พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร (พระแก้วมรกต) ประธานพระพุทธรูปทั้งมวลของประเทศไทย

  • อ่าน (7,563)
  • ByWebmaster
  • 16:20:56 | 27 ธ.ค. 2560

พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร (พระแก้วมรกต)

ประธานพระพุทธรูปทั้งมวลของประเทศไทย


พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จังหวัดกรุงเทพมหานคร

           พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร  หรือที่รู้จักกันดีในนามของ พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในบริเวณเดียวกับพระบรมมหาราชวัง ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย และ เป็นองค์ประธานของพระพุทธรูปทั้งหลายในประเทศไทยอีกด้วย

           องค์พระแก้วมรกตนั้น สร้างจำลองขึ้นจากเหตุการณ์พุทธประวัติเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงทำสมาธิหลังชนะกองทัพของพญามารได้ และอยู่ในอิริยาบถนั้นไปจนกระทั่งตรัสรู้ ทำ ให้พระแก้วมรกตขึ้นชื่อว่าให้คุณในด้านของความสงบสุข ตลอดจนนำโชคลาภมงคลความรุ่งเรืองในด้านต่างๆแก่ผู้ที่กราบไหว้

           นอกจากนี้ ความพิเศษที่สำคัญที่สุดขององค์พระแก้วมรกตคือ ถึงแม้จะถูกเรียกว่ามรกต แต่ความจริงแล้ว องค์พระแก้วมรกตนั้นทำมาจากหินหยกอ่อนเนไฟร์ต (Nephrite) สีเขียวสดเสมอกันทั้งองค์ ไม่มีริ้วรอยหรือสีขุ่นแซมตรงไหน ซึ่งถือเป็นหินหยกอ่อนเนื้อดีที่หาได้ยากอย่างมากแม้ในปัจจุบัน ประกอบกับฝีมือช่างซึ่งสลักพระพุทธรูปเนื้อหินอ่อนด้วยกรรมวิธีที่ยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้ ทำให้พระแก้วมรกตไม่เป็นเพียงศูนย์รวมศรัทธาเท่านั้น หากยังเป็นงานพุทธศิลป์อันล้ำค่าที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วด้วย

ประวัติความเป็นมา

           ความเป็นมาในการสร้างพระแก้วมรกตนั้นมีหลายแบบ ทั้งจากความเชื่อที่ว่าสร้างประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่ 5-6 โดยพระนาคเสนเถระ ที่เมืองปาฎลีบุตร ในประเทศอินเดียสมัยก่อน หรือจากการสันนิฐานผ่านรูปแบบศิลปะขององค์พระซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงก่อนเชียงแสน หรือประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 - 20

           อย่างไรก็ดี หลักฐานการค้นพบพระแก้วมรกตที่ชัดเจนนั้น อยู่ในประมาณปี 1977 จากเหตุการณ์ที่ฟ้าผ่าองค์พระเจดีย์เก่าในวัดป่ายะ เมืองเชียงราย (ปัจจุบันคือวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย) พังลงและพบพระพุทธรูปพอกปูนลงรักด้านใน จึงมีการอัญเชิญออกมาประดิษฐานไว้ในวิหาร ก่อนที่ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิกจะกะเทาะ ทำให้เห็นเนื้อสีเหมือนมรกตที่อยู่ภายใน เมื่อกะเทาะปูนทั้งหมดออกจึงพบว่าองค์พระนั้นทำด้วยหินสีเขียวเหมือนมรกตทั้งองค์ หลังจากนั้น พระแก้วมรกตได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังหลายสถานที่ ทั้งเมืองลำปาง,  เมืองเชียงใหม่, เมืองหลวงพระบาง, เมืองเวียงจันทร์ เป็นเวลากว่า 200 ปี

           ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าตากสินแห่งกรุงธนบุรี จะอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานยังวัดอรุณราชวราราม และเมื่อถึงสมัยของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตลงบุษบกในเรือพระที่นั่ง มาประดิษฐานยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งสร้างขึ้นไว้ภายในพระบรมมหาราชวัง และถวายเครื่องทรงสำหรับ 3 ฤดู ซึ่งกลายเป็นประเพณีในการเปลี่ยนเครื่องทรงสืบต่อมา

การเดินทาง

               รถโดยสารสาธารณะ มีให้เลือกหลายสาย และหลายจุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกลงได้ทั้งป้ายสนามหลวง หรือป้ายหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเดินต่อไปอีกเพียง 5 – 10 นาที ก็จะถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.bmta.co.th)

               เรือ วัดพระแก้วตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือนัก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาหรือเรือข้ามฟาก และเลือกขึ้นเรือที่ท่าช้าง จากนั้นเดินออกจากท่าเรือมาประมาณ 5 นาที ก็จะถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.chaophrayaexpressboat.com)

               รถยนต์ สามารถนำรถยนต์ไปจอดไว้ที่บริเวณใกล้ๆ เช่น ข้างศาลหลักเมือง ซึ่งไม่คิดค่าบริการในการจอดรถ หรือจอดที่อื่นอย่างลานจอดรถถนนราชดำเนิน, วัดมหาธาตุ, ท่ามหาราช, อาคารจอดรถวัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งอาจมีค่าบริการในการจอด

           ***แนะนำการเดินทาง : แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก  โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG

อัตราค่าเข้าชม

           เข้าชม ฟรีสำหรับชาวไทย และเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท สำหรับชาวต่างชาติ (ค่าเข้าชมเหมารวมสำหรับเข้าชมกับพระบรมมหาราชวัง, พระที่นั่งวิมานเมฆ และพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณ์ไทยด้วย)

การแต่งกาย

           วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับพระบรมมหาราชวัง จึงควรแต่งกายสุภาพ งดสวมเสื้อไม่มีแขน เสื้อรัดรูป กางเกงหรือกระโปรงขาสั้น รวมถึงรองเท้าแตะ ทั้งนี้หากแต่งกายมาไม่เหมาะสม สามารถขอยืมเครื่องแต่งกายได้บริเวณประตูวิเศษไชยศรี

เวลาเปิด-ปิดสำหรับไปไหว้พระ

           เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 15.30 น.


ที่ตั้ง : แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

โทรศัพท์ : (+66)2-629-5854           เว็บไซต์ : https://thai.tourismthailand.org/วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ