ค้นหา :
พระใหญ่เทียนถาน…พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเกาะฮ่องกง
พระใหญ่เทียนถาน (Tian Tan Buddha) เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางนั่งขนาดใหญ่ที่สุดบริเวณนองปิง (Ngong Ping) ซึ่งเป็นที่ราบสูงทางตะวันตกของเกาะลันเตา (Lantau Island) หนึ่งในแลนด์มาร์กที่สำคัญของฮ่องกง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าพื้นกระจกใสที่มองเห็นทิวทัศน์ได้แบบรอบทิศทาง เพื่อชมความยิ่งใหญ่และสง่างามขององค์พระพุทธรูป สูง 34 เมตร
10 คาถามงคล ขอพร 10 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ไหว้ 10 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมคาถาบูชา เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
พระพุทธชินสีห์ พระศักดิ์สิทธิ์เสริมสร้างชะตา ขอให้ชีวิตปราศจากอุปสรรค
พระพุทธชินสีห์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย จัดอยู่ในศิลปะสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองตั้งแต่ครั้งอดีต และยังเป็นพระประจำหรับผู้ที่เกิดในเดือนหกไทย (เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม) เนื่องจากพระพุทธชินสีห์สร้างขึ้นจำลองจากเหตุการณ์ คราวเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเผชิญกับหมู่มารซึ่งมาขัดขวางไม่ให้พระองค์ทรงตรัสรู้ ก่อนจะทรงมีชัยเหนือพญามารทั้งหลายในที่สุด
พระพุทธอังคีรส พระศักดิ์สิทธิ์มงคลชีวิตสงบสุขรุ่งเรือง
พระพุทธอังคีรส เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิทรงผ้ากลีบ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานอยู่ ณ อุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๗ แห่งราชวงศ์จักรี
พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร (หลวงพ่อโต) พระทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร หรือที่รู้จักกันในนาม หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย องค์พระสร้างขึ้นจากทองคำแท้ทั้งองค์ (หรือที่เรียกกันในอดีตว่า ทองเนื้อเจ็ด น้ำสองขา ) หน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว สูง 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว (หรือประมาณ 3.04 เมตร) จึงได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คส์ในปี 2534 ให้เป็นพระพุทธรูปทองคำที่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยคิดเป็นมูลค่าเฉพาะเนื้อทองตามราคาประเมินขณะนั้น เป็นเงินประมาณ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ
พระพุทธชินราช พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก
พระพุทธชินราช หรือที่นิยมเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7 ศอก องค์พระเมื่อแรกสร้างขึ้นจากสำริด ก่อนจะลงรักปิดทองในสมัยต่อมา
พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) พระศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองกรุงเก่า
พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่คนนิยมเรียกกันมาตั้งแต่อดีตว่า หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย กว้าง 20 เมตร สูง 19 เมตร เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปปูนปั้นที่งดงามคู่บ้านคู่เมืองอยุธยามาตั้งแต่ครั้งอดีต
พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร (พระแก้วมรกต) ประธานพระพุทธรูปทั้งมวลของประเทศไทย
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือที่รู้จักกันดีในนามของ พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในบริเวณเดียวกับพระบรมมหาราชวัง ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย และ เป็นองค์ประธานของพระพุทธรูปทั้งหลายในประเทศไทยอีกด้วย
พระศรีศากยมุนี พระมงคลศักดิ์สิทธิ์ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข
พระศรีศากยมุนี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย องค์พระหล่อด้วยโลหะ และลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 3 วา 1 คืบ สูง 4 วา ถือเป็นพระพุทธรูปในสมัยก่อนพุทธศตวรรษที่ 25 ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่ง
พระพุทธโสธร พระศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมศรัทธาแห่งเมืองฉะเชิงเทรา
พระพุทธโสธร หรือที่ประชาชนเรียกด้วยความศรัทธาว่า หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะอยุธยา หน้าตักกว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว สูง 6 ฟุต และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว หรือจังหวัดฉะเชิงเทรามาช้านาน
พระพุทธไสยาสน์ พระนอนศักดิ์พรสิทธิ์มงคล 108 ประการแห่ง วัดโพธิ์
พระพุทธไสยาสน์ หรือที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า พระนอนวัดโพธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ สร้างโดยการก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ขนาดขององค์พระยาว 46 เมตร ความสูงจากพื้นถึงยอดพระเกตุมาลา 15 เมตร ถือว่าเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย
หลวงพ่อบ้านแหลม ตำนานพระศักดิ์สิทธิ์ลอยน้ำคู่เมืองสมุทรสงคราม
หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร ศิลปะสุโขทัย องค์พระทำด้วยทองเหลือง สูงใกล้เคียงกับคนจริง (ประมาณ 170 เซนติเมตร) เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า หากไปถึงเมืองสมุทรสาครแล้วไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อบ้านแหลม ก็เหมือนไม่ได้ไปเมืองสมุทรสาคร
วัดม่วง (พระพุทธรูปนั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
วัดม่วง วัดที่ถูกขนานนามว่า ประดิษฐานพระพุทธรูปนั่ง ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีนามว่า "พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" เดิมวัดม่วงเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปี พ.ศ. ๒๒๓๐ ณ. แขวงเมืองวิเศษชาญ ซึ่งเคยได้เป็นเมืองหน้าด่าน ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ กรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า พม่าได้เผาผลาญบ้านเมือง วัดวาอาราม และพระพุทธรูปไปเป็นจำนวนมาก สิ่งที่หลงเหลืออยู่ คือ ซากปรักหักพังของวัดวาอาราม และพระพุทธรูป ที่อยู่บนเนินมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก
แท็ก
แท็กท่องเที่ยวอื่นๆที่คุณอาจสนใจ