- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- 10 วัดสวยภาคกลาง...งามตระการพุทธศิลป์ ประเทศไทย
10 วัดสวยภาคกลาง...งามตระการพุทธศิลป์ ประเทศไทย

- อ่าน (7,127)
- ByWebmaster
- 10:36:11 | 27 เม.ย. 2565
10 วัดสวยภาคกลาง...งามตระการพุทธศิลป์ ประเทศไทย
ภาคกลาง นอกจากจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต ภูมิภาคนี้ของประเทศไทยยังเป็นแหล่งอารยธรรมที่หลากหลาย และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามทรงคุณค่ามากมาย โดยเฉพาะวัดวาอารามสวยๆ ทั้งที่เก่าแก่และที่สร้างในปัจจุบันสมัย ทั้งงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ ไปจนถึงสถาปัตยกรรมแบบจีนและอินเดีย… Palanla จะพาไปชม 10 วัดสวยภาคกลางพร้อมๆ กัน
แผนที่แสดงตำแหน่งของ 10 วัดสวยภาคกลาง
1. วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2)
วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (Wat Borom Racha Kanjanapisek Anusorn (Wat Leng Noei Yi 2) อยู่ที่ ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นวัดจีนที่มีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมจีนที่คล้ายกับพระราชวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน โดยใช้พุทธศิลป์ในราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง และมีการวางผังตามแบบวัดพุทธศาสนานิกายฌาน ภายในวิหารหลักเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้าสามพระองค์เป็นพระประธาน และภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้หอมต้นเดียว รวมถึงองค์ทวยเทพที่สำคัญอื่นๆ ของนิกายมหายานอีกหลายองค์ วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในช่วงตรุษจีน โดยชาวไทยเชื้อสายจีนและผู้มีจิตศรัทธามักจะเดินทางมาไหว้ขอพรองค์ทวยเทพและแก้ปีชงกันในทุกๆ ปี
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 8.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 13°54'47.6"N 100°25'16.7"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=835
2. วัดพิพัฒน์มงคล
วัดพิพัฒน์มงคล (Wat Pipat Mongkol) วัดสวยงามวิจิตรที่โดดเด่นด้วยศิลปะโบราณทรงไทยล้านนาบนพื้นที่ 119 ไร่ ในตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ถือเป็นสถานธรรมชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศ และยังเป็นแหล่งศึกษาเชิงพุทธศาสนา และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติด้วย ซึ่งแต่เดิมนั้นวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างกลางทุ่งนา โดยสันนิษฐานกันว่าเป็นวัดมาก่อนประมาณ 700 ปีแล้ว ถึงแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ได้มีการพบรากฐานอุโบสถ เจดีย์โบราณ ซึ่งจมอยู่ใต้พื้นดินลึกลงไปประมาณ 1เมตรครึ่ง ภายในวัดเต็มไปด้วยศิลปะที่งดงาม มีเอกลักษณ์แบบล้านนา รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย อายุราว 500 ปี ซึ่งเป็นทองคำแท้ หนักถึง 9 กิโลกรัม สร้างด้วยศิลปะสมัยสุโขทัยที่มีความงดงามและเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์กับวัดแห่งนี้และจังหวัดสุโขทัย
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 17.00 น.
พิกัด GPS : 17°19'21.6"N 99°33'04.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพิพัฒน์มงคล ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=809
3. วัดป่าสว่างบุญ
วัดป่าสว่างบุญ (Wat Pa Sawang Bun) ตั้งอยู่ที่ ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นวัดป่าตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขาที่มีบรรยากาศสงบและร่มรื่น วัดแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2534 ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ห้าร้อยยอด ซึ่งเป็นหมู่เจดีย์สีทองอร่าม และพระมหาเจดีย์เทพนิธากรสีทององค์ใหญ่ที่ด้านบนเขา โดยศาสนสถานทั้งสองแห่งนี้ด้านในเป็นที่บรรจุพระบรมสาริกธาตุซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาจากชาวสระบุรีมาอย่างช้านาน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดสระบุรี นิยมแวะมาเที่ยวชมความงดงามของสถานที่ต่างๆ ภายในวัด และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.00 - 18.00 น.
พิกัด GPS : 14°24'59.2"N 101°07'58.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดป่าสว่างบุญ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=586
4. วัดมณีวงศ์
วัดมณีวงศ์ (Wat Maniwong) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 7 ไร่ 2 งาน 1 ตารางวา ในตำบลดงละคร อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2466 เป็นวัดเก่าอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนรุ่งเรือง ภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามมากมาย นักท่องเที่ยวมักจะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ทำสังฆทานภายในพระอุโบสถ และสักการะทวยเทพภายในวิหารจีนที่มีพระพุุทธรูปหลวงพ่อพันล้านสีทององค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านบน และที่พลาดไม่ได้คือการเที่ยวชมวังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช หรือถ้ำพญานาคเมืองบาดาล ที่มีการสลักเสลาองค์พญานาคนับร้อยองค์อย่างวิจิตรงดงาม
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 14°09'15.7"N 101°11'11.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดมณีวงศ์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=569
5. วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ (พุทธคยาจำลอง)
วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ (Wat Pa Siri Wattana Wisut) ตั้งอยู่ที่ บ้านเขาโคกเผ่น ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ วัดแห่งนี้เป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2527 ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 96 ไร่ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามหลายจุด โดยมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือ “เจดีย์ศรีพุทธคยา” ซึ่งจำลองแบบจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในองค์เจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยองค์เจดีย์นั้นมีความสูง 28 เมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงกรวย ส่วนยอดเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น และรอบเจดีย์มีพระพุทธรูปปางประทับยืนและประทับนั่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามและเขียวขจีของภูเขาโดยรอบ
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 15°35'29.9"N 100°30'30.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ (พุทธคยาจำลอง) ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=973
6. วัดอโศการาม
วัดอโศการาม (Wat Asokaram) ตั้งอยู่ที่ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวัดขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 53 ไร่ ภายในวัดโดดเด่นด้วยหมู่องค์เจดีย์สีขาวที่มีชื่อว่า พระธุตังคเจดีย์ เป็นเจดีย์หมู่ 13 องค์ พระเจดีย์ทุกองค์มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในผอบทอง เงิน และนาก ภายในอาคารเป็นที่บรรจุพระธาตุพระอรหันต์ 28 องค์ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่หลุย หลวงตามหาบัว หลวงพ่อลี และอีกมากมาย ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมภายในได้ ใกล้กันเป็นวิหารสุทธิธรรมรังสี เป็นวิหารที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอดมณฑป ภายในประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง รูปหล่อหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และสรีระ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร เจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้นั่นเอง
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 13°32'50.8"N 100°36'28.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดอโศการาม ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=533
7. วัดสังกัสรัตนคีรี
วัดสังกัสรัตนคีรี (Wat Sangkat Rattana Khiri) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาสะแกกรัง ในตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี แต่เดิมเรียกกันว่าวัดเขาสะแกกรังตามลักษณะของภูเขาขนาดย่อมภายในบริเวณวัดและแม่น้ำสะแกกรังที่อยู่ไม่ไกล ภายในวัดสังกัสรัตนคีรีบริเวณตรงข้ามเชิงเขาเป็นที่ตั้งของวิหารที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริดเก่าแก่ที่มีอายุประมาณ 600-700 ปี สร้างในสมัยพระเจ้าลิไทยโดยฝีมือช่างสุโขทัย ความพิเศษของพระพุทธรูปองค์นี้ คือ ส่วนพระเศียรและส่วนองค์พระต่างเป็นชิ้นส่วนที่นำมาจากพระพุทธรูปองค์อื่น แล้วนำมาซ่อมแซมปฏิสังขรณ์จนเป็นองค์เดียวกัน และได้มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเศียร เป็นพระพุทธรูปที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาอย่างช้านาน และนิยมมากราบสักการบูชาเพื่อขอโชคลาภ และความสำเร็จในการประกอบอาชีพ นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือมณฑปสิริมหามายากุฎาคารที่ตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และยังเป็นจุดชมวิวเมืองอุทัยธานีจากมุมสูงอีกด้วย
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 6.00 น. – 20.00 น.
พิกัด GPS : 15°22'43.1"N 100°01'01.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดสังกัสรัตนคีรี ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=45
8. วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
วัดจันทาราม หรือ วัดท่าซุง (Wat Chantaram (Wat Tha Sung)) ตั้งอยู่ที่ ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองจังหวัดอุทัยธานี วัดจันทารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีการตกแต่งภายในอย่างวิจิตรประณีต ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัดอุทัยธานี ภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นไฮไลท์อยู่หลายแห่ง เช่น วิหารพระศรีอาริยเมตไตรยที่ภายในประดับด้วยกระจกรอบด้านซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรย หรือพระวิหารสมเด็จองค์ปฐมที่ภายในตกแต่งด้วยลายแก้วอย่างงดงาม รวมถึงหอพระไตรปิฎก ปราสาททองคำ มหาวิหารแก้ว และเจดีย์พุดตาล อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาที่มีต่อพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาช้านานอีกด้วย
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00 น. – 16.00 น.
พิกัด GPS : 15°19'48.7"N 100°04'16.9"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับวัดจันทาราม (วัดท่าซุง)ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=54
9. วัดถ้ำเขาวง
วัดถ้ำเขาวง (Wat Tham Khao Wong) ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี วัดแห่งนี้เป็นวัดป่าและเป็นธรรมสถานเพื่อการปฏิบัติธรรมที่ตั้งอยู่บนเขา ภายในบริเวณวัดตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบและร่มรื่น โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง และมีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าซึ่งตกแต่งด้วยสะพานไม้ที่ประกอบขึ้นจากไม้ตามธรรมชาติซึ่งไม่ได้ผ่านการปรับแต่งรูปร่างแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันจึงมีความสวยงามแปลกตา ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักเข้ามาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เหนือบึงน้ำขึ้นไปโดดเด่นด้วยศาลาทรงไทยประยุกต์ 4 ชั้นที่มีความงดงาม ศาลาแห่งนี้สร้างด้วยไม้สัก ไม้มะค่า และไม้ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมถึงไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากหลายจังหวัด นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีถ้ำที่ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างสงบ รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. - 18:00 น.
พิกัด GPS : 15°01'53.9"N 99°27'20.8"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดถ้ำเขาวง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=53
10. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว (Wat Phra That Pha Sorn Kaew) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ในชื่อ “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” โดยหลวงพ่อปารมี สุรยุทโธ (หลวงพ่อยงยุทธ) และ พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นวัดที่โดดเด่นด้วยเจดีย์พระธาตุ 9 ชั้นงามสง่า ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องสี ถ้วยชามเบญจรงค์ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีและทะเลหมอกสีขาว ถือเป็นวัดสวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วยังประดิษฐาน“พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ 5 องค์ประทับนั่งซ้อนกันบนฐานดอกบัว ท่ามกลางทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากการมากราบไหว้สักการะและชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมแล้ว วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วยังเป็นจุดชมวิวสวยๆ อีกจุดหนึ่งของเขาค้อด้วย
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 16°47'21.8"N 101°02'56.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=743
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/Home
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th, http://www.thairoute.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
สมุทรสาครเป็นจังหวัดริมชายทะเลอ่าวไทยที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเล และจุดชมวิวท้องทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ รวมทั้งมีวัดวาอารามที่น่าสนใจให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงขอนำทุกท่านไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของสมุทรสาครเพื่อแนวทางในการท่องเที่ยว กันในบทความนี้
อ่านต่อ
วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
วัดท่าไม้ (Wat Tha Mai) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดสมุทรสาคร วัดแห่งนี้ดังเรื่องการประกอบพิธีทางศาสนา การปฏิธรรม การดูดวง และการสะเดาะเคราะห์ ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง โดดเด่นด้วยพระอุโบสถที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวัดทางเหนืออย่างงดงาม บริเวณด้านนอกเป็นพื้นที่สวนอันร่มรื่น และมีลานเลี้ยงโคกระบือให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ทำบุญไถ่ชีวิต วัดท่าไม้เป็นวัดที่มีลูกศิษย์มากมายตั้งแต่ผู้มีชื่อเสียงไปจนถึงประชาชาชนทั่วไปดังจะเห็นได้จากสติ๊กเกอร์ท้ายรถที่มักพบเห็นตามท้องถนน ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาครที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
วัดโกรกกราก จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
วัดโกรกกราก (Wat Krok Krak) เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระประธานในอุโบสถที่สวมแว่นตาดำ ซึ่งมีที่มาจากการที่ในอดีตได้เกิดโรคตาแดงระบาดไปทั่วบ้านโกรกกราก แต่การแพทย์ในยุคนั้นยังไม่เจริญนัก จึงทำให้ผู้ป่วยมาบนบานศาลกล่าวว่าถ้าตาหายเป็นปกติจะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ผลปรากฏว่าหายตาแดงกันทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้นำแผ่นทองมาปิดที่ตาขององค์พระศิลาแลงเต็มไปหมดจนเกิดความไม่สวยงามนัก พระครูธรรมสาคร เจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงคิดกุศโลบายโดยนำแว่นตาดำมาใส่ให้พระประธาน จึงทำให้ชาวบ้านเปลี่ยนมาถวายแว่นตาแทนการปิดทองนับแต่นั้นมา
อ่านต่อ
ตลาดมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
ตลาดมหาชัย (Mahachai Market) เป็นตลาดชื่อดังของสมุทรสาครที่เด่นเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ในราคาที่ไม่แพง ถือเป็นตลาดปากอ่าวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และเป็นตลาดที่มีความสะดวกในการเดินทาง โดยสามารถมาได้ทั้งทางรถยนต์ เรือ และรถไฟ ทำให้ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งอาหารทะเลขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าและคนทั่วไปเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
หัวหินไนท์มาร์เก็ต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย
หัวหินไนท์มาร์เก็ต (Hua Hin Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่เป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ดส์มากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลอย่างหอยทอด ผัดไท กุ้งเผา ปลาหมึกย่าง และบาร์บีคิว ไปจนถึงของหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วง ทุเรียน และน้ำผลไม้ปั่น นอกจากนี้ยังมีแผงขายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าแฮนด์เมดไปจนถึงของที่ระลึกอย่างเสื้อยืด และพวงกุญแจ หัวหินไนท์มาร์เก็ตมีบรรยากาศที่คึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เป็นสีสันยามราตรีของเมืองหัวหินที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
วนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย
วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest Park) เป็นพื้นที่ป่าในเขตอนุรักษ์ที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศน์โดยมีทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าชายเลน และป่าชายหาด นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติด้วยการเดินท่องเที่ยวไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะผ่านป่าไม้อันร่มรื่นไปจนถึงป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยป่าโกงกาง และถ้าโชคดีก็อาจได้พบกับสัตว์หายากอย่างปูก้ามดาบและงูกะปะอีกด้วย วนอุทยานปราณบุรีจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ
แจกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติทั่วไทย
อุทยานแห่งชาติ (National Park) สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่ใจดีคอยให้ข้อมูล มีที่พัก และอาหารไว้บริการในราคาย่อมเยา และยังมีจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวสายแคมปิ้งได้ดื่มด่ำธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลิน ในวันนี้ palanla เลยจะมาบอกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ไว้ให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติตามไปเช็คอินกัน
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี โดยพื้นที่ภายในประกอบไปด้วย น้ำตกเอราวัณ ถ้ำพระธาตุ และถ้ำวังบาดาล อุทยานแห่งชาติเอราวัณเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549
อ่านต่อ
7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ
อ่านต่อ
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน
อ่านต่อ