช้าได้

อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด–ปิด : 05.00 น. – 10.00 น.

พิกัด GPS : 19°53'28.5"N 102°08'03.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดเช้าหลวงพระบาง ได้ที่ http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=216
 

10. ตลาดมืด ณ หลวงพระบาง (Luang Prabang Night Market) สวรรค์ยามค่ำคืน ณ หลวงพระบาง

             ตลาดมืด หรือถนนข้าวเหนียว เป็นสีสันยามค่ำคืนของเมืองหลวงพระบาง เกิดขึ้นในหลวงพระบางระหว่างเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จนกระทั่งถึง 23.00 น. โดยถนนศรีสว่างวงศ์จะถูกแปรสภาพกลายเป็นตลาดขายของพื้นเมืองของชาวบ้านหลวงพระบาง ซึ่งรัฐบาลจัดให้ช่วงเวลาดังกล่าวของถนนสายนี้เป็นเวลาของถนนคนเดิน รถทุกชนิดจะไม่สามารถเข้าออกหรือแล่นผ่านได้ นับเป็นตลาดแห่งการค้าที่คึกคักของเมืองหลวงพระบางจนมีคำกล่าวที่ว่า “หากกรุงเทพฯ มีถนนข้าวสาร หลวงพระบางก็มีถนนข้าวเหนียว”

ข้อมูลการเดินทาง

             - เดินเท้า เนื่องจากตลาดมืดหรือถนนข้าวเหนียวเป็นตลาดกลางคืนที่มีระยะทางถึง 1 กิโลเมตร บนถนนศรีสว่างวงศ์ ครอบครองพื้นที่ใจกลางเมืองของหลวงพระบางเกือบทุกพื้นที่และยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ เพราะรัฐบาลได้กำหนดให้ระหว่างเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จนกระทั่งถึง 23.00 น. เป็นเวลาของถนนคนเดินนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรนักท่องเที่ยวก็สามารถไปได้อย่างสะดวกและ หลวงพระบางไนท์มาร์เก็ต ก็เป็นที่สะดุดตาอย่างแน่นอน (สามารถนั่งรถสกายแล็ปจากสนามบินมายังตลาดมืดได้ในราคา 50,000 กีบ/รอบ)

อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด–ปิด : เวลา 17.00 น. – 23.00 น.

พิกัด GPS : 19°53'21.3"N 102°08'01.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดมืด ณ หลวงพระบาง ได้ที่ http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=217
 

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : 

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
   
https://www.accuweather.com

- ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหลวงพระบาง
   http://uxolao.org/ , http://www.fwab.org/fvc

- สกุลเงินที่ใช้ : กีบ (LAK)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศลาว

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ