- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
![](https://palanla.com//upload/core/pic-4971673179288.jpg)
- อ่าน (5,666)
- ByWebmaster
- 01:12:56 | 26 พ.ย. 2564
กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
Prang Ku Ban Khwao, Maha Sarakham, Thailand
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.m-culture.go.th
กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) (Prang Ku Ban Khwao) โบราณสถานรูปทรงกระโจมสี่เหลี่ยมทำด้วยศิลาแลง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม
ประวัติ
กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) ตั้งอยู่ที่ บ้านเขวา ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม ถือเป็นโบราณสถานสำคัญอีกที่หนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม ที่คาดว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18 สำหรับเป็นโรคยาศาล ในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน ปรางค์กู่แห่งนี้เป็นศิลปะขอมแบบบายน รูปทรงกระโจมสี่เหลี่ยม สร้างด้วยศิลาแลง สูงจากพื้นดินถึงยอด 4 วา กว้าง 2 วา 2 ศอก
ภายในปราสาทล้อมรอบด้วยกำแพงสี่เหลี่ยม มีกู่ปรางค์ประธาน ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้มีบรรณาลัย 1 หลัง มีซุ้มประตูอยู่กึ่งกลางกำแพงแก้ว ด้านหน้าเป็นทางเข้าออกเพียงด้านเดียว ส่วนอีก 3 ด้าน เป็นประตูหลอก กรอบประตูและทับหลังเป็นหินทราย
นอกจากนี้ ยังมีประติมากรรมสำคัญที่ค้นพบภายในกู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) คือ รูปเคารพหินทราย 2 องค์ องค์หนึ่งเป็น พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต พระพุทธเจ้าบรมครูแห่งการแพทย์ ผู้มีความเมตตาประทานธรรมโอสถแก่สรรพสัตว์ทั้งปวง ในอิริบาบถประทับนั่งขัดสมาธิ ประนมมือ และถือสังข์
การเดินทางไปจังหวัดมหาสารคาม
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดมหาสารคาม มีระยะทาง 457 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 20 นาที
จังหวัดมหาสารคามไม่มีเส้นทางรถไฟตัดผ่าน และยังไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟและเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือ จังหวัดขอนแก่น แล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมาที่จังหวัดมหาสารคาม
การเดินทางไปกู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา)
กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) ตั้งอยู่ที่ บ้านเขวา ตำบลเขวา อำเภอเมือง อยู่ห่างจากตัวเมืองมหาสารคาม 45 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา)(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.m-culture.go.th)
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวกู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา)
ชมสถาปัตยกรรมขอมแบบบายนของอโรคยาศาลที่มีอายุเก่าแก่จากพุทธศตวรรษที่ 18
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ปราสาทล้อมรอบด้วยกำแพงสี่เหลี่ยม (ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.m-culture.go.th)
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
กู่มหาธาตุ (ปรางค์กู่บ้านเขวา) จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
(Prang Ku Ban Khwao, Maha Sarakham, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
โทรศัพท์ : (+66) 04374 6104
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม https://mahasarakham.mots.go.th/
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701922558_33574_37-7900.png)
5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701921664_66937_37-9155.jpg)
วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701918154_78010_37-6480.png)
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916880_78028_37-7297.jpg)
ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916268_93127_37-8809.jpg)
น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701915080_71739_37-2018.jpg)
เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677827064_74966_37-9214.jpg)
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677826237_89093_37-6298.jpg)
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677825478_63890_37-6904.jpg)
ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202317011673975462_57311.jpg)
วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อ