ไหว้ 10 พระธาตุทั่วไทยเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่า

  • อ่าน (4,486)
  • ByWebmaster
  • 04:43:15 | 20 พ.ย. 2564

ไหว้ 10 พระธาตุทั่วไทยเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่า

             ตั้งแต่สมัยโบราณจนปัจจุบัน วัดแห่งสำคัญๆ ในประเทศไทยจะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งประดิษฐานไว้ในพระสถูปเจดีย์ นั่นคือ พระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าและของพระสาวกบรรจุไว้ ก่อนจะผ่านพ้นปี 2564 ที่แสนหนักหน่วงนี้ไป เชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากท่องเที่ยว ออกเดินทางไหว้พระทำบุญเพื่อจิตใจที่ผ่องใสและเสริมสร้างพลังชีวิตสำหรับปีที่รออยู่ข้างหน้า Palanla ขอถือโอกาสนี้ชวนคุณออกเดินทางไปไหว้ 10 พระธาตุทั่วไทยเพื่อความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าพร้อมๆ กัน


แผนที่แสดงตำแหน่งของ 10 พระธาตุ
 

1. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง)

             วัดสระเกศ เป็นวัดซึ่งเป็นที่รู้จักจาก บรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ตั้งอยู่ที่แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ภูเขาทองเป็นเจดีย์บนภูเขาจำลองตั้งอยู่ภายในวัด โดยถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นในกรุงเทพฯ ด้วยความสูงกว่า 59 เมตร หรือเท่าตึกสูง 19 ชั้น และสีทองอร่ามที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน บนยอดเจดีย์ภูเขาทองมีพระธาตุบรรจุอยู่ วัดสระเกศในยุคแรกนั้น มีชื่อว่า “วัดสะแก” สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ทำการปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติใน พ.ศ. 2325 การก่อสร้างภูเขาทองใช้เวลาถึง 2 รัชกาล โดยแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บนยอดเจดีย์ภูเขาทองมีการบรรจุพระธาตุไว้ ซึ่งได้รับการบรรจุถึง 2 ครั้ง คือใน ปี พ.ศ. 2420 และ พ.ศ. 2441 ในช่วงวันลอยกระทงของทุกปี จะมีงานสำคัญของบรมบรรพตหรือภูเขาทองคืองาน พิธีห่มผ้าแดงบรมบรรพตภูเขาทองซึ่งมักจัดต่อเนื่องกันยาว 10 วัน

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 13°45'13.8"N 100°30'23.6"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง) ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=79

2. วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร

             วัดพระปฐมเจดีย์ (Wat Phra Pathom Chedi) หรือชื่อเดิมว่า พระธมเจดีย์ ถือเป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย วัดพระปฐมเจดีย์ตั้งอยู่ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช มีพระมหาเจดีย์ทรงระฆังคว่ำที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย อันเป็นสัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดนครปฐม ภายในพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปโบราณที่อัญเชิญมาจากเมืองศรีสัชนาลัย และหลวงพ่อศิลาขาวพระพุทธรูปที่มีอายุกว่าพันปีด้วย และในวันขึ้น 12 ค่ำถึงแรม 5 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปีจะมีการจัดงานสมโภชองค์พระปฐมเจดีย์เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน  

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 19.00 น

พิกัด GPS : 13°49'10.7"N 100°03'36.6"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=207

3. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

             วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (Wat Phra Si Rattana Mahathat Woramahawihan) เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในตัวเมืองพิษณุโลก ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก ชาวพิษณุโลกมักเรียกกันว่า “วัดใหญ่” เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองพิษณุโลกตลอดมา แม้ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อใด แต่สันนิษฐานจากสถาปัตยกรรมและศิลปะที่ใช้คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ภายในพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารประดิษฐานพระบรมธาตุ โดยจากหลักฐานศิลาจารึกสุโขทัยนั้นมีความว่า “พ่อขุนศรีนาวนำถมทรงสร้างพระทันตธาตุสุคนธเจดีย์” ขึ้น ต่อมาได้มีการสร้างพระปรางค์เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวตูมครอบพระสถูปเจดีย์ที่สร้างในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถม เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นครองราชย์ที่เมืองพิษณุโลก ได้โปรดให้บูรณะพระปรางค์โดยดัดแปลงพระเจดีย์ให้เป็นรูปแบบพระปรางค์แบบขอมตามพระราชนิยมในสมัยกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในประเทศไทย รวมถึงมีซากโบราณสถานของพระวิหารเก่าแก่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารส พระพุทธรูปปางห้ามญาติความสูง 10 เมตร ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพิษณุโลกมาอย่างช้านาน ระหว่างวันขึ้น 6 ค่ำ ถึง 12 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีหรือช่วงวันมาฆบูชา วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารจะจัดงานสมโภชพระพุทธชินราช หรือ “งานวัดใหญ่” 

เวลาทำการเปิด – ปิด :  เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 16°49'25.8"N 100°15'43.7"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=590

4. วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร

             วัดพระธาตุหริภุญชัย (Phra That Hari Phun Chai) หรือวัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำพูนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอาทิตยราชแห่งราชวงศ์รามัญ ถือเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่ใหญ่แห่งหนึ่งในอาณาจักรล้านนาไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีต ภายในวัดเต็มไปด้วยโบราณสถานล้ำค่ามากมายฝีมือช่างโบราณสมัยศรีวิชัย รวมถึงองค์พระธาตุหริภุญชัยที่อยู่บริเวณด้านหลังวิหารหลวง พระธาตุหริภุญชัยเป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่มีความงดงาม สมบูรณ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระเกศธาตุบรรจุในโกศทองคำ พระธาตุหริภุญชัยถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีระกา เจดีย์พระธาตุประกอบด้วยฐานปัทม์แบบฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม มีสัตถบัญชรหรือระเบียงหอกซึ่งเป็นรั้วเหล็กและทองเหลือง 2 ชั้น สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือและทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์และฉัตรประจำสี่มุม หอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีปและแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 18°34'37.5"N 99°00'29.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=266

5. วัดพระธาตุลำปางหลวง

             วัดพระธาตุลำปางหลวง (Pra That Lampang Luang) เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีหรือราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20  มีลักษณะเด่นคือเป็นวัดไม้ที่มีความยิ่งใหญ่ สง่างาม และยังเป็นพระธาตุประจำปีฉลู โดยตามประวัตินั้นพระธาตุแห่งนี้เริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จสิ้นในปีฉลูเช่นเดียวกัน ที่ฐานขององค์พระธาตุลำปางหลวงเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์พระธาตุเป็นเจดีย์กลมทรงระฆังคว่ำ บ้างก็เรียกว่าเจดีย์แบบพุกามล้านนา ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาและพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวาพระศอด้านหน้าและด้านหลัง ภายนอกปิดทองจังโกทั่วทั้งองค์เจดีย์ ส่วนยอดฉัตรนั้นทำด้วยทองคำมีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ ซึ่งลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อพระธาตุหริภุญไชย จังหวัดลำพูน และพระบรมธาตุจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ด้วย ซึ่งนอกจากสถาปัตยกรรมภายในวัดจะสร้างด้วยความงดงามประณีตแล้ว วัดแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งรวมงานศิลปกรรมล้านนาที่สมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยที่องค์ประกอบทางศิลปะหลายๆ อย่างไม่สามารถหาชมจากที่อื่นได้อีกแล้ว

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 17.00 น.

พิกัด GPS : 18°13'02.1"N 99°23'20.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุลำปางหลวง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=264

6. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

             วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร หรือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ (Wat Phra That Doi Suthep) เป็นวัดสำคัญและถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพถูกตั้งชื่อตามพระธาตุที่ตั้งอยู่ด้านบนของดอยสุเทพ ซึ่งถือเป็นองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพนับถือสืบเนื่องมาช้านาน ทั้งยังถือเป็นพระธาตุประจำตัวของผู้ที่เกิดปีมะแมหรือปีแพะอีกด้วย และด้วยความศรัทธานี้เองที่ทำให้วัดพระธาตุดอยสุเทพได้รับการทำนุบำรุงสืบต่อเนื่องมา จนภายในวัดเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและประติมากรรมที่สวยงามอันยากจะหาชื่นชมได้จากที่อื่น รวมถึงบรรยากาศที่สวยงามและสามารถชมวิวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างกว้างไกลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.

พิกัด GPS : 18°48'18.0"N 98°55'17.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=105

7. วัดพระบรมธาตุสวี

             วัดพระบรมธาตุสวี ตั้งอยู่ในตำบลสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร วัดเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุสวี โบราณสถานสำคัญที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือ ทั้งยังมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย พระบรมธาตุสวี เจดีย์สีทองทรงระฆังคว่ำ ความสูงราว 70 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตามตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้เสด็จยกทัพมาพักที่วัดร้างในอำเภอสวี มีกาเผือกและฝูงกาตัวอื่นๆ เกาะอยู่บนกองอิฐส่งเสียงร้อง พระองค์จึงรับสั่งให้ทหารรื้อเอาอิฐออกมาและพบกับฐานเจดีย์ใหญ่ที่มีผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุฝังอยู่ในนั้น จากนั้นก็ได้ทำการสร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน และจัดงานสมโภชเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ภายในบริเวณวัดยังมีศาลพระเสื้อเมืองซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนในท้องถิ่นประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านหน้าพระธาตุติดกับแม่น้ำสวี แม่น้ำสายสำคัญของอำเภอสวี จังหวัดชุมพร ประมาณช่วงกลางเดือนมิถุนายนของทุกปีจะมีการจัดงานนมัสการองศ์พระธาตุสวี

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 16.00 น. 

พิกัด GPS : 10°13'48.3"N 99°05'30.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระบรมธาตุสวี ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=713

8. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

             วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (Wat Phra Mahathat Woramahawihan) เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัด “พระบรมธาตุ” ถือเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และประเทศไทย คนท้องถิ่นมักเรียกวัดพระมหาธาตุว่า “พระธาตุไร้เงา” เนื่องจากองค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางไหน ซึ่งยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด พระบรมธาตุเจดีย์มีลักษณะรูปแบบศิลปกรรมเป็นเจดีย์ทรงลังกาสูง 55.78 เมตร ปูชนียสถานแห่งนี้เป็นหลักฐานการแลกเปลี่ยนคุณค่าทางจิตใจของมนุษย์มานานหลายศตวรรษ ตามตำนานกล่าวว่าเจ้าชายทนทกุมารและพระนางเหมชาลา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้วและสร้างเจดีย์องค์เล็กๆ เป็นที่หมายไว้ ต่อมาพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นพร้อมก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่ นอกจากพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชจะเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวนครศรีธรรมราชแล้ว ด้วยความศรัทธาของผู้คนจากถิ่นอื่นก็ทำให้เกิดการจำลองแบบไปสร้างยังที่ต่างๆ จำนวนมาก  รวมถึงเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์โปรดเกล้าฯ ให้จำลองพระบรมธาตุเจดีย์มาสร้างไว้ที่ด้านใต้ของพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ซึ่งยังปรากฏสืบมาถึงปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนโดยเฉพาะชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชจะพร้อมใจกันจัดงานมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ อันเป็นประเพณีสำคัญของชาวนครศรีธรรมราชที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน

เวลาทำการเปิด – ปิด :  เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.

พิกัด GPS : 8°24'37.4"N 99°57'58.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=332

9. พระมหาธาตุแก่นนคร

             พระมหาธาตุแก่นนคร (Pra Mahathat Kaen Nakhon) หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “พระธาตุวัดหนองแวง” เนื่องจากองค์พระธาตุนั้นตั้งอยู่ที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวขอนแก่นมานานกว่า 200 ปี “พระมหาธาตุแก่นนคร” เป็นพระธาตุ 9 ชั้น งดงามและโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสมัยทวาราวดี ผสมผสานกับศิลปะอินโดจีนซึ่งเป็นลักษณะแบบชาวอีสาน โดยเรือนยอดทรงเจดีย์นั้นได้จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น ส่วนด้านในพระธาตุแต่ละชั้นก็เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจ ที่บอกเล่าเรื่องราวอันเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของคนอีสานและพระพุทธศาสนาให้ได้ชม รวมถึงชั้นบนสุดคือชั้นที่ 9 ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยจากชั้นบนยอดเจดีย์จะสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของบึงแก่นนครและเมืองขอนแก่นได้อย่างชัดเจนด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด :  เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 16°24'29.3"N 102°50'03.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระมหาธาตุแก่นนคร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=248

10. วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

             วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร หรือ วัดพระธาตุพนม (Phra That Phanom) ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดนครพนม ด้วยสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุแบบเดียวกันกับปราสาทขอม ภายในบรรจุพระธาตุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครพนมและภาคตะวันออกเฉียงเหนือไว้ นั่นคือพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังมีของมีค่ามากมายโดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุที่มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ มีผู้กล่าวว่าแม้ใครมีโอกาสมานมัสการองค์พระธาตุแม้เพียงสักครั้งก็ถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต เชื่อกันว่าอานิสงส์จะส่งผลให้เป็นผู้มีบุญบารมีและเป็นที่เคารพนับถือ ทุกๆ วันจะมีการเวียนเทียนรอบพระธาตุ กราบบูชาพระธาตุด้วยดอกไม้ธูปเทียน ปิดทองคำเปลว และกล่าวคำนมัสการพระธาตุ โดยเครื่องสักการะที่ใช้ได้แก่ ธูป 5 ดอก เทียน 2 เล่ม ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง และดอกไม้สีแดง เชื่อกันว่าหากใครได้มานมัสการพระธาตุจนครบ 7 ครั้งถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ”  ในระหว่างวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานนมัสการองค์พระธาตุพนมที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และคึกคัก 

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 05.00 - 20.00 น.

พิกัด GPS : 16°56'34.2"N 104°43'24.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=211



ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
 : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com 

                    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://thai.tourismthailand.org/home

                    สกุลเงินที่ใช้ : บาท (THB)

                    ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/


แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศไทย

                   - Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


อัตราค่าบริการแท็กซี่ (
TAXI FARE)


อัตราค่าครองชีพ (
DAILY COST)


สภาพอากาศ (WEATHER)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ