- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (1,272)
- By Webmaster
- 10:31:32 | 13 พ.ค. 2567
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
Top 11 Travel Destinations in Kanagawa, Japan
จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้
แผนที่ตั้ง 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า
1. ชายหาดยูอิกาฮามะ
ชายหาดยูอิกาฮามะ (Yuigahama Beach) เป็นสถานตากอากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมในเมืองคามาคุระ โดยเฉพาะในฤดูร้อนช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะเป็นสถานที่เล่นน้ำยอดนิยมที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นชายหาดที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียวจึงมีความสะดวกในการเดินทาง และยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักรองรับอย่างครบครัน อีกทั้งด้วยสภาพของชายหาดที่เป็นหาดน้ำตื้นบริเวณกว้างทำให้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และชายหาดนี้ยังใช้จัดงานแข่งขันพลุดอกไม้ไฟประจำเมืองคามาคุระที่จัดขึ้นทุกปีในเดือนกรกฎาคมอีกด้วย นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวที่แม้จะลงเล่นน้ำไม่ได้ แต่สามารถเดินชมทัศนียภาพที่สวยงามของชายฝั่งทะเลและภูเขาไฟฟูจิในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งได้อย่างชัดเจน
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 35°18'33.1"N 139°32'32.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ชายหาดยูอิกาฮามะ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1121
2. องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ (Kamakura Daibutsu / The Great Buddha) เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเนื้อสำริดองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกว้างของวัดโคโตะคุอิน (Kotoku-in Temple) องค์พระใหญ่นี้มีความสำคัญเพราะเป็นองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุกว่าแปดร้อยปีที่มีความยิ่งใหญ่ สง่างามและน่าเลื่อมใส และยังเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยนอกจากจะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองคามาคุระแล้วยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 300 เยน / เด็กอายุ 6 - 12 ปี ราคา 150 เยน
ค่าเข้าชมด้านในองค์พระใหญ่ ราคา 50 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง เดือนกันยายน เปิดทำการเวลา 08:00 - 17:30 น.
เดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม เปิดทำการเวลา 08:00 - 17:00 น.
พิกัด GPS : 35°19'00.2"N 139°32'08.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/1130
3. วัดฮาเสะเดระ
วัดฮาเสะเดระ (Hasedera Temple) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดฮาเสะคันนง (Hase Kannon) เป็นวัดพุทธนิกายโจโดะ ภายในประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม 11 เศียร ซึ่งแกะสลักจากไม้การบูรขนาดใหญ่ สูงถึง 9.18 เมตร นับเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ใกล้กับโถงหลักเป็นโถงพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิม (Kannon Museum) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเจ้าแม่กวนอิม วัดฮาเสะเดระมีพื้นที่กว้างขวาง ภายในบริเวณวัดยังมีสวนไฮเดรนเยียอันขึ้นชื่อของเมืองคามาคุระ โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันมากเป็นพิเศษ และอย่าพลาดชมถ้ำเบนเทนคุทสึ ที่สักการะพระเบนไซเทน หนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ดของญี่ปุ่น
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก (6 - 11 ปี) 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือน มีนาคม - เดือน กันยายน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:30 น.
เดือน ตุลาคม - เดือน กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:00 น.
พิกัด GPS : 35°18'44.7"N 139°31'58.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดฮาเสะเดระ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/1247
4. วัดโอฟุนะคันนงจิ
วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji) เป็นวัดพุทธที่สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม โดดเด่นด้วยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวที่เรียกว่า เบียคคุอิคันนง ซึ่งมีความสูงถึง 25 เมตร มองเห็นเด่นชัดตั้งแต่บนสถานีรถไฟ Ofuna แต่ที่จริงแล้วรูปปั้นนี้มีเพียงครึ่งตัวเท่านั้น วัดโอฟุนะคันนงจิยังเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหยื่อในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิในครั้งนั้นคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นหลายแสนคน เจ็บป่วยจากสารกัมมันตรังสีอีกมากมาย ภายในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมมีห้องนิทรรศการที่มีพระพุทธรูปนับพันองค์ สร้างขึ้นเพื่ออธิษฐานให้กับเหยื่อสงครามและให้โลกสงบสุข
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 100 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เดือน กุมภาพันธ์ - เดือน ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 09:00 – 16:50 น.
เดือน พฤศจิกายน - เดือน มกราคม ตั้งแต่เวลา 09:00 – 16:20 น.
พิกัด GPS : 35°21'10.5"N 139°31'42.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโอฟุนะคันนงจิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1246
5. ไชน่าทาวน์
ไชน่าทาวน์ (China Town) ย่านคนจีนประจำเมืองโยโกฮาม่าที่กินพื้นที่แค่ประมาณ 0.2 ตารางกิโลเมตร ทว่ามีความเข้มข้นทางด้านวัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของชุมชมชาวจีนที่มาตั้งรกรากกันยาวนานนับร้อยปี ในสมัยอดีตบริเวณนี้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับทำประมงขนาดเล็กของคนในละแวกเท่านั้น แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1859 ญี่ปุ่นได้เปิดประเทศให้ชาติอื่นๆ โดยรอบได้เข้ามาทำการค้าขายได้ และหนึ่งในกลุ่มชนชาติที่มาทำการค้าขายที่อ่าวโยโกฮาม่ามากที่สุดก็คือคนจีนนั่นเอง จึงเกิดเป็นชุมชนชาวจีนประจำเมืองหรือที่เรียกกันติดปากว่า ไชน่าทาวน์ โดยภายในย่านไชน่าทาวน์จะเป็นถนนคนเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารจีนสารพัดประเภทให้เลือกทานกัน รวมถึงยังมีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่งที่กระจายตัวอยู่โดยรอบ
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่ภายในอาคารเปิดให้เข้าชมเวลา 11:00 – 20:00 น.
พิกัด GPS : 35°26'36.3"N 139°38'46.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไชน่าทาวน์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=643
6. สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด
สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด (Yokohama Cosmo World) สถานที่ที่เป็นแหล่งรวมรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเมืองท่าโยโกฮาม่าในจังหวัดคานากาว่ามายาวนาน ภายในมีการแบ่งโซนเครื่องเล่นตามความเหมาะสมของอายุ และกิจกรรมสนุกๆ แบบจัดเต็ม ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงาม เพราะตั้งอยู่ริมทะเลของอ่าวโยโกฮาม่า (Yokohama Bay) กินอาณาบริเวณ 20,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ที่ถมขึ้นมาจากทะเล สวนสนุกคอสโม่เวิล์ดยังเป็นที่ตั้งของชิงช้าสววรค์คอสโม (Cosmo Clock 21) ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น กับความสูง 112.5 เมตร นับเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง โดยศูนย์กลางของชิงช้าสวรรค์จะมีการติดตั้งนาฬิกาดิจิตอล (Clock 21) ขนาดใหญ่ โดยพอตกค่ำตัวชิงช้าสวรรค์จะส่องแสงไฟหลากสีสันออกมาสร้างบรรยากาศโรแมนติกทั่วทั้งอ่าวโยโกฮาม่า
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ส่วนเครื่องเล่นภายในสวนสนุกต้องเสียต่างหาก โดยมีราคาตั้งแต่ 100 - 800 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 22:00 น. (ปิดทุกวันพฤหัสบดี / วันหยุดประจำชาติ)
พิกัด GPS : 35°27'18.5"N 139°38'13.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=645
7. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโยโกฮาม่า
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโยโกฮาม่า (Aqua Museum Yokohama) หรือ Yokohama Hakkejima Sea Paradise ตั้งอยู่บนเกาะทางตอนใต้ของโยโกฮาม่า ถือเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในแบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่ โซนอควาเรียมในร่ม (Aqua Museum) โซนปลาโลมา (Dolphin Fantasy) โซนสัมผัสสัตว์น้ำ (Fureai Lagoons) โซนตกปลา (Umi Farm) ซึ่งไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ก็น่าจะอยู่ที่โชว์การแสดงความสามารถของบรรดาสัตว์ทะเลน่ารักๆ อย่างวอลรัส โลมา และโลมาสีขาว ที่อควาสเตเดียม (Aqua Stadium) บริเวณชั้น 4 ของโซนอควาเรียมในร่ม เรียกรอยยิ้มและความประทับใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นบ้านของสัตว์น้ำน้อยใหญ่กว่า 500 ชนิดร่วม 100,000 ตัวแล้ว ที่นี่ยังมีทั้งเครื่องเล่น ร้านอาหาร ช้อปปิ้งสโตร์ และโรงแรมที่พร้อมจะมอบช่วงเวลาสุดพิเศษแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน
ค่าเข้าชม : บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ เริ่มต้นที่ราคา 5,300 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 17:00 น. (บางวันปิดเวลา 18:00, 18:30 น.)
พิกัด GPS : 35°20'16.6"N 139°38'47.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโยโกฮาม่า ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1218
8. วัดเคนโชจิ
วัดเคนโชจิ (Kenchoji Temple) ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1253 เป็นวัดเซนที่มีอายุแปดร้อยกว่าปี มีความเก่าแก่และยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองคามาคุระ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของศาลา หอระฆัง และหอปฏิบัติธรรม รวมถึงสวนสไตล์เซน และพลาดไม่ได้กับการสักการะพระพุทธรูปพระกษิติครรภโพธิสัตว์จิโซ โบซัตสุ (Jizo Bosatsu / Bodhidattava) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าสามารถช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย นอกจากนี้หากมีเวลาเหลือและเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สามารถเดินขึ้นไปด้านบนเนินเขาประมาณ 15-20 นาทีก็จะพบกับจุดชมวิวบริเวณศาลเจ้าซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของวัดเคนโชจิที่อยู่เบื้องล่างและยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 500 เยน / เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ราคา 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : วัดเคนโชจิ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:30 - 16:30 น.
พิกัด GPS : 35°19'53.2"N 139°33'17.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดเคนโชจิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1122
9. ศาลเจ้าฮาโกเน่
ศาลเจ้าฮาโกเน่ (Hakone Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,250 ปี ว่ากันว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 712 เพื่อบูชาเทพเจ้า ฟูจิวะระโนะคามิ ผู้ปกป้องภูเขาไฟฟูจิ ศาลเจ้าแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ ดึงดูดผู้แสวงบุญจากทั่วทุกมุมโลก ภาพของทะเลสาบอะชิ เสาโทริอิสีแดงริมทะเลสาบ และมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ถือเป็นมุมยอดนิยมซึ่งกลายเป็นภาพคุ้นตานักท่องเที่ยว โดยเสาโทริอิในภาพเหล่านั้นก็คือบริเวณที่ตั้งของศาลเจ้าฮาโกเน่นั่นเอง ด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ประกอบด้วยอาคารหลัก เสาโทริอิสีแดงสดใส และขุมน้ำศักดิ์สิทธิ์ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น บวกกับที่ตั้งซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะในวันที่อากาศแจ่มใส ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนตลอดทั้งปี
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าฮาโกเน่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:00 - 17:00 น.
พิกัด GPS : 35°12'17.5"N 139°01'30.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าฮาโกเน่ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/234
10. ทะเลสาบอะชิ
ทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi) หรือในชื่อเรียกอื่นๆ เช่น ทะเลสาบฮาโกเน่ ทะเลสาบอะชิโนะโกะ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีทิวทัศน์งดงาม สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น ทะเลสาบอะชินั้นเกิดขึ้นจากการมอดดับของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อ 3,000 ปีก่อน อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเล 725 เมตร มีระยะทางโดยรอบทะเลสาบ 21 กิโลเมตร และตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 100 กิโลเมตร นอกจากชื่อเสียงในเรื่องจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ บริเวณรอบๆทะเลสาบอะชิยังเต็มไปด้วยรีสอร์ทที่มีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมาก และมีจุดเด่นคือการล่องเรือชมวิวข้ามทะเลสาบด้วยเรือแบบโจรสลัดตะวันตก
ค่าเข้าชม : บริเวณทะเลสาบอะชิ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด : เนื่องจากทะเลสาบอะชิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ
พิกัด GPS : 35°12'34.8"N 139°00'31.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทะเลสาบอะชิ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/235
11. ฮาโกเน่โรปเวย์
ฮาโกเน่โรปเวย์ (Hakone Ropeway) เป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้าที่ตั้งอยู่ที่ตำบลฮาโกเน่ อำเภออาชิงาราชิโมะ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น ฮาโกเน่โรปเวย์ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของหุบเขาโอวาคุดานิที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้วและชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ ทัศนียภาพรอบๆ เมื่อมองจากบนกระเช้าลอยฟ้าขณะที่เคลื่อนผ่านภูเขาเบื้องล่างไปเรื่อยๆ นั้นสวยงาม เพลิดเพลิน และเป็นบรรยากาศที่ชวนดื่มด่ำยิ่ง โดยเส้นทางกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่โรปเวย์นั้นมีให้เลือก 5 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ 1. เส้นทางภูเขาโซอุนไปโอวากุดานิ 2. เส้นทางภูเขาโซอุนไปอุบาโกะ 3. เส้นทางภูเขาโซอุนไปโทเง็นได 4. เส้นทางโอวากุดานิไปอุบาโกะ 5. เส้นทางโอวากุดานิไปโทเง็นได ฮาโกเน่โรปเวย์เคยถูกบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ค เมื่อปี ค.ศ. 2008 และ 2009 สองปีซ้อนว่า เป็นกระเช้าที่มีสถิติผู้โดยสารมาใช้บริการต่อปีอย่างเนืองแน่นมากที่สุดในโลก
ค่าเข้าชม : ราคาตั๋วโดยสารกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่โรปเวย์ (เที่ยวเดียว) มีหลากหลายราคาตามเส้นทางดังนี้ ภูเขาโซอุน ไป โอวากุดานิ 840 JPY ภูเขาโซอุน ไป อุบาโกะ 1,050 JPY ภูเขาโซอุน ไป โทเง็นได 1,370 JPY โอวากุดานิ ไป อุบาโกะ 730 JPY โอวากุดานิ ไป โทเง็นได 1,050 JPY
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 16:00 น.
พิกัด GPS : 35°14'40.4"N 139°01'10.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮาโกเน่โรปเวย์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/559
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com/
- ข้อมูลการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
https://www.japan.travel/th/th/
- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ช็อคโกแลตฮิลส์ จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยคว่ำที่มีลักษณะค่อนข้างจะสมมาตร เรียงกันเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร ลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 120 เมตร ความน่าอัศจรรย์อันเกิดจากฝีมือของธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ คือหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะโบฮอล (Bohol) มีฐานะเป็นทั้งเกาะและจังหวัด โดยมีเมืองหลวงที่ชื่อว่าตัคบิลารัน (Takbilarun) โบฮอลเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของฟิลิปปินส์ และเกาะนี้ยังถูกเลือกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของฟิลิปปินส์อีกด้วย เกาะโบฮอลมีความอุดมสมบูรณ์และสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย โดยโซนทางใต้ของเกาะเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงหลายจุด… Palanla จะพาไปชมความสวยงามและน่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของฟิลิปปินส์ที่คุณอาดไม่เคยคาดคิด ผ่าน 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ดังต่อไปนี้
อ่านต่อหาดอโลนา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
หาดอโลนา (Alona Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของเกาะปังเลา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส และบรรยากาศที่คึกคัก ทำให้หาดอโลนาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด
อ่านต่อล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค (Loboc River Cruise) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะโบฮอล เพราะแม่น้ำสายนี้ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล การล่องเรือไปตามแม่น้ำจะทำให้ได้สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ และเห็นวิถีชีวิตสองฝั่งของคนบนเกาะนี้
อ่านต่อเกาะเวอร์จิน จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะเวอร์จิน (Virgin Island / Pungtud Island) อีกหนึ่งความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของโบฮอล ด้วยหาดทรายขาวละเอียด ผืนน้ำบริสุทธิ์ และสันทรายรูปตัว C ที่ทอดยาวไปจนลับตา
อ่านต่อเกาะบาลิคาซัค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะบาลิคาซัค (Balicasag Island) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของจังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความโดดเด่นทางธรรมชาติที่งดงาม ทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใสราวกระจก ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึก รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนริมทะเล
อ่านต่อเกาะนามิ จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้
เกาะนามิ (Nami Island) เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดคังวอน (Gangwon) ไม่ไกลจากกรุงโซล ขึ้นเชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและความโรแมนติก โดยเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรียส์เกาหลีเรื่อง Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่แฟนซีรียส์จำนวนมากต้องไม่พลาดไปตามรอย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สวรรค์บนดินแห่งนี้เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตระการตาของภูเขาหินทรายที่สูงตระหง่านกับป่าไม้เขียวชอุ่ม จางเจียเจี้ยจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จนได้รับการขนานนามว่า "แพนโดร่าแห่งโลกมนุษย์"
อ่านต่อภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า "ประตูสวรรค์" บวกกับความสวยงามของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจระดับ 5 A ที่นี่จึงได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992 อีกด้วย
อ่านต่อแกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) เป็นที่ตั้งของสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Floor Bridge) ทางเดินลอยฟ้าเหนือแกรนด์แคนยอนอันตระการตา
อ่านต่อ