วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร (Wat Pa Lelai Worawihan) เป็นวัดโบราณที่มีมาก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยมีพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงคือหลวงพ่อโตปางป่าเลไลยก์ มีลักษณะคือพระหัตถ์ขวาหงายขึ้น พระหัตถ์ซ้ายคว่ำลง องค์พระมีพระพักตร์งดงามแบบศิลปะเชียงแสน นอกจากนี้ที่กำแพงวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องขุนช้าง-ขุนแผนที่มีความสวยงามอีกด้วย

พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ( Don Chedi Monument) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่าและได้ประกาศอิสรภาพไม่เป็นเมืองขึ้นของพม่าอีกต่อไป เมื่อชนะศึกแล้วจึงได้สร้างพระเจดีย์องค์นี้ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันกองทัพบกได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาครอบพระเจดีย์องค์จริงเอาไว้

ตลาดเก้าห้อง 100 ปี (Kao Hong Market ) เป็นตลาดโบราณริมแม่น้ำท่าจีน เคยเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนสินค้าของชาวจีนและไทยที่มีความรุ่งเรืองในอดีต มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไทย – จีนโบราณที่มีอายุกว่า 100 ปี ลักษณะเป็นห้องแถวไม้เรียงราย เนื่องจากเป็นเรือนไม้จึงผุพังไปตามกาลเวลา ในปัจจุบันจึงได้มีการอนุรักษ์และฟื้นฟูให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์โดยมีสะพานแดงและหอดูโจรเป็นไฮไลท์ นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่อที่อยู่คู่กับตลาดแห่งนี้ให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

ทะเลน้อย (Thale Noi) เป็นทะเลสาบน้ำจืดตามธรรมชาติที่ยังคงระบบนิเวศที่สมบูรณ์ทั้งพันธุ์พืช สัตว์น้ำ สัตว์ปีกจนได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ในปี พ.ศ. 2518 ซึ่งนับเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย และพื้นที่โดยรอบเป็นป่าพรุ นาข้าว ทุ่งหญ้า พืชบก และพืชน้ำอีกหลายชนิด ทำให้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำหรือ “แรมซาร์ ไซด์” (Ramsar Site) แห่งแรกในประเทศไทย และไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของทะเลน้อย นั่นคือการล่องเรือชมทุ่งบัวแดงที่ได้รับสมญานามว่าทะเลล้านบัว และชมชีวิตควายน้ำสัตว์ 2 โลกได้อย่างใกล้ชิดนั่นเอง

พญาศรีสัตตนาคราช (Naga Monument) เป็นรูปปั้นพญานาค 7 เศียรสีทองหล่อด้วยทองเหลืองน้ำหนักรวม 9 ตัน ด้วยความสูงรวมฐานประมาณ 16.29 เมตร ประดิษฐานอย่างโดดเด่นสง่างามเหนือริมฝั่งแม่น้ำโขงโดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ หางชี้ไปทางแม่น้ำโขง แสดงถึงความเชื่อและความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง และนับเป็นรูปปั้นพญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม

พระธาตุพนม (Phra That Phanom) ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระธาตุแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดนครพนม ด้วยสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุแบบเดียวกันกับปราสาทขอม ภายในบรรจุพระธาตุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครพนมและภาคตะวันออกเฉียงเหนือไว้ นั่นคือพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังมีของมีค่ามากมายโดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุที่มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม นอกจากนี้พระธาตุพนมยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ มีผู้กล่าวว่าแม้ใครมีโอกาสมานมัสการองค์พระธาตุแม้เพียงสักครั้งก็ถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต และเชื่อกันว่าอานิสงส์จะส่งผลให้เป็นผู้มีบุญบารมีและเป็นที่เคารพนับถือ