วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว

  • อ่าน (9,661)
  • By Webmaster
  • 10:06:30 | 13 ส.ค. 2561

วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว

Xieng Thong Temple, Luang Prabang, Laos


วัดเชียงทอง เพชรเม็ดเอกแห่งล้านนา แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว

           วัดเชียงทองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของการมาเยือนเมืองมรดกโลกนี้ โดยเป็นวัดที่มีความสวยงามอลังการจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่ง “อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง” ที่งดงามที่สุดในดินแดนลาว



ประวัติของวัดเชียงทอง


ริมแม่น้ำโขง ที่วัดเชียงทองตั้งอยู่

           วัดเชียงทองได้ถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนา ก่อนที่พระองค์จะย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ วัดนี้จึงถือว่าเป็น “วัดประตูเมือง” และท่าเทียบเรือด้านเหนือสำหรับการเสด็จประพาสทางชลมารคของกษัตริย์หลวงพระบางด้วย ทำให้วัดเชียงทองได้รับการอุปถัมภ์มาโดยตลอด


พระประธานที่ประดิษฐานภายในสิมหรือ ชาวลาวเรียกว่า พระองค์หลวง

           และที่สำคัญยังเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428 สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ เช่น พระอุโบสถ ซุ้มประตูโขง พระธาตุ หอไหว้น้อย หอไหว้สีกุหลาบ หอไหว้หลังพระอุโบสถ หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ฯลฯ ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน และสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกประการนับเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ และเป็นความโชคดีของวัดเชียงทองอย่างยิ่ง

การเดินทางจากสนามบินไปตัวเมือง

             - รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือมีสัมภาระติดตัวค่อนข้างมาก ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 20 นาที โดยค่าโดยสารจากสนามบิน ราคา 50,000 กีบ นั่งได้ 3 คน (ลงที่เดียวกัน)

             - รถโดยสารรับจ้างทั่วไป โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินออกจากสนามบินแล้วข้ามถนนมายังอีกฝั่ง จะมีรถตุ๊กตุ๊กวิ่งไปมาอยู่ตลอด สามารถต่อรองราคาแล้วระบุจุดหมายปลายทางได้  ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 กีบ

             - รถเมล์ ต้องข้ามฝั่งเช่นเดียวกันกับรถโดยสารรับจ้างทั่วไป ซึ่งจะเป็นรถเมล์สีเขียววิ่งสวนกันไปมา ราคาอยู่ที่ 5,000 กีบ/คน แต่รถมาไม่ถี่นัก สามารถดู GPS ของรถเมล์ที่ต้องการได้ที่ https://lao.busnavi.asia

การเดินทางไปวัดเชียงทอง

             - รถมอเตอร์ไซค์ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ได้ตามที่พักหรือในเมือง ราคาวันละประมาณ 100,000 กีบ

             - รถรับจ้างท้องถิ่น มีบริการรถรับจ้างท้องถิ่นทั้งจากสนามบินและตัวเมือง สามารถว่าจ้างแบบเหมาจ่ายเพื่อรับ-ส่งถึงอาคารผู้โดยสารได้

             - รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 13 ตัดเข้าถนน Phetsarat จากสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมือง

เวลาในการเปิด – ปิดทำการ

           วัดเชียงทองเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 17.30 น.


บันไดทางเดินขึ้นวัดเชียงทอง

การซื้อบัตรเข้าชม

           สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ด้านหน้าวัดเชียงทอง ราคา 20,000 กีบ

จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณวัด


หลังคาของสิมที่ซ้อนกัน 3 ตับ ลักษณะโค้งงอนและลาดต่ำ

             พระอุโบสถ (ชาวลาวเรียกว่า “สิม”) ของวัดนี้ถือว่าเป็นแบบอย่างของหลวงพระบางอันเก่าแก่ สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน มีโครงสร้างที่ไม่สูงนัก มีความงดงามด้วยสัดส่วนและการประดับตกแต่งต่างๆ อย่างลงตัว จนได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามอลังการมากที่สุด เปรียบประดุจอัญมณีแห่งงานสถาปัตยกรรมของราชอาณาจักรลาวอย่างแท้จริง

           สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คือ หลังคาซ้อน 3 ตับ ลักษณะโค้งงอน และลาดต่ำลงมามากถือเป็นแบบฉบับของสิมแบบล้านช้าง ซึ่งชาวลาว เปรียบสิมหลังคาโค้งต่ำอย่างสิมวัดเชียงทอง หรืออีกหลายวัดในหลวงพระบางเป็นสิมสุภาพสตรี ส่วนสิมทรงสูงอย่างวัดทางเวียงจันทน์หรือวัดในเมืองไทยเป็นสิมสุภาพบุรุษ นอกจากนี้เพื่อป้องกันฝนสาดเข้าไปในพระอุโบสถด้วย


ช่อฟ้า 17 ช่อ อันหมายถึงเป็นวัดของพระมหากษัตริย์และยังเป็นรูปเขาพระสุเมรุ จำลองจักรวาลตามคติพุทธศาสนา

           บนกลางสันหลังคามีการทำ “ช่อฟ้า” รูปเขาพระสุเมรุ และทิวเขาสัตตบริภัณฑ์ที่ล้อมรอบ 7 ชั้น รองรับด้วยปลาอานนท์ อันเป็นรูปแบบการจำลองจักรวาลตามคติทางพุทธศาสนา เช่น เดียวกับที่ปรากฏในจิตรกรรมของล้านนาและอยุธยา ซึ่งหน้าบันของพระอุโบสถ แกะสลักเป็นรูปดอกตาเว็น หรือลายดวงอาทิตย์ ที่ดูคล้ายกับลายดอกจอกของไทย


ถัดหน้าบันของพระอุโบสถเข้ามา ภายในประดิษฐานพระประธาน

             วิหารน้อย (หรือหอไหว้น้อย) มีหลังคาเป็นรูปใบโพธิ์ตัดครึ่ง อันเป็นรูปแบบของลาวดั้งเดิมซึ่งประดับด้วยกระจกสีงดงามมาก ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย พระราชทานให้แก่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์


อูบมุง ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ในหลวงพระราชทานให้เจ้าศรีสว่างวัฒนา (ด้านข้างสิม)

             หอไหว้สีกุหลาบ (สีชมพู) เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่มีการบูรณะครั้งใหญ่โดย “ท้าวคำม้าว” เมื่อ พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นการฉลอง 25 พุทธศตวรรษของพระพุทธศาสนา ประดับด้วยกระจกสีต่างๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปะติดปะต่อเป็นภาพเล่าเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องราววรรณกรรมชั้นเอกของลาว และเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวบ้านทั่วไป


วิหารด้านข้างสิมอีกฝั่ง โดยมีชื่อเรียกว่า หอไหว้สีกุหลาบ

           ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2112 ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช สิ่งที่ทำให้แปลกตา คือ ช่องบรรจุพระพุทธรูปขนาดเล็กจำนวนนับพันองค์บนผนังภายในวิหารหลังนี้ เป็นเรื่องของพระอนันตพระพุทธเจ้า


หอพระม่าน พระพม่าที่ชาวหลวงพระบางนับถือมาก

           วิหารหลังใหญ่ หลังพระอุโบสถ เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ หอไหว้หลังนี้ประดิษฐานพระม่าน (พระพม่า) ที่ชาวหลวงพระบางนับถือกันมาก เนื่องจากพม่าได้เข้ามามีอิทธิพลในล้านช้างอยู่ระยะหนึ่ง ในช่วงท้ายพุทธศตวรรษที่ 21 ชาวลาวนิยมมาบนบานเพื่อขอบุตรจากพระม่านองค์นี้


สิมวัดเชียงทอง ยอดอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมล้านนา

           นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่มีความสวยงามอีกมากมาย เช่น หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ (โรงเมี้ยนโกศ) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2505 หลังการสิ้นพระชนม์ของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ เป็นอาคารที่มีหลังคาสูง ประดับด้วยงานแกะสลักเรื่องรามเกียรติ์ งดงามมาก หอราชโกศนี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษามรดกเก่าแก่ของหลวงพระบาง เช่น ราชรถ ไม้แกะสลักปิดทอง ประดิษฐานพระโกศ 3 องค์ คือ องค์ใหญ่ตรงกลางเป็นของเจ้าศรีสว่างวงศ์ องค์เล็กด้านหลังของพระราชมารดา ส่วนองค์ด้านหน้าเป็นของพระเจ้าอา

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


วิหารแดงหรือหอไหว้สีกุหลาบ ด้านข้างพระอุโบสถวัดเชียงทอง

           เนื่องจากวัดเชียงทองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันสำคัญของหลวงพระบาง ที่ในแต่ละวันมีคนไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งวัดเชียงทองก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีแห่งพุทธศาสนาทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ควรไปในช่วงเช้า เพราะแดดจะยังไม่ส่องตัววัดอย่างเต็มที่ ทำให้ถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม

           นอกจากนี้หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป สามารถเดินทางไปในช่วงสงกรานต์ได้ เนื่องจากมีประเพณีสรงน้ำพระม่านของชาวหลวงพระบาง

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


โรงเมี้ยนโกศวัดเชียงทอง สร้างขึ้นเพื่อใช้เพื่อเก็บโกศและพระราชรถ

           พระม่านเพี้ยนมาจากคำว่า "พม่า" เนื่องจากพม่าได้สร้างองค์พระจากทองคำเนื้อนพเก้า (ทองเนื้อเก้าคือทองที่สวยและสูงค่าที่สุด )เสร็จแล้วจึงได้นำขึ้นแพล่องแม่น้ำโขงเพื่อนำกลับพม่า แต่พอถึงบริเวณเมืองหลวงพระบาง องค์พระได้หยุดและหมุนวนน้ำ ทำยังไงก็ไม่สามารถดึงแพไปต่อได้  เจ้าอาวาสทุกวัดได้มาอัญเชิญ อุ้มท่านขึ้นจากแม่น้ำโขงแต่ก็ไม่มีวัดไหนสามารถยกขึ้นมาได้ จนกระทั่งเจ้าอาวาส "วัดเชียงทอง" มาตั้งจิตอธิษฐาน และสามารถอุ้มองค์พระขึ้นจากน้ำได้ราวปาฏิหาริย์ จึงได้อัญเชิญเข้าวัดและทำการสมโภชอย่างยิ่งใหญ่


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดเชียงทอง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดเชียงทอง หลวงพระบาง ประเทศลาว

                       (Xieng Thong Temple, Luang Prabang, Laos)

                       ระดับความนิยม :

                       อัตราค่าเข้าชม : 20,000 กีบ

                       เวลาเปิด – ปิด : 06.00 น. – 17.30 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว

                       โทรศัพท์ : -

                       เว็บไซต์ : www.louangprabang.net

                       ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com

                                         ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหลวงพระบาง http://uxolao.org/ และ http://www.fwab.org/fvc

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ