พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร (พระแก้วมรกต) ประธานพระพุทธรูปทั้งมวลของประเทศไทย

  • อ่าน (7,359)
  • ByWebmaster
  • 16:20:56 | 27 ธ.ค. 2560

พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร (พระแก้วมรกต)

ประธานพระพุทธรูปทั้งมวลของประเทศไทย


พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จังหวัดกรุงเทพมหานคร

           พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร  หรือที่รู้จักกันดีในนามของ พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในบริเวณเดียวกับพระบรมมหาราชวัง ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย และ เป็นองค์ประธานของพระพุทธรูปทั้งหลายในประเทศไทยอีกด้วย

           องค์พระแก้วมรกตนั้น สร้างจำลองขึ้นจากเหตุการณ์พุทธประวัติเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงทำสมาธิหลังชนะกองทัพของพญามารได้ และอยู่ในอิริยาบถนั้นไปจนกระทั่งตรัสรู้ ทำ ให้พระแก้วมรกตขึ้นชื่อว่าให้คุณในด้านของความสงบสุข ตลอดจนนำโชคลาภมงคลความรุ่งเรืองในด้านต่างๆแก่ผู้ที่กราบไหว้

           นอกจากนี้ ความพิเศษที่สำคัญที่สุดขององค์พระแก้วมรกตคือ ถึงแม้จะถูกเรียกว่ามรกต แต่ความจริงแล้ว องค์พระแก้วมรกตนั้นทำมาจากหินหยกอ่อนเนไฟร์ต (Nephrite) สีเขียวสดเสมอกันทั้งองค์ ไม่มีริ้วรอยหรือสีขุ่นแซมตรงไหน ซึ่งถือเป็นหินหยกอ่อนเนื้อดีที่หาได้ยากอย่างมากแม้ในปัจจุบัน ประกอบกับฝีมือช่างซึ่งสลักพระพุทธรูปเนื้อหินอ่อนด้วยกรรมวิธีที่ยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้ ทำให้พระแก้วมรกตไม่เป็นเพียงศูนย์รวมศรัทธาเท่านั้น หากยังเป็นงานพุทธศิลป์อันล้ำค่าที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วด้วย

ประวัติความเป็นมา

           ความเป็นมาในการสร้างพระแก้วมรกตนั้นมีหลายแบบ ทั้งจากความเชื่อที่ว่าสร้างประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่ 5-6 โดยพระนาคเสนเถระ ที่เมืองปาฎลีบุตร ในประเทศอินเดียสมัยก่อน หรือจากการสันนิฐานผ่านรูปแบบศิลปะขององค์พระซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงก่อนเชียงแสน หรือประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 - 20

           อย่างไรก็ดี หลักฐานการค้นพบพระแก้วมรกตที่ชัดเจนนั้น อยู่ในประมาณปี 1977 จากเหตุการณ์ที่ฟ้าผ่าองค์พระเจดีย์เก่าในวัดป่ายะ เมืองเชียงราย (ปัจจุบันคือวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย) พังลงและพบพระพุทธรูปพอกปูนลงรักด้านใน จึงมีการอัญเชิญออกมาประดิษฐานไว้ในวิหาร ก่อนที่ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิกจะกะเทาะ ทำให้เห็นเนื้อสีเหมือนมรกตที่อยู่ภายใน เมื่อกะเทาะปูนทั้งหมดออกจึงพบว่าองค์พระนั้นทำด้วยหินสีเขียวเหมือนมรกตทั้งองค์ หลังจากนั้น พระแก้วมรกตได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังหลายสถานที่ ทั้งเมืองลำปาง,  เมืองเชียงใหม่, เมืองหลวงพระบาง, เมืองเวียงจันทร์ เป็นเวลากว่า 200 ปี

           ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าตากสินแห่งกรุงธนบุรี จะอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานยังวัดอรุณราชวราราม และเมื่อถึงสมัยของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตลงบุษบกในเรือพระที่นั่ง มาประดิษฐานยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งสร้างขึ้นไว้ภายในพระบรมมหาราชวัง และถวายเครื่องทรงสำหรับ 3 ฤดู ซึ่งกลายเป็นประเพณีในการเปลี่ยนเครื่องทรงสืบต่อมา

การเดินทาง

               รถโดยสารสาธารณะ มีให้เลือกหลายสาย และหลายจุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกลงได้ทั้งป้ายสนามหลวง หรือป้ายหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเดินต่อไปอีกเพียง 5 – 10 นาที ก็จะถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.bmta.co.th)

               เรือ วัดพระแก้วตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือนัก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาหรือเรือข้ามฟาก และเลือกขึ้นเรือที่ท่าช้าง จากนั้นเดินออกจากท่าเรือมาประมาณ 5 นาที ก็จะถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.chaophrayaexpressboat.com)

               รถยนต์ สามารถนำรถยนต์ไปจอดไว้ที่บริเวณใกล้ๆ เช่น ข้างศาลหลักเมือง ซึ่งไม่คิดค่าบริการในการจอดรถ หรือจอดที่อื่นอย่างลานจอดรถถนนราชดำเนิน, วัดมหาธาตุ, ท่ามหาราช, อาคารจอดรถวัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งอาจมีค่าบริการในการจอด

           ***แนะนำการเดินทาง : แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก  โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG

อัตราค่าเข้าชม

           เข้าชม ฟรีสำหรับชาวไทย และเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท สำหรับชาวต่างชาติ (ค่าเข้าชมเหมารวมสำหรับเข้าชมกับพระบรมมหาราชวัง, พระที่นั่งวิมานเมฆ และพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณ์ไทยด้วย)

การแต่งกาย

           วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับพระบรมมหาราชวัง จึงควรแต่งกายสุภาพ งดสวมเสื้อไม่มีแขน เสื้อรัดรูป กางเกงหรือกระโปรงขาสั้น รวมถึงรองเท้าแตะ ทั้งนี้หากแต่งกายมาไม่เหมาะสม สามารถขอยืมเครื่องแต่งกายได้บริเวณประตูวิเศษไชยศรี

เวลาเปิด-ปิดสำหรับไปไหว้พระ

           เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 15.30 น.


ที่ตั้ง : แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

โทรศัพท์ : (+66)2-629-5854           เว็บไซต์ : https://thai.tourismthailand.org/วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ